Docchula Community
Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: ว่าที่หมอจ๋า on September 06, 2008, 06:24:06 pm
-
อยากทราบว่า ปี53 การสอบเข้าแพทย์ของจุฬา ยังคงใช้การสอบเข้าแบบเดิมอยู่หรือไม่ หรือว่าใช้ pat กับ gat ตามที่ได้มีการแจ้งระเบียบการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับ อุดมศึกษาแบบใหม่ ถ้าใช้ pat แล้วใช้ patอะไรบ้างคะ แล้วจะต้องสอบของ กสพท.ด้วยมั้ยคะ ช่วยให้รายละเอียดที
-
พี่คิดว่าเรื่องนี้น้องไปถามฝ่ายแนะแนวที่โรงเรียนจะดีกว่ามั้ยครับ :P
น่าจะมีข้อมูลเยอะกว่าพวกพี่ๆนะ
-
การสอบ เปลี่ยนแปลงตลอดครับ
ซึ่งพี่ก้อตอบไมได้เหมือนกัน ว่าปีถัด ๆ ๆ ไปจะเป็นยังไง
ขนาดปีเราเอง ยังงง ๆ เลย ว่ามันจะเอาไงแน่
-
สอบเข้าปี53 ตอนนี้ยังบอกไม่ได้อ่ะ รอก่อน ใจเย็นๆจ้าน้อง อยากให้น้องมาเป็นปีหนึ่งเหมือนกันนะ สู้ๆจ้า อ่านหนังสือเยอะๆ
-
คาดว่าวามถนัดแพทย์ 30 สอบตรงเลย 70 อะค่ะ
แต่ยังไม่แน่ใจ อาจจะไม่ใช้แกทแพทเลย
แค่ดูปลากรอบ ;) ;)
ไม่ชัวร์นะ
-
ไอ้ระบบ pat gat มันเป็นยังไงหรอตอนนี้ ???
วอนน้องที่น่ารักช่วยอธิบายให้พี่รู้ที
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้น้องที่มาอธิบายติดแพทย์จุฬาฯด้วยเถิ๊ดหรือติดคณะที่ปรารถนานะคับ *-* :P
-
ตอบน้องนะครับ เข้าลิงค์แล้วดูวาระการประชุมที่ 4.4
http://www.cotmes.org/FileUpload/2007/Meet82007.pdf
นี่เป็นข้อสรุปเบื้องต้นนะครับ กว่าจะถึงปี 53 อาจมีการเปลี่ยนแปลงอีก
-
ไอ้ระบบ pat gat มันเป็นยังไงหรอตอนนี้ ???
วอนน้องที่น่ารักช่วยอธิบายให้พี่รู้ที
ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้น้องที่มาอธิบายติดแพทย์จุฬาฯด้วยเถิ๊ดหรือติดคณะที่ปรารถนานะคับ *-* :P
http://gatpat.niets.or.th/
เด๋วมีอีกครับ เหอๆ
-
เป็น Admission ระบบใหม่ครับ เด็ก ม.5 ปีนี้เจอเป็นรุ่นแรก ยกเลิก A-NET ไปครับ เหลือแต่ O-NET และใช้ GAT PAT แทน
1. องค์ประกอบในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐในระบบ Admissions กลาง ในปีการศึกษา 2553 มีอะไรบ้าง
ตอบ 1. GPAX ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือเทียบเท่า 20%
2. O-NET (8 กลุ่มสาระฯ) 30%
3. ความถนัดทั่วไป (GAT) 10-50%
4. ความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ (PAT) 0-40%
รวม 100%
2. ความถนัดทั่วไป (GAT : General Aptitude Test) คืออะไร
ตอบ การวัดศักยภาพในการเรียนในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ แยกได้ 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา 50%
ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ 50%
3. ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) คืออะไร
ตอบ ความรู้ที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนต่อในวิชาชีพนั้น ๆ กับศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้น ๆประสบความสำเร็จ
4. ความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (Professional and Academic Aptitude Test หรือ PAT) มีกี่ประเภท
ตอบ มี 7 ประเภท คือ
PAT 1 ได้แก่ ความถนัดทางคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในวิชาคณิตศาสตร์ พีชคณิต เรขาคณิต Calculus สถิติ ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบนักคณิตศาสตร์ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
การอ่านเรื่องทางคณิตศาสตร์แล้วเข้าใจแก้ปัญหาตามกระบวนการคณิตศาสตร์ เป็นต้น
PAT 2 ได้แก่ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ที่จะเรียนในคณะวิทยาศาสตร์ และคณะอื่นที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ความรู้ในเรื่องเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ earth science, ICT เป็นต้น
(2) ความถนัดในการเรียนวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยประสบผลสำเร็จเช่นการคิดแบบ นักวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
PAT 3 ได้แก่ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี เป็นต้น
(2) ความถนัดในการเรียนวิศวกรรมในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น การคิดแบบวิศวกร การแก้ปัญหาทางวิศวกรรม เป็นต้น
PAT 4 ได้แก่ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปกรรม ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนในคณะสถาปัตย์ในมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ เช่น มองเห็นภาพ 3 มิติในใจ การออกแบบ ฯลฯ
PAT 5 ได้แก่ ความถนัดทางครู ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ เช่น ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ฯลฯ
(2) ความถนัดในการเรียนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์สำเร็จ หรือแววในการจะเป็นครู เช่น ความสามารถในการแสวงหาความรู้ ทักษะสื่อสารรู้เรื่อง ฯลฯ
PAT 6 ได้แก่ ความถนัดทางศิลปะ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้ในทฤษฎีทัศนศิลป์ นาฏศิลป์ ดนตรี และความรู้อื่นที่เป็นพื้นฐานที่จะเรียนในคณะศิลปกรรม หรือที่เกี่ยวข้องประสบความสำเร็จ
(2) ความถนัดในการเรียนศิลปะ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
PAT 7 ได้แก่ ความถนัดในการเรียนภาษาต่างประเทศ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
(1) ความรู้เรื่องไวยากรณ์ หลักภาษา วรรณกรรม วรรณคดี ฯลฯ
(2) ความสามารถในการฟัง พูด อ่าน เขียน สรุป ย่อความ ขยายความ สังเคราะห์ วิเคราะห์ ฯลฯ
มี 6 ภาษา คือ ก) ภาษาฝรั่งเศส ข) ภาษาเยอรมัน ค) ภาษาญี่ปุ่น ง) ภาษาจีน จ) ภาษาบาลี ฉ) ภาษาอาหรับ
5. ใครคือผู้ออกข้อสอบ
ตอบ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในคณะที่เกี่ยวข้องของมหาวิทยาลัย
6. สอบกี่ครั้ง ๆ ละ กี่ชั่วโมง กี่คะแนน
ตอบ - GAT สอบ 3 ครั้งต่อปี คะแนนเต็ม 300 คะแนน สอบ 3 ชั่วโมง
- PAT สอบ 3 ครั้งต่อปี คะแนนเต็ม 300 คะแนน สอบ 3 ชั่วโมง
7. สอบเมื่อไร
ตอบ สอบเดือนมีนาคม กรกฎาคม และตุลาคม พ.ศ.2552 (ตามที่ประชุม ทปอ. ระบุ)
8. ครั้งแรกจะสอบเมื่อไร
ตอบ สอบเดือนมีนาคม พ.ศ.2552
9. มีตัวอย่างข้อสอบหรือไม่
ตอบ มี อยู่บนเว็บไซต์ สทศ.
10. คะแนน GAT และ PAT เก็บไว้ได้กี่ปี
ตอบ 2 ปี เลือกคะแนนที่ดีที่สุด
11. ใครจัดสอบ GAT และ PAT
ตอบ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
12. สมัครอย่างไร
ตอบ สมัคร Online ผ่านเว็บไซต์ สทศ. www.niets.or.th
14. สอบ GAT และ PAT ที่ไหน
ตอบ ที่สนามสอบทั่วประเทศ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัครว่าอยู่จังหวัดใด
15. จะประกาศผลสอบเมื่อใด
ตอบ ภายหลังจากการสอบ 2 เดือน
16. สอบ GAT และ PAT ได้กี่ครั้ง
ตอบ มีการจัดสอบปีละ 3 ครั้ง แต่คะแนนเก็บไว้ได้ 2 ปี เท่านั้น
17. เสียค่าสมัครสอบเท่าใด
ตอบ ค่าสมัครวิชาละ 200 บาท
18. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าสอบ
ตอบ จะต้องเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.5 – ม.6 หรือเทียบเท่า และ/หรือเป็น นักเรียนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า แล้วเท่านั้น
19. ในการสอบ PAT กำหนดมั้ยคะว่า จะสอบได้กี่ PAT ต่อคน
ตอบ แล้วแต่สาขาที่นักเรียนเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยว่า ต้องการ PAT อะไรบ้าง
20. ถ้านักเรียน ม.6 ปีนี้ ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ในปี 2552 จะกลับมาเข้ามหาวิทยาลัย โดยกลับมาสอบ GAT / PAT ได้หรือไม่
ตอบ ได้ ระบบ Admissions ปี 2553 เป็นต้นไป ทุกคนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยต้องมีคะแนน O-NET/GAT/PAT
สาธุ ติดจริงๆด้วยเถิดดดดดดดดดดดดดด ;D ;D ;D ;D ;D ;D
-
เนื่องจากที่น้องถามมันเป็นอนาคตม๊ากมาก
พี่คงช่วยตอบอะไรมากไม่ได้เพราะว่าการศึกษาไทยมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้อ่ะนะ
เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
อย่างวิชาเฉพาะแพทย์ที่พี่สอบกับของน้องปี 1 รุ่นนี้ยังไม่เหมือนกันเลย
ไหนจะเปลี่ยนระบบการสอบใหม่(อีกแล้ว)
อีกอย่างเพราะพวกพี่แก่แล้ว ใช้คนละระบบกับน้องอ่ะ ศึกษาเองดีกว่า เดี๋ยวพี่บอกผิดล่ะแย่เลย
ทางที่ดีอ่านหนังสือไว้มากๆ ทำความพร้อมไว้เยอะๆดีกว่านะจ๊ะ
พีเอส อ่านของเรฟบนแล้ว ม.5ก็สอบได้เหรอเนี่ย ดีจัง
พีเอส 2 วิชาเฉพาะแพทย์ต้องสมัครกะ กสพท นะจ๊ะ ไม่ได้สมัครรวมกะความถนัดทั้งหลาย
-
น้องก้อยังไม่ต้องสนใจมันมากหรอกคับ
พี่ก้อเพิ่งมาสนใจวิธีสอบตอนม.6
ถ้าน้องตั้งใจจริง ตอนนี้ก้ออ่านหนังสือเล่นๆไปก่อน
ติดแน่นอน!!!!!!!!
-
น้องก้อยังไม่ต้องสนใจมันมากหรอกคับ
พี่ก้อเพิ่งมาสนใจวิธีสอบตอนม.6
ถ้าน้องตั้งใจจริง ตอนนี้ก้ออ่านหนังสือเล่นๆไปก่อน
ติดแน่นอน!!!!!!!!
อ่านหนังสือเล่นๆนี่ หนังสืออะไรอ่า ???
-
น้องก้อยังไม่ต้องสนใจมันมากหรอกคับ
พี่ก้อเพิ่งมาสนใจวิธีสอบตอนม.6
ถ้าน้องตั้งใจจริง ตอนนี้ก้ออ่านหนังสือเล่นๆไปก่อน
ติดแน่นอน!!!!!!!!
อ่านหนังสือเล่นๆนี่ หนังสืออะไรอ่า ???
ไม่ใช่แนวที่พี่ตั้มชอบอ่านอ่ะ :P
-
น้องก้อยังไม่ต้องสนใจมันมากหรอกคับ
พี่ก้อเพิ่งมาสนใจวิธีสอบตอนม.6
ถ้าน้องตั้งใจจริง ตอนนี้ก้ออ่านหนังสือเล่นๆไปก่อน
ติดแน่นอน!!!!!!!!
อ่านหนังสือเล่นๆนี่ หนังสืออะไรอ่า ???
ไม่ใช่แนวที่พี่ตั้มชอบอ่านอ่ะ :P
หืม พี่ชอบอ่านหนังสือความรู้รอบตัว ???
-
น้องก้อยังไม่ต้องสนใจมันมากหรอกคับ
พี่ก้อเพิ่งมาสนใจวิธีสอบตอนม.6
ถ้าน้องตั้งใจจริง ตอนนี้ก้ออ่านหนังสือเล่นๆไปก่อน
ติดแน่นอน!!!!!!!!
อ่านหนังสือเล่นๆนี่ หนังสืออะไรอ่า ???
ไม่ใช่แนวที่พี่ตั้มชอบอ่านอ่ะ :P
หืม พี่ชอบอ่านหนังสือความรู้รอบตัว ???
เชื่อจังเยย - -