Docchula Community

Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: แบงค์ on May 22, 2010, 12:58:51 am

Title: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: แบงค์ on May 22, 2010, 12:58:51 am
พี่ ๆ คับ

ถ้าผมไม่ชอบเป็นหมอ  แต่เรียนเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง  และเพื่อน ๆ ในห้องที่จะเรียนวิศวะ จุฬา  พอผลประกาศสอบติดหมอทั้งจุฬา ศิริราช  รามา  ก็เปลี่ยนใจมาเรียนหมอ  อยากถามพวกพี่ ๆ ทั้งที่กำลังเรียน  และจบทำงานเป็นหมอแล้ว

1. การที่ไม่ชอบ  จะเรียนได้มั๊ยคับ  จะเรียนไปด้วยความยากลำบาก แบบถึงขนาดต้องทรมานมั๊ย
2. การไม่ชอบ  มีผลกับการจะเรียนจบมั๊ย  ผมไม่ขอบชีววิทยา  ชอบฟิสิกส์  ผมจะเรียนได้มั๊ย   หรือควรจะไปเรียนวิศวะ
3. ไม่ชอบ แค่ก็อยากเรียน อยากเป็นหมอเหมือนกัน  แบบว่าตามเพื่อน ตามกะแส  แล้วเพื่อนก็มีอัธยาศัยที่ดี  วิศวะก็ไม่ถึงกับชอบแต่เรียนฟิสิกส์ได้ดี  เห็นว่าวิศวะตกงานอะคับ
4. การมีทัศนคติที่ไม่ดีกับอาชีพหมอ แบบลบ  มันต้องเปลี่ยนทัศนคติใช่มั๊ยคับ  เพราะเราจะต้องอยู่กับมัน  ผมจะมีทางเปลี่ยนทัศนคติที่ดีกับอาชีพหมอได้มั๊ยคับ  แบบว่าเพราะเราผูกพันกับเพื่อน ๆ  กับ ร.พ. คนไข้  อาจารย์ใหญ่  หรือรักษาคนไข้หายแล้วคนไข้ก็มาขอบคุณเรา  ทำให้เรามีกำลังใจ เห็นคนเองมีคุณค่า  อยากเป็นหมอที่ดี  และในที่สุดก็อาจจะรักอาชีพนี้  หรือไม่ถึงกับรักแต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น ๆ แบบที่ทีแรกคิดไว้ตอนอยู่ปี 1
5. ทราบว่ามีรุ่นพี่ต้องเรียกสอบสัมภาษณ์ครั้งที่ 2  อาจารย์ไม่แนใจ  สรุปว่าสุขภาพจิตไม่มีผลกับการเรียนให้จบ  สามารถวัดได้ขนาดนั้นเลยหรือคับ  และหากเป็นผม  ผมควรจะเรียนมั๊ย  หรือสละสิทธิ์ไปเลยดีก่า

ทีผมาเล่ามานี้ และถามพี่ ๆ หมอ  ขอคำแนะนำด้วยอะคับ  จะเรียนอะไรดีคับ หมอก็ไม่ชอบ วิศวะก็ไม่ถึงกับชอบ  แต่ทัศนคติก็ไม่มองในแง่ลบ  เพียงแค่ไม่มั่นคงมีสิทธิ์ตกงาน  พอดีคุณพ่อผมวิดวะ จุฬาคับ  อาจทำให้ผมมีทัศนคติไม่ค่อยดีกับหมอ (ถ้าทำงานเอกชนช่วงแรก ๆ ดี  แต่บั้นปลายชีวิตไม่ค่อยดีคับ)  แต่คุณพ่อบอก  ถ้าจะเรียนวิศวะจบแล้วก็ไปต่อโททางด้านที่เราชอบได้ เช่น พวกการเงิน

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าวุ้นใจกับ ไม่รู้ตัวตนของตัวเอง  ขอบคุณพี่ ๆ หมอคับ



Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: :: Arm :: on May 22, 2010, 01:43:41 am
พี่คิดคงต้องอยู่ที่ตัวน้องเองครับ ว่า"ทัศนคติในแง่ลบ" ของน้องนั้นน้องใส่ใจกับมันแค่ไหน ถ้าน้องไม่มีทัศนคตินี้น้องจะอยากเป็นหมอมั้ย ?
ทัศนคติมันเปลี่ยนกันได้ครับ น้องใช้เวลามองสิ่งต่างๆมาไม่ยังถึง 20 ปีเลย บางทีน้องอาจจะยังไม่เคยสำผัสความเป็นหมอในอีกมุมมองนึงก็ได้นะ

เพื่อนๆพี่ที่มาเรียนหมอแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองนะ ว่าเข้ามาเรียนเพราะอะไร ก็มีเหมือนกัน คนที่ไม่ชอบแต่ก็มาเรียน
ถ้าถามว่าเรียนได้มั้ย พี่เชื่อว่าถ้าน้องสามารถสอบเข้ามาที่นี่ได้ และไม่ขี้เกียจจนเกินไปน้องสามารถเรียนได้สบายมากครับ
แต่น้องจะมีความสุขในการเรียนมั้ยล่ะ ? น้องก็ต้องตอบเองความสุขในการเรียนของน้องขึ้นอยู่กับอะไร
เพื่อนพี่บางคนถึงเรียนได้ไม่ดีก็มีความสุขได้ ในขณะที่อีกหลายคนเรียนดีก็อาจจะไม่มีความสุข

แต่ส่วนตัวพี่นะ พี่พยามไม่มองอะไรในแง่ลบไว้ก่อนที่เราจะได้สำผัสมันจริงๆ หรือมีอะไรที่ยืนยันได้ว่ามันไม่ดี
ถ้าเรามองมันในแง่ลบไว้ก่อน เราจะไม่มีทางมองมันดีได้หรอกนะ

ขอแค่นี้ละกัน ง่วงละ  ;D
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: pholpipat on May 22, 2010, 09:29:40 am
   สำหรับตัวพี่ที่ตอนนี้กำลังขึ้นชั้นปี 2 ก็พูดจากใจจริงว่า หลังจากที่ได้เรียนในคณะที่ได้ชื่อว่า มีการสอบแข่งขันสูงที่สุดในประเทศ ก็พบว่า การเรียนหมอนั่น (หรือไม่จำเป็นหรอกครับ อาชีพไหนๆ ก็ได้) มันก็มีความยากอยู่ในตัวแตกต่างกันไป พี่จึงอยากบอกน้อง ม. ปลาย ไม่เฉพาะน้องแต่เป็นทุกคนว่า คนเราต้องเลือกเดินในสิ่งที่ตนรัก ไม่ใช่ตามกระแส อย่างที่น้องบอกว่ากลัวตกงานถ้าเป็นวิศวกร พี่ว่าถ้าน้องมีอะไรเจ๋งๆ และไอเดียที่ไม่เหมือนใคร และที่สำคัญน้องรักที่จะเป็นผู้สร้าง และประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่  พี่ว่าน้องเป็นวิศวกรเถอะ
   ทุกคนมีเป้าหมายเป็นของชีวิตตนเองทั้งนั่น ไม่มีใครจะมาตัดสินอนาคตตัวเราได้นอกจากตัวเราเอง อย่างพี่เองที่เลือกเรียนหมอก็เพราะพี่อยากกลับไปทำงานในพื้นที่ชนบทบ้านเกิดของพี่เอง ไปใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่รวยและไม่จน เพราะหมอเป็นอาชีพพอเพียง แต่มีการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ตลอดชีพ เพราะวิทยาการทางการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอยู่ทุกชั่วโมง ทุกนาที และทุกวินาที จึงเป็นการเหมาะสำหรับคนที่ชอบไขว่ขว้าหาความรู้ตลอดเวลา
    และที่สำคัญคือ ความเสียสละ เพราะเมื่อน้องมาเรียนน้องจะพบว่า ปีที่น้องสบายที่สุดคือ ปี 1 เท่านั้น หลังจากนั้นน้องก็จะต้องหมกมุ่นอยู่กับห้อง Lecture, ห้องปฏิบัติการ, วอร์ดคนไข้ เป็นต้น ยิ่งชั้นปีสูงๆ จะยิ่งมีเวลาว่างเป็นของตนเองลดลงเรื่อยๆ แค่เวลานอนของน้องเมื่อมาเป็นหมอมันแทบจะไม่มีเลย เมื่อน้องจบออกไปเป็นหมอใช้ทุน 3 ปี น้องจะยิ่งต้องมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของคนไข้มากยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว พี่เคยฟังประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่จบไปแล้วเขาก็บอกกันเป็นเสียงเดียวว่า ถ้าใครคิดว่า เรียนหมอเพราะเก่งและมีคนเรียนมากที่สุด ถือได้ว่าคิดผิดอย่างมหันต์ เพราะอาชีพนี้ใช้ความเสียสละทั้งกาย ใจ สังคม และวิญญาณเป็นหลัก ส่วนเรื่องสติปัญญาในการเรียนก็อย่างที่พี่ปี 3 บอกแล้วว่า ถ้าน้องสอบเข้ามาเรียนได้ และไม่ประมาท น้องเรียนผ่านได้สบายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเกรดก็เป็นอีกเรื่องนึง
    จากทีพี่ได้กล่าวมานี้ ก็เพื่อให้น้องได้ตัดสินใจได้และเลือกเดินในสายอาชีพที่ถูกต้อง (ประมาณใช้เลย ถูกตรงสเป็กตามใจน้องเลย) ถ้าน้องคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วพบว่า อาชีพแพทย์คือ ชีวิตน้อง (พี่ต้องใช้คำว่า ชีวิต เพราะน้องต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิตเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของน้องที่แยกไม่ขาด) และใช่เลย พี่ MDCU65 รุ่นพี่ชั้นปีอื่นๆ ตลอดจนคณาจารย์ก็ยินดีต้อนรับน้องเข้าสู่วงการนะครับ แต่ถ้าน้องพบว่า มันไม่ใช่ครับ/ค่ะ มันไม่ใช่ตัวผม/หนู มันหนักเกินไป ถ้าทำไปแล้ว จะทำให้ไม่มีความสุขไปทั้งชีวิต (แม้ตัวจะประสบความสำเร็จก็ตาม) ก็ไม่เป็นไรครับ ขอให้เลือกอาชีพอื่นๆ ไป  
    อย่างในคณะพี่ก็มีหลายคนดำเนินชีวิตไปในทางที่ต่างกัน ส่วน MDCU65 ก็มีวิศวกรคนหนึ่งจบดอกเตอร์ทาง Electrical Engineering จากประเทศญี่ปุ่นมา แล้วสอบเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ เพราะทำงานวิจัยทางด้าน Stem Cell และต้องการสร้างเครื่องมือทางการแพทย์ (ปัจจุบันเขาอายุ 31 ปี) พี่เลยอยากบอกน้องว่า การที่น้องบอกว่า หมอเองน้องก็ไม่ชอบ วิศวกรก็ยังไม่แน่ แล้วน้องชอบเรียนฟิสิกส์พี่แนะนำว่า น้องอาจเลือสายอาชีพวิศวกร หรือวิทยาศาสตร์ก่อนก็ได้ เพราะอาชีพแพทย์ ใช้วิชาชีววิทยา และ เคมีอย่างมหาศาล และเมื่อน้องออกไปทำงานแล้ววันหนึ่งก็นึกสนุกอยากกลับมาศึกษาต่อการแพทย์ น้องอาจจะกลับมาสอบอีกก็ได้เหมือนเพื่อนของพี่คนนี้ (ความจริงต้องเรียกเขาว่าพี่ เพราะเขาอายุต่างจากพี่ 11 ปี) พี่จึงขอให้น้องคิดไตร่ตรองให้ดี เพราะน้องต้องไม่ลืมว่า คนเราไม่มีใครแก่เกินเรียน สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต โดยไม่ต้องสนใจว่าอายุเท่าไร และพี่บอกได้เลยว่า พี่เองก็ไม่เลือกคบคน เขาจะมีอายุมากหรือน้อยกว่าพี่ เขาก็คือ เพื่อนของพี่

    สุดท้ายนี้พี่ก็อยากฝากให้น้องจงใช้เวลาที่เหลือใน ม.ปลาย ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เตรียมหาประสบการณ์ตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ อ่านหนังสือให้เต็มที่ ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ให้สนุกสนานอย่างเมามัน เที่ยวกับเพื่อนก็จงทำอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อน้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ มันจะเป็นก้าวสุดท้ายของการเป็นนักเรียน ก่อนจะเป็นนิสิตนักศึกษา แล้วกลายเป็นคนทำงานอย่างแท้จริง (ซึ่งเมื่อถึงตอนนั่นน้องจะร้องเรียกหาวันเวลาแห่งความสุข กลับคืนมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Alistair* on May 22, 2010, 11:08:52 am
ไม่อยากเรียนแต่เรียนเก่ง พี่ว่ายังไงมันก็คงถูๆ ไถๆ ให้ไปรอดได้อะน้อง -*-
มันอยู่ที่ว่าน้องมีแรงบันดาลใจจะไปต่อมั้ย น้องจะเรียนได้อย่างมีความสุขแค่ไหน หรือต้องถูสีข้างไปตลอดการเรียน

พี่ว่านะ
เรียนได้หรือไม่ได้ มันไม่ใช่เครื่องวัดความประสบความสำเร็จ
ถ้าไม่ชอบ เรียนอะไรมันก็ไม่รุ่งอะน้อง น้องอาจจะจบมาได้ แต่เพื่อนๆ น้องอีกมากมายก็จบมาพร้อมกับน้อง และส่วนใหญ่เค้าก็คงชอบ?
มีอะไรมาประกันว่าน้องจบมาเป็นหมอแล้วน้องจะได้เงินเดือนดี ไม่ตกงาน น้องจะเต็มใจรักษาคนไข้รึเปล่า

ไปเรียนอันที่ชอบเหอะ
หกปีกับชีววิทยา ชอบฟิสิกส์ไม่ใช่เหรอ  :P


ปล. พี่ก็ยอมรับเหอะว่าพี่มาเรียนเพราะ พ่อแม่+ไม่ตกงาน+ไม่ต้องคิดเวลาสมัครงาน+ไม่รู้จะเรียนอะไร ฯลฯ โดยมีความชอบเป็นส่วนน้อยทีเดียวเมื่อเทียบกับเหตุผลอื่น พอดีว่าไม่เก่งด้วย กำลังสงสัยอยู่เลยว่าอนาคตชั้นจะเป็นยังไงบ้าง ;D
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: bRoWniEs on May 22, 2010, 11:22:28 am
ถามตัวเอง
ว่าจบมาแล้ว อยากทำอาชีพอะไร??
หลับตา... นึกภาพตัวเองเป็นวิศวกรนะ 
แล้วก็ลองนึกภาพตัวเองเป็นหมอดูนะ
ลองจินตนาการว่าตอนนั้นตัวเองทำอะไรอยู่
และตัวเองมีความสุขไหม?

พี่ว่า ชอบชีวะ หรือ ชอบฟิสิกส์ มันไม่ใช่ประเด็น
เพราะทุกวิชามันไม่ได้แยกออกจากกันนะ
บางส่วนของฟิสิกส์ก็เกี่ยวกับชีวะ
บางส่วนของชีวะก็เอาฟิสิกส์มาใช้
ไม่ใช่ว่า ชีวะ=หมอ ฟิสิกส์=วิศวะ สักหน่อย
อาชีพมันมากกว่าวิชาเรียนในห้องเยอะน่ะ
มองแต่ละอาชีพให้ลึกๆ
มองตัวเองให้ลึกๆ
แล้วค่อยตัดสินใจ

ถ้าชอบจริง ขยันตั้งใจ
ไม่มีใครตกงานหรอก ไม่ว่าอาชีพไหนๆ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: doctorpuchong on May 22, 2010, 12:11:14 pm
ขึ้นกับว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรน่ะครับ
จะมีชีวิตอยู่แค่เพื่อ "ความมั่นคง" เหรอครับ
อะไรมั่นคงก็เอางั้น  ความสุขที่ได้เป็นตัวของตัวเองจะมีไหม
ระหว่างหกปีที่เรียนหมอจะทนเรียน(โดยไม่ต้องมาขอพบอ.จิตเวช..ซึ่งมีไม่น้อยทุกปี)ได้ไหม
จบออกไปจะทำอะไร
หรือเผื่อจะเปลี่ยนใจได้ หันมาชอบ ผมคิดว่าไม่ค่อยนะครับ
ขนาดพวกที่ชอบๆ เข้ามาเรียนยังมีเปลี่ยนใจไปเยอะ

 ;D

ผมก็ไม่รู้ว่าอาชีพแพทย์ที่ทำอยู่นี่มันมั่นคงมากกว่าอาชีพอื่นๆอย่างไร
เพื่อนๆผมที่เรียนอย่างอื่นมา ก็มีงานมีการทำปกติสุขดี
คนที่ยังไม่โอเคกับงานก้มีบ้าง แต่ก็ขึ้นกับการเลือกงาน เอาให้ถูกใจ พอใจ


คิดดีๆครับ คิดดีๆ  ชีวิตมันสั้น อย่าใช้ไปกับเรื่องไม่มีความสุข
เกิดมาชาติหน้าก็ไม่รู้จะมาถึงจุดนี้ได้ไหม 
จะได้เป็นคนไหม หรือไปเกิดเป็นวัวมัตสึตากะหรือหมูคุโรบุตะก็ไม่รู้
:)

Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: wichu on May 22, 2010, 12:57:18 pm
พี่ว่านะ ถามตัวเองว่าอยากเป็นอะไร ชีวิตนี้น้องประสบความสำเร็จได้ถ้าน้องตั้งใจทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายจริงจัง
พี่เป็นคนนึงที่มาเรียนหมอเพราะว่าอยากเป็น แต่ขนาดว่าอยากพอมาเจอสภาพการเรียนการทำงานยังมีเขว่บ้างอะไรบ้าง :( :'( (พี่ขอบอกว่าทำงานเนี่ย กดดันและถูกคาดหวังสูงมาก ๆ)
แล้วน้องที่ยังไม่รู้ตัวเองจะเป็นยังไง มีอคิตกับหมอ(พี่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเกลียดหมอ ก็ไม่ยากมากที่จะเปลี่ยน) พี่ว่าน้องมีคำตอบที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว เพียงแต่ไม่กล้าขัดความคิดที่บ้านและก็กลัวว่าตัวเองจะเลือกผิด แต่พี่ขอบอกอะว่าเสียงในใจน้องสำคัญสุด กว่าเสียงคนอื่น ๆ ทั้งพ่อแม่เพื่อน ๆ เพราะคนที่จะอยู่กับมันไปต่อจากนี้คือน้องเองอ่ะ
พี่ก็ขออวยพรให้น้องตัดสินใจได้ในทางที่ตัวเองพอใจและสุขใจนะ  ::)


ปล.ข้อความอาจารย์ฟังแล้วหิวเลย สงสัยว่าจะกินอาหารญี่ปุ่นอยู่ :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: SomeTimes on May 22, 2010, 02:07:55 pm
เรียนในสิ่งที่เราชอบดีกว่านะ  เพราะเมื่อเราเลือกเรียนในสิ่งไหน ส่วนใหญ่เราก็ต้องอยู่กับสิ่งนั้นไปทั้งชีวิต
อาชีพแพทย์ไม่ได้เรียนจบได้ภายใน 6 ปี  เรายังต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากการรักษาคนไข้อีกมาก  ต้องอ่านศึกษาความรู้ทางการแพทย์ที่มีการ update อยุ่บ่อย ๆ ตัวยาใหม่ ๆ

รวมไปถึงต้องเสียสละและทำอย่างจริงใจ
ประมาณนี้ละกัน.....  :P
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Baros™ 『バーロス』 on May 22, 2010, 06:20:08 pm
เรียนหมอเพราะอยากมีงานทำ ?
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: pipe64 on May 22, 2010, 06:54:25 pm
1. การที่ไม่ชอบ  จะเรียนได้มั๊ยคับ  จะเรียนไปด้วยความยากลำบาก แบบถึงขนาดต้องทรมานมั๊ย
ไม่ชอบก็เรียนได้นะ แต่ความสุขในการเรียนคงไม่เท่าคนที่เรียนเพราะชอบ เหมือนอย่างตอน ม.ปลาย น้องก็คงมีวิชาที่ชอบ และไม่ชอบป่ะ วิชาไหนที่เราชอบ เราก็ใจจดใจจ่ออยากเรียนอะไรงี้ วิชาไหนไม่ชอบก็ใจจดใจจ่อเหมือนกัน...ว่าเมื่อไรมันจะหมดคาบฟร่ะ

2. การไม่ชอบ  มีผลกับการจะเรียนจบมั๊ย  ผมไม่ขอบชีววิทยา  ชอบฟิสิกส์  ผมจะเรียนได้มั๊ย   หรือควรจะไปเรียนวิศวะ
ถ้าน้องไม่ถึงกะชีวิตนี้ผมจะไม่อ่านหนังสือทางการแพทย์เลย มันคงจบแหละนะๆ
แต่พี่ไม่ค่อยเห็นด้วยกะการสรุปว่า ชอบชีวะ เรียนหมอ ชอบฟิสิกส์ เรียนวิศวะ มันเป็นแค่แนวโน้มเองอ่ะ
เพราะ ชีวะกับฟิสิกส์ที่เรียนตอน ม.ปลาย เป็นภาพใหญ่ๆ ของวิชานั้น
อีกอย่าง หลังๆ จะมีเทรนด์ประเภทเรียนปีหนึ่งจบแล้วก็บอกว่า ผมไม่เหมากะคณะนี้ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย
เพราะ ปีหนึ่งเรียนวิชาทั่วๆไป (basic sci) มันก็คล้ายๆกัน เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ
แล้วเราจะเอาฟิสิกส์ เคมีไปตัดสินได้ไงฟร่ะว่า เราไม่เหมาะกะวิศวะ ไม่เหมาะกะหมอ เพราะ ฟิสิกส์ เป็นแค่ subset ของวิศวะ, ชีวะ ก็เป็นแค่ subset ของหมอ
อีกอย่าง เอาเข้าจริงการเรียนรู้เนี่ย มันเป็นสหสาขาด้วยอ่ะ ดังนั้นกว่าจะรู้ตัวเองน่าจะตอนปีสูงๆมากกว่า เพราะ ได้เรียนวิชาชีพ + ได้ลองฝึกประสบการณ์ในสาขานั้นๆ

3. ไม่ชอบ แค่ก็อยากเรียน อยากเป็นหมอเหมือนกัน  แบบว่าตามเพื่อน ตามกะแส  แล้วเพื่อนก็มีอัธยาศัยที่ดี  วิศวะก็ไม่ถึงกับชอบแต่เรียนฟิสิกส์ได้ดี  เห็นว่าวิศวะตกงานอะคับ
เหมือนกะว่าน้องอยากเรียนหมอเพราะ(น่าจะ)มีความมั่นคงในอาชีพมากกว่าอาชีพอื่นใช่มะ ?
คิดงั้นก็ไม่ผิดนะ เพราะ ภาพในอีก 20 ปีข้างหน้าของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนต้องการความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเอง พ่อแม่ ครอบครัว
บางคนต้องการความสุข ซึ่งความสุขอาจจะได้จากเงิน, การทำงาน, คนรอบตัว
ทั้งนี้ขึ้นกะว่าน้องวาดภาพตัวเองไว้ในอีก 20 ปีข้างหน้าอย่างไร

แต่อย่างที่เรพของ doctorpuchong บอกอ่ะน้อง
ในความเป็นจริง อีกหลากหลายอาชีพในสังคมก็ตอบโจทย์เรื่องความมั่นคงในชีวิตได้นะ
มันจะดีมากถ้าน้องสามารถเลือกอาชีพที่สมดุล เช่น ให้ความมั่นคงได้ในระดับหนึ่งและน้องทำแล้วมีความสุขอ่ะนะ

4. การมีทัศนคติที่ไม่ดีกับอาชีพหมอ แบบลบ  มันต้องเปลี่ยนทัศนคติใช่มั๊ยคับ  เพราะเราจะต้องอยู่กับมัน  ผมจะมีทางเปลี่ยนทัศนคติที่ดีกับอาชีพหมอได้มั๊ยคับ  แบบว่าเพราะเราผูกพันกับเพื่อน ๆ  กับ ร.พ. คนไข้  อาจารย์ใหญ่  หรือรักษาคนไข้หายแล้วคนไข้ก็มาขอบคุณเรา  ทำให้เรามีกำลังใจ เห็นคนเองมีคุณค่า  อยากเป็นหมอที่ดี  และในที่สุดก็อาจจะรักอาชีพนี้  หรือไม่ถึงกับรักแต่ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น ๆ แบบที่ทีแรกคิดไว้ตอนอยู่ปี 1

พี่ไม่แน่ใจว่าทัศนคติแง่ลบกะอาชีพนี้ของน้องคืออะไร ... ไม่ชอบอาชีพนี้เลย ไม่ชอบบุคคลในอาชีพนี้ ?
นอกจากนี้ต้องดูระดับความรุนแรงอีกป่ะว่า ... แค้นฝังหุ่น ไม่รักแต่ก็ไม่เกลียด ?
แต่ถ้าไม่ชอบแต่ก็ไม่รัก เพราะยังไม่ได้สัมผัส พี่แอบคิดว่า ถ้าเข้ามาเรียนได้สัมผัสกะอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น น้อง(น่า)จะมี positive attitude มากขึ้นนะ
อย่างพี่ตอนก่อนเข้าก็ ไม่รักแต่ก็ไม่เกลียด เข้ามาก็ ok มากขึ้นนะๆ

5. ทราบว่ามีรุ่นพี่ต้องเรียกสอบสัมภาษณ์ครั้งที่ 2  อาจารย์ไม่แนใจ  สรุปว่าสุขภาพจิตไม่มีผลกับการเรียนให้จบ  สามารถวัดได้ขนาดนั้นเลยหรือคับ  และหากเป็นผม  ผมควรจะเรียนมั๊ย  หรือสละสิทธิ์ไปเลยดีก่า

เรื่องนี้พี่ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าน้องไม่มีปัญหาทางจิตรุนแรงมันคงไม่เป็นไรป่ะ
พี่ไม่คิดว่าทุกคนที่เข้ามาเรียนในคณะนี้จะ ฉันอยากเป็นหมอจากก้นบึ้งของหัวใจ
บางคนอาจจะอยากเป็น บางคนเฉยๆ บางคนไม่ยาก แต่ทุกคนก็เข้ามาเรียนนะ
และเมื่อต้องเข้ามาเรียนแล้ว "เมื่อไม่ได้เรียนในสิ่งที่รัก ก็จงรักในสิ่งที่เรียน" นะๆ

 :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: math on May 22, 2010, 07:48:54 pm
บางคนที่อยากเรียนหมอ แต่พอเรียนๆไป ไม่อยากเป็นหมอก็มีนะครับ

เพราะฉะนั้นตัดสินใจให้ดีๆนะครับน้อง อนาคตของตัวเองทั้งชีวิตเลยนะ
แต่สำหรับพี่ พี่ว่าลองบวกลบคูณหาร "สิ่งที่ชอบทำ" กับ "สิ่งที่ต้องทำ" ให้ดีก่อน
ส่วนการแนะนำพี่ๆกับอาจารย์ด้านบนก็แนะไปเยอะแล้ว

ตัดสินใจดีๆ แล้วมุ่งหน้าฝ่าฝันมันไป  8)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: พีทซ่า@Gr.ofSeventeen on May 22, 2010, 08:40:43 pm
พอน้องเข้ามาโพส แล้วแอบรู้สึกนึกย้อนกลับไปถึงตัวเองเมื่อตอนนั้น

เหตุผลที่พี่เลือกเรียนหมอ คงคล้ายๆกับของน้องนะ...

คิดว่าอาชีพนี้มั่นคง (น่าจะดูแลพ่อแม่เราได้)

ถามว่าชอบไหม คงตอบว่าไม่

ถามว่าอยากเรียนไร คงตอบว่าวิศวะ ฮ๋าๆ

แต่ตอนนี้ละ พี่ก็เลือกแล้วอะ...


ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงบ้างตอนนี้... ตอนนี้พี่กำลังเรียนปี 4

ก็ไม่ถึงกับชอบมากในตอนนี้ ถามว่าเกลีัยดไหมก็ไม่แล้วนะ

อยากเรียนไหมตอนนี้...แอบไม่ค่อยอะ

คิดนะว่าถ้าย้อนไปได้คงไม่เลือกเรียน แต่เราก็เป็นคงเลือกเอง

สิ่งที่พี่ไม่ชอบเพราะ มัน...จำเยอะอะ เรียนก็หนักอยู่บ้าง แต่สิ่งที่คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นหมอได้คือ

คิดว่าตัวเองชอบช่วยเหลือคน ตัวเองเป็นคนที่มีความเสียสละ แต่ขาดอย่างเดียว...มันจำไม่ได้เหะไอ้ที่เรียนหนะ

รู้สึกว่าแสดงความคิดเห็นแบบนี้ เหมือนจะเป็นการตัดทอนกำลังใจน้อง




แต่สุดท้ายแล้ว... ทุกอย่าง มันอยู่ที่ตัวน้อง น้องเป็นคนเลือก  เพราะพี่ก็สับสนแบบน้อง ขอคำปรึกษาจากคนมากมายเช่นกัน

และนี่ก็คือสิ่งที่พี่เลือก น้องคงจะเป็นคนที่ต้องตัดสินอะไรเองเนอะ

สู้ๆ พยายามเข้า

แต่ถ้าน้องเลือกที่จะมาเรียนหมอแล้ว พี่ก็ขอบอกว่า น้องทำได้แน่นอน ^^




ปล. น้องจอร์จเขียนได้ดี ชอบนะ

และ สุดท้าย ชอบกับคำขอน้องไปป์ 

"เมื่อไม่ได้เรียนในสิ่งที่รัก ก็จงรักในสิ่งที่เรียน" (พี่จะพยายามคิดให้ได้นะ ฮ่าๆ)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: แบงค์ on May 22, 2010, 09:11:59 pm
ขอบคุณพี่หมอสำหรับทุกความคิดเห็นที่มีคุณค่าคับ  ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม  โดยเฉพาะ อยากให้ doctorpuchong  และพี่หมอ pipe MDCU 64  ได้ตอบให้ผมอีกคับ  กับข้อมูลที่ผมจะให้เพิ่มเติมคับ  หรือพี่หมอในชั้นปีสูง ๆ  หรือที่จบและทำงานแล้ว

ทัศนคติในแง่ลบ  สาเหตที่ทำให้ผมไม่ชอบอาชีพหมอคือ  หมอเรียนหนัก  ทำงานหนัก 
สิ่งที่ดีของอาชีพหมอ  หากผมจะเลือกเรียนคือ      อาชีพมั่นคง  เรียนจบหมอเท่ากับประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว  และเร็วกว่าอาชีพอื่น ไม่ตกงาน   อยากไดรับคำตอบว่าถ้าผมคิดแบบนี้คิดถูกต้องมั๊ยคับ

เดิมที่ผมก็ว่าจะเรียนวิศวะ แต่เพื่อนในห้องส่วนใหญ่จะเรียนต่อหมอกัน  และผมก็เห็นคุณพ่อผมซึ่งจบวิศวะ จุฬา  ก็ดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเท่าที่ผมอยากจะเป็น  ปัจจุบันนี้คุณพ่อทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนเงินเดือนได้เดือนเว้นเดือน หรือหลายๆ เดือนจะได้ครั้งนึง และไม่คิดจะลงทุนทำอะไร  เพราะการทำธุรกิจต้องใช้เงินทุน ขณะนี้ครอบครัวมีรายได้จากคุณแม่คนเดียวทำงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีรายได้ไม่มากคับ  เท่ากับตอนนี้เรามีฐานะจนเหมือนกันคับ แต่โชคดีไม่มีหนี้สิน  นี่ก็เป็นสาเหตุทำให้ผมลังเล  ไม่แน่ใจในการที่จะเลือกเรียนคับ

และถ้าผมจะเรียนหมอผมก็รู้สึกมีเงื่อนไข เช่น  อยากอยู่หอพักดี ๆ คนเดียวเพราะจะได้ไม่เหนื่อยมาก  ไม่เสียเวลาเดืนทาง  หรืออยู่คอนโดดีๆ ใกล้คณะเพื่อผมจะได้มีแรงจูงใจเรียนคิดประมาณนี้นะคับ ถ้าจะเรียนหมอก็อยากได้แบบนี้  ในความคิดพี่ ๆ หมอคิดเห็นอย่างไรคับ 

ถ้าเรียนวิศวะ อยากได้อาชีพมั่นคงก็คงต้องไปทำงานรัฐวิสาหกิจ ราชการ ซึ่งเงินเดือนน้อยคับ  อายุเท่าไรจะตั้งตัวมีทุกอย่างให้ครอบครัวได้อย่างมีความสุขคับ  และต้องเลี้ยงดูพ่อแม่อีกคับ

มีพี่ระหัสเรียนหมอขึ้นปี 2  ตอนปีหนึ่งที่จบได้เกรด 2.7   ซึ่งทราบมาว่าตอนต้ดสินใจก็ไม่ชอบเรียนหมอ  ผลการเรียนบอกได้มั๊ยคับว่านี่คือผลของการไม่ขอบเรียนหมอ  อย่างนี้ถ้าขึ้นไปเรียนปี 2 3  พี่เค้าจะได้เกรดเหลือเท่าไหร่  เพราะเรียนยากขึ้นอีก

ขอบคุณสำหรับพี่หมอ ๆ ที่เข้ามาตอบคับ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: พีทซ่า@Gr.ofSeventeen on May 22, 2010, 09:24:00 pm
ตอบอย่างอื่นไม่ได้เหะ ขอมาตอบเรื่องเกรดละกัน

มีพี่ระหัสเรียนหมอขึ้นปี 2  ตอนปีหนึ่งที่จบได้เกรด 2.7   ซึ่งทราบมาว่าตอนต้ดสินใจก็ไม่ชอบเรียนหมอ  ผลการเรียนบอกได้มั๊ยคับว่านี่คือผลของการไม่ขอบเรียนหมอ  อย่างนี้ถ้าขึ้นไปเรียนปี 2 3  พี่เค้าจะได้เกรดเหลือเท่าไหร่  เพราะเรียนยากขึ้นอีก


เกรดไม่สามารถตัดสินได้หรอกครับว่าชอบ หรือ ไม่ชอบ คนที่ชอบบางคนได้เกรดไม่ดีมาก (แต่ก็ไม่ถึงกับรึไทร์นะ) บางคนไม่ชอบแต่เก่ง เกรดนี่แทบจะทะลุ4 ก็มี ฮ่าๆ มันใช้ในการตัดสินไม่ได้หรอกครับ

แล้วพี่ไม่แน่ใจว่าพี่รหัสของน้อง เรียนที่จุฬา หรือเปล่า

คือยิ่งเรียนที่จุฬาฯ นะ พี่รุ้สึกว่า เกรดปีหนึ่งนี่แทบจะเอามาตัดสินชะตาชีวิตเราไมไ่ด้เลย (ยกเว้นเกรดห่วยจนต้องไทร์ออก) เพราะว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ มันแอบไม่ค่อยใกล้เคียงกับเนื้อหาในปี สอง และ สามนะ...

อืมพี่จะบอกว่า เกรดปีหนึ่ง พี่ห่วยอะ... แต่ก็ได้เกรดปีสองและปีสามดีกว่าตอนปีหนึ่งนะ 55+ นั่นหละ

เอาเป็นว่า เกรดอะมันตัดสินไรไม่ได้หรอก
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: piroj_sa on May 22, 2010, 09:50:27 pm
พี่คิดว่าคนที่ไม่ชอบหมอก็เรียนได้ จบเป็นหมอได้ครับ เพราะแต่ในท้ายที่สุดคนๆนั้นก็อาจชอบในอาชีพหมอขึ้นมาก็ได้หรืออาจทรมาณนั่งถามตัวเองตลอดว่าคิดผิดหรือเปล่าทำไมเราถึงเลือกทำงานหนักขนาดนี้เพราะน้องต้องทนอยู่กับมันไปทั้งชีวิต ในอนาคตคงบอกอะไรไม่ได้แน่นอน

ถ้าคิดจะเรียนหมอน้องคงต้องถามตัวเองว่าทนได้หรือเปล่า กับความหนักของการเรียนและการทำงานในอนาคต เช่น อยู่เวรไม่ได้นอนแล้วต้องตื่นมาเรียนหรือตรวจคนไข้วันละ 100-200 คน หรือความรู้สึกกดดันที่เราต้องรับผิดชอบชีวิตของคนหนึ่งคนหรือหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือมีความสุขไหมที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นจากความทรมาณ เป็นต้น
ถ้าทนได้ก็เรียนได้ ส่วนเรื่อเกรดดีไม่ดีอยู่ที่ตัวเองแหละครับ ทำให้ดีที่สุดเป็นพอ อย่าไปเทียบกับของคนอื่นๆ เพราะคณะแพทย์คือที่รวมคนเก่งๆจากทั่วประเทศ สิ่งสำคัญคือความรับผิดชอบต่อตัวเองและการทำงานมากกว่า

แต่สงสัยเงื่อนไขของน้องนิดนึงว่าถ้าเรียนหมอต้องอยู่คอนโดหรือหอพักดีๆ แสดงว่าถ้าเรียนอย่างอื่นนี่ไม่ต้องก็ได้ ใช่หรือเปล่า
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: exFictitiouZ on May 22, 2010, 09:54:57 pm
โห น้อง คิดเหมือนพี่ตอนจะเข้าเป๊ะเลยอะ หมอก็พอเรียนได้ ไม่ได้ชอบมากนัก ในขณะที่วิศวะอยากเรียนแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะไปได้แค่ไหน ประมาณว่าไม่มีอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งซักอย่าง แต่ให้เครดิตวิศวะเหนือหมอ สุดท้ายต้องเรียนหมอเพราะแม่บังคับ (เรื่องแบบนี้มันเป็นปัญหาครอบครัวอันยิ่งใหญ่เลยสำหรับพี่ = =)

ส่วนเรื่องวิศวะตกงานนี่ น้องอย่าไปใส่ใจครับ กระแสมันมาจากการสำรวจสถิติ ซึ่งน้องต้องมองให้ดี ๆ ว่าเดี๋ยวนี้ที่ไหน ๆ ก็เปิดวิศวะทั้งนั้น มหาลัยเอกชนโนเนมก็มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่เหมือนคณะแพทย์ที่ไม่ใช่ทุกมหาลัยจะมีให้เรียน น้องมาดูสถิติวิศวจุฬาฯ ที่น้องจะเข้าดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพี่ก็รู้จักพี่นายช่างจบใหม่หลายคน (ไปคณะนั้นบ่อยจัดด้วยเหตุผลหลายประการ) เค้าก็มีงานทำหลังจบกันทั้งนั้น
ที่สำคัญที่สุดกว่าสิ่งไหนเลยคือความสำเร็จของคนขึ้นกับตัวบุคคลครับ ไม่ใช่ว่าน้องจบวิศวะมาแล้วจะตกงานอย่างเดียว แบบนั้นใครจะไปเรียน ถ้าสมมุติว่าคนส่วนมากไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้แปลว่าน้องจะไม่ประสบความสำเร็จปะครับ ? น้องอาจจะเป็นส่วนน้อยก็ได้หนิ ? พูดเรื่องส่วนมากส่วนน้อย แค่คนเอนท์ติดก็ส่วนน้อยของประเทศแล้วนะ ถ้าเพิ่มเงื่อนไขเป็นเอนท์ติดจุฬานี่ยิ่งเป็นส่วนน้อยมากเข้าไปอีก เห็นมั้ยว่าการเป็นส่วนน้อยไม่ใช่เรื่องยาก ?

ถ้าอยากเรียนคณะไหนก็เรียนที่นั่นครับ เว้นแต่มีปัจจัยภายนอกเช่นบุพการีสุดที่รักเขาจะไม่ยอมท่าเดียว นั่นก็อีกเรื่องหนึ่งนะ "OTL
เราจะเป็นตัวของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเราไม่ฟังเพื่อนครับ 5 5 5 +
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Relativity on May 22, 2010, 10:21:50 pm
โดยส่วนตัว มีความเห็นเหมือนอาจารย์ภุชงค์ว่า มันขึ้นกับว่า เรามีทัศนะที่จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร

หรือถ้ากล่าวอีกนัยยะหนึ่ง ก็คือ ประเด็นมันอยู่ที่ ทัศนคติของเราที่เชื่อว่า ถ้ามีชีวิตแบบไหนถึงจะมีความสุข

(เพราะผมเชื่อว่าคงมีน้อยคนมากที่อยากจะให้ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์ทั้งชีวิต)

ถ้าเราตั้งธงว่า ต้องเรียนจบ แล้วมีงานที่มั่นคง มีเงินเดือนสูงๆ ถึงจะมีความสุข ก็ต้องเลือกแบบที่จะทำให้เกิดผลเช่นนั้นครับ

อันที่จริงแล้ว ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกที่ว่านี้ดี เพราะมันเหมือนทางแยกสำหรับเลือกเส้นทางในชีวิต

ฉะนั้น ผู้เลือกเส้นทางล้วนแต่ปรารถนาจะเดินในเส้นทางที่มีสวัสดิภาพสูงสุด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง

ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ มันต้องแลกด้วยสิ่งอื่นเสมอ ฉะนั้น เปิดหูเปิดตาให้กว้างที่จะ

รับรู้ข้อมูลต่างๆ และใช้ปัญญาคิดพิจารณา ใคร่ครวญ และไตร่ตรองให้ดี แล้วเลือกในสิ่งที่ เหมาะสม

กับตัวเองมากที่สุด หลังจากนั้น ก้าวเดินต่อไปอย่างกล้าหาญ มีความเพียร และมีสติ

เชื่อว่าชีวิตย่อมดำเนินต่อไปได้โดยสวัสดี โชคดีนะครับ    :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: pipe64 on May 22, 2010, 10:26:04 pm
ขอบคุณพี่หมอสำหรับทุกความคิดเห็นที่มีคุณค่าคับ  ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม  โดยเฉพาะ อยากให้ doctorpuchong  และพี่หมอ pipe MDCU 64  ได้ตอบให้ผมอีกคับ  กับข้อมูลที่ผมจะให้เพิ่มเติมคับ  หรือพี่หมอในชั้นปีสูง ๆ  หรือที่จบและทำงานแล้ว

ทัศนคติในแง่ลบ  สาเหตที่ทำให้ผมไม่ชอบอาชีพหมอคือ  หมอเรียนหนัก  ทำงานหนัก
 
ฮะๆ พี่แิอบคิดเหมือนเรานะ แต่หลังๆ เริ่มคิดว่า ความคิดนี้คิดเข้าข้างตัวเองอ่ะ ... ทำไมพี่ถึงคิดอย่างนี้ ?
ถ้าตัดสินว่า หมอ เรียนหนัก ทำงานหนัก เพราะ อ่านหนังสือหนาๆ ทำงานอดหลับอดนอน  ?
พี่ว่าแต่ละคณะก็เรียนหนักเหมือนกันนะ
ถ้าเรียนนิเทศ ... การต้องท่องบทเอาเป็นเอาตาย ถ่ายแล้วถ่ายอีก
ถ้าเรียนครุ ... นั่งเตรียมการสอน ระหว่างสอนก็ต้องคิดว่าเด็กจะรู้เรื่องมั้ย หลังสอน เอ เด็กเค้าเข้าใจหรือเปล่า
ถ้าเรียนวิทย์กีฬาฯ ... สำหรับคนที่ไม่สันทัดกีฬา มันก็ยากนะ เค้าต้องฝึกฝนกันอีกนานเลยนะๆ
ดังนั้นพี่ว่า เรียนคณะไหนก็ตามยากไม่เท่ากัน แต่ใช้ความพยายามเท่ากัน

สิ่งที่ดีของอาชีพหมอ  หากผมจะเลือกเรียนคือ      อาชีพมั่นคง  เรียนจบหมอเท่ากับประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว  และเร็วกว่าอาชีพอื่น ไม่ตกงาน   อยากไดรับคำตอบว่าถ้าผมคิดแบบนี้คิดถูกต้องมั๊ยคับ


อืม ถ้าคำว่า "มั่นคง" ของน้อง คือ เรียนจบปุ๊ป มีงานรองรับปั๊ป อาชีพหมอก็ตอบโจทย์น้องได้

เดิมที่ผมก็ว่าจะเรียนวิศวะ แต่เพื่อนในห้องส่วนใหญ่จะเรียนต่อหมอกัน  และผมก็เห็นคุณพ่อผมซึ่งจบวิศวะ จุฬา  ก็ดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเท่าที่ผมอยากจะเป็น  ปัจจุบันนี้คุณพ่อทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนเงินเดือนได้เดือนเว้นเดือน หรือหลายๆ เดือนจะได้ครั้งนึง และไม่คิดจะลงทุนทำอะไร  เพราะการทำธุรกิจต้องใช้เงินทุน ขณะนี้ครอบครัวมีรายได้จากคุณแม่คนเดียวทำงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีรายได้ไม่มากคับ  เท่ากับตอนนี้เรามีฐานะจนเหมือนกันคับ แต่โชคดีไม่มีหนี้สิน  นี่ก็เป็นสาเหตุทำให้ผมลังเล  ไม่แน่ใจในการที่จะเลือกเรียนคับ


ที่ถามว่าเราคิดถูกมั้ย ... คงตอบให้ไม่ได้
แต่อย่างที่ตอบไปตอนแรกๆอ่ะ (rep ของพี่เองอันบนๆ) ว่า แต่ละคนมีภาพของตัวเองในอนาคตไม่เหมือนกัน, มีความจำเป็นไม่เหมือนกัน
บางคน ที่บ้านมีพร้อมทุกสิ่งอัน จะเรียนอะไรก็ได้ตามความสนใจ ตามความสามารถ
บางคน อาจมีภาระที่บ้านอยู่ การเลือกอาชีพที่สามารถมาจุนเจือครอบครัวได้ ก็เป็นตัวกำหนดการเลือกอาชีพของน้อง (ป่ะ?)

งั้นขอถามกลับว่า "อะไรที่เป็นเครื่องตัดสินของเรา่ว่า ... จะเรียนคณะอะไร"
เครื่องมือนั้น คือ ความมั่นคงในอนาคต จบมาเลี้ยงดูที่บ้านได้, ได้เรียนในสิ่งที่ัรัก ?
ถ้าหามันเจอ นั่นแหละจะเป็นคำตอบว่าเรา(มีแนวโน้ม)จะไปเรียนคณะอะไร

และถ้าผมจะเรียนหมอผมก็รู้สึกมีเงื่อนไข เช่น  อยากอยู่หอพักดี ๆ คนเดียวเพราะจะได้ไม่เหนื่อยมาก  ไม่เสียเวลาเดืนทาง  หรืออยู่คอนโดดีๆ ใกล้คณะเพื่อผมจะได้มีแรงจูงใจเรียนคิดประมาณนี้นะคับ ถ้าจะเรียนหมอก็อยากได้แบบนี้  ในความคิดพี่ ๆ หมอคิดเห็นอย่างไรคับ  


ไอ้อารมณ์ที่อยากได้อะไรเมพๆ ไม่แปลกนะ พี่ก็อยากได้ ใครๆ ก็อยากได้
แต่สำหรับพี่ มันไม่มีผลขนาดนั้นอ่ะ ว่าแต่... สำหรับเรามันมีผลแค่ไหนกันละเนี่ย ^^"

เคยถามตัวเองเล่นๆ มะว่า
ถ้าติดหมอ + ได้อะไรเมพๆ ---> จะเรียน
ถ้าติดหมอ + ได้อะไรไม่เมพมาก ---> จะเรียนหรือเปล่า ?

ถ้าเรียนวิศวะ อยากได้อาชีพมั่นคงก็คงต้องไปทำงานรัฐวิสาหกิจ ราชการ ซึ่งเงินเดือนน้อยคับ  อายุเท่าไรจะตั้งตัวมีทุกอย่างให้ครอบครัวได้อย่างมีความสุขคับ  และต้องเลี้ยงดูพ่อแม่อีกคับ มีพี่รหัสเรียนหมอขึ้นปี 2  ตอนปีหนึ่งที่จบได้เกรด 2.7   ซึ่งทราบมาว่าตอนต้ดสินใจก็ไม่ชอบเรียนหมอ  ผลการเรียนบอกได้มั๊ยคับว่านี่คือผลของการไม่ขอบเรียนหมอ  อย่างนี้ถ้าขึ้นไปเรียนปี 2 3  พี่เค้าจะได้เกรดเหลือเท่าไหร่  เพราะเรียนยากขึ้นอีก
ขอบคุณสำหรับพี่หมอ ๆ ที่เข้ามาตอบคับ

เกรดปี 1 ไม่ reflect ความชอบ ความเหมาะสมกับวิชาชีพแพทย์ เพราะ ปี 1 ยังแทบไม่ได้สัมผัสอะไรที่เป็นแพทย์เ้ลย
เพื่อนพี่คนนึงเกรดปี 2 เกือบทะลุเพดาน แต่ตอนปี 1 เกรดก็กลางๆของคณะอ่ะ
ซึ่งบางคนเนี่ยเข้าปี 1 มา ยังปรับตัวไม่ได้, ยังไม่รู้วิธีการเรียนที่เหมาะสมอะไรงี้ หรือ คิดว่าจะชิวเพื่อฉลองการสอบได้อ่ะ

อย่างที่บอกไปแล้วอ่ะ กว่าเราจะรู้จริงๆ ว่าคณะนั้น อาชีพนั้น เป็นไงต้องรอปีโตๆ
แต่คนเราคงมาลองเรียนกันนานขนาดนั้นไม่ได้ แนะนำว่าวิธีที่จะทำให้น้องรู้จักกับแต่ละคณะดีขึ้น
การฟัง ... ฟังจากคนที่เรียนอยู่ตอนนี้ , คนที่เคยเรียนที่นั้น แต่อย่าลืมว่า แต่ละคนมี bias นะๆ อย่าลืมสังเกตว่า คนที่ให้ข้อมูลเนี่ย เป็นมนุษย์ CONC, Activist
การเข้าไปสัมผัส ... ตอนคณะไหนมี open house รีบไปดูๆ เดินๆ ซะ มีรุ่นพี่หลากหลายให้ถาม มีบรรยากาศในคณะให้เห็น
และสิ่งที่(บางคน)ไม่ค่อยทำ คือ เข้าเว็บไซต์ของคณะนั้นๆ ไปดูหลักสูตร ไปดูกันเลยว่า เราจะได้เรียนรู้่อะไรบ้างตลอดเวลาที่ศึกษาในคณะนั้นๆ
บางทีดูชื่อวิชาแล้วไม่เก็ท ก็ดูคำอธิบายรายวิชาอะไรงี้ น้องจะได้รู้กันจริงๆ ว่าเค้าเรียนอะไร


เลือกคณะที่ตรงใจตัวเอง และเหมาะสมที่สุดละกัน
เป็นกำลังใจให้

 :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: ทิฆัมพอน on May 22, 2010, 11:54:20 pm
อ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึงตัวเองตอนกำลังต้องเลือกจริงๆ

บางคนได้เืลือก ในสิ่งที่อยากเลือกจริงๆ
บางคนเลือก เพราะไม่รู้จะเลือกอะไร
บางคนเลือก เพราะมีคนอื่นเลือกให้

โอกาสเป็นของน้องนะครับ เลือกดีๆ
สำหรับพี่ที่ได้เลือกมาด้วยเหตุผลกลใดมาแล้ว ก็ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองได้เลือกแล้วให้ดีที่สุดครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ :))
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: U-P on May 23, 2010, 12:41:04 am

โห น้อง คิดเหมือนพี่ตอนจะเข้าเป๊ะเลยอะ หมอก็พอเรียนได้ ไม่ได้ชอบมากนัก ในขณะที่วิศวะอยากเรียนแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะไปได้แค่ไหน ประมาณว่าไม่มีอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งซักอย่าง แต่ให้เครดิตวิศวะเหนือหมอ สุดท้ายต้องเรียนหมอเพราะแม่บังคับ (เรื่องแบบนี้มันเป็นปัญหาครอบครัวอันยิ่งใหญ่เลยสำหรับพี่ = =)

ถึงน้องจะคิดคล้าย ๆ พี่แต่พี่ขออย่าให้น้องต้องมาเจอปัญหาบัดซบแบบพี่เลยนะ

ส่วนเรื่องวิศวะตกงานนี่ น้องอย่าไปใส่ใจครับ กระแสมันมาจากการสำรวจสถิติ ซึ่งน้องต้องมองให้ดี ๆ ว่าเดี๋ยวนี้ที่ไหน ๆ ก็เปิดวิศวะทั้งนั้น มหาลัยเอกชนโนเนมก็มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่เหมือนคณะแพทย์ที่ไม่ใช่ทุกมหาลัยจะมีให้เรียน น้องมาดูสถิติวิศวจุฬาฯ ที่น้องจะเข้าดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพี่ก็รู้จักพี่นายช่างจบใหม่หลายคน (ไปคณะนั้นบ่อยจัดด้วยเหตุผลหลายประการ) เค้าก็มีงานทำหลังจบกันทั้งนั้น
ที่สำคัญที่สุดกว่าสิ่งไหนเลยคือความสำเร็จของคนขึ้นกับตัวบุคคลครับ ไม่ใช่ว่าน้องจบวิศวะมาแล้วจะตกงานอย่างเดียว แบบนั้นใครจะไปเรียน ถ้าสมมุติว่าคนส่วนมากไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้แปลว่าน้องจะไม่ประสบความสำเร็จปะครับ ? น้องอาจจะเป็นส่วนน้อยก็ได้หนิ ? พูดเรื่องส่วนมากส่วนน้อย แค่คนเอนท์ติดก็ส่วนน้อยของประเทศแล้วนะ ถ้าเพิ่มเงื่อนไขเป็นเอนท์ติดจุฬานี่ยิ่งเป็นส่วนน้อยมากเข้าไปอีก เห็นมั้ยว่าการเป็นส่วนน้อยไม่ใช่เรื่องยาก ?


ถ้าอยากเรียนคณะไหนก็เรียนที่นั่นครับ เว้นแต่มีปัจจัยภายนอกเช่นบุพการีสุดที่รักเขาจะไม่ยอมท่าเดียว นั่นก็อีกเรื่องหนึ่งนะ "OTL
เราจะเป็นตัวของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเราไม่ฟังเพื่อนครับ 5 5 5 +


พี่ก็คล้ายๆแบบนี้เลยครับ ต่างนิดนึงตรงที่พี่ exFict เค้าเก่งฟิสิกมาก และพี่โง่ ฟิสิกมาก และแม่พี่หว่านล้อมแกมบังคับ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Kudoconan on May 23, 2010, 12:43:32 am

โห น้อง คิดเหมือนพี่ตอนจะเข้าเป๊ะเลยอะ หมอก็พอเรียนได้ ไม่ได้ชอบมากนัก ในขณะที่วิศวะอยากเรียนแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะไปได้แค่ไหน ประมาณว่าไม่มีอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งซักอย่าง แต่ให้เครดิตวิศวะเหนือหมอ สุดท้ายต้องเรียนหมอเพราะแม่บังคับ (เรื่องแบบนี้มันเป็นปัญหาครอบครัวอันยิ่งใหญ่เลยสำหรับพี่ = =)

ถึงน้องจะคิดคล้าย ๆ พี่แต่พี่ขออย่าให้น้องต้องมาเจอปัญหาบัดซบแบบพี่เลยนะ

ส่วนเรื่องวิศวะตกงานนี่ น้องอย่าไปใส่ใจครับ กระแสมันมาจากการสำรวจสถิติ ซึ่งน้องต้องมองให้ดี ๆ ว่าเดี๋ยวนี้ที่ไหน ๆ ก็เปิดวิศวะทั้งนั้น มหาลัยเอกชนโนเนมก็มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่เหมือนคณะแพทย์ที่ไม่ใช่ทุกมหาลัยจะมีให้เรียน น้องมาดูสถิติวิศวจุฬาฯ ที่น้องจะเข้าดีกว่า เพราะที่ผ่านมาพี่ก็รู้จักพี่นายช่างจบใหม่หลายคน (ไปคณะนั้นบ่อยจัดด้วยเหตุผลหลายประการ) เค้าก็มีงานทำหลังจบกันทั้งนั้น
ที่สำคัญที่สุดกว่าสิ่งไหนเลยคือความสำเร็จของคนขึ้นกับตัวบุคคลครับ ไม่ใช่ว่าน้องจบวิศวะมาแล้วจะตกงานอย่างเดียว แบบนั้นใครจะไปเรียน ถ้าสมมุติว่าคนส่วนมากไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้แปลว่าน้องจะไม่ประสบความสำเร็จปะครับ ? น้องอาจจะเป็นส่วนน้อยก็ได้หนิ ? พูดเรื่องส่วนมากส่วนน้อย แค่คนเอนท์ติดก็ส่วนน้อยของประเทศแล้วนะ ถ้าเพิ่มเงื่อนไขเป็นเอนท์ติดจุฬานี่ยิ่งเป็นส่วนน้อยมากเข้าไปอีก เห็นมั้ยว่าการเป็นส่วนน้อยไม่ใช่เรื่องยาก ?


ถ้าอยากเรียนคณะไหนก็เรียนที่นั่นครับ เว้นแต่มีปัจจัยภายนอกเช่นบุพการีสุดที่รักเขาจะไม่ยอมท่าเดียว นั่นก็อีกเรื่องหนึ่งนะ "OTL
เราจะเป็นตัวของตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเราไม่ฟังเพื่อนครับ 5 5 5 +


พี่ก็คล้ายๆแบบนี้เลยครับ ต่างนิดนึงตรงที่พี่ exFict เค้าเก่งฟิสิกมาก และพี่โง่ ฟิสิกมาก และแม่พี่หว่านล้อมแกมบังคับ

มีแนวนี้หลายคนครับ 555
พี่ก็เปนหนึ่งในนั้น
ไม่ได้อยากเรียนวิศวะนะ แต่อยากทำธุรกิจของตัวเอง คล้ายๆน้องอีกกระทู้
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: พลอย on May 23, 2010, 11:53:11 am
ได้อ่านข้อแนะนำ ความคิดเห็นของพี่ ๆ หมอแล้ว  ทำให้คิดว่าถ้าจะเลือกเรียนหมอเราควรจะมั่นใจ  ถ้าไม่มั่นใจอย่าเลือกอย่าเรียน  เลือกที่มั่นใจเป็นหลัก  มั่นใจว่าเรียนได้  ทำงานได้  ความชอบ  ไม่ชอบ อาชีพมั่นคง  รายได้ดี  มีเกียรติในสังคม  พ่อแม่อยากให้เรียน  เพื่อช่วยเหลือทางบ้าน  ทุกอย่างคือเหตุผลที่ดี

เพราะเท่าที่อ่านมาขนาดคนที่ชอบ  อยากเรียน  พอเรียนไปแล้ว  ก็รู้สึกไม่อยากเรียนแล้ว  ไม่รู้จบไปแล้วจะทำงานเป็นอย่างไร  ซึ่งเป็นความคิดเห็นของพี่ ๆ หมอ แพทย์จุฬาฯ นะคะ  แล้วที่คะแนนต่ำกว่า สถาบันที่คะแนนน้อยกว่าละคะจะเป็นอย่างไรบ้าง  รู้สึกเรียนหนัก  งานหนัก  การทำงานยังกดดันอีก   หนูเริ่มรู้สึกคิดหนักค่ะที่จะเลือกเรียน  ก็เลยคิดว่ามันต้องมีความมั่นใจมาช่วยในการตัดสินใจ  แบบว่าถ้าไม่มั่นใจอย่าเลือกเลยเพื่อความสบายใจและตัดปัญาหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาในระหว่างที่เราต้องเรียน  และหลังจากไปทำงานอีก  ซึ่งการทำงานต้องมีความชอบเป็นหลักถึงจะทำได้ดี

แต่สังคมเพื่อน ๆ นะสิ  มันมีผลกับการตัดสินใจของเรา  บางทีมันไม่ได้อยู่ที่ชอบไม่ชอบมันจะเลือกตามกระแสนะคะ  ใจเรามักจะคิดให้เอนเอียงไปทางไหนก็ได้  พอถึงเวลาก็เลือกหมอ  เลือกในสิ่งที่ดีกว่า  ซึ่งถ้าเราไม่เลือกหมอ  ในขณะที่เพื่อนเลือกเรียนหมอกัน  เรารู้สึกทำไมเพื่อนเลือกเรียนกัน  เพราะมันเป็นอาชีพที่ดีกว่าอย่างอื่นๆ  เพื่อนเรียนได้  ทำไมเราจะเรียนไม่ได้ประมาณนั้น  เริ่มชักลังเลค่ะ  ตรงนี่สำคัญมากค่ะ  หนูเลยอยากจะขอความกรุณาพี่หมอที่จบทำงานแล้วซัก 10 ปี  พี่ๆ หมอชั้นปีสูงๆ  และพี่หมอทุกขึ้นปี  ที่มีประสบการณ์ตรงนี้  ได้ให้ข้อคิด  คำแนะนำค่ะ

วิธีคิดเราควรจะคิดอย่างไร  และมีวิธีปลอบใจตัวเองอย่างไร  เมื่อถึงเวลาแล้วเราไม่เลือกหมอ   ถึงเราจะไม่เลือกหมอเราก็ยังรู้สึกลังเลอีกว่าที่เราเลือกอีก 10 - 20 ปี ข้างหน้าจะดีไหม  ในขณะที่หมอมันเป็นอาชีพที่ดีกว่า  เลือกไปแล้ว  จบไปแล้ว  ทำงานไปแล้ว  ไม่น่าจะผิดหวัง  เพียงแต่อาจจะไม่มีความสุข  สุข ๆ ดิบ ๆ 

การเลือกสิ่งที่ดีกว่า  คือการเลือกที่ถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ  เพราะอย่างไรเสีย   มันก็ดีกว่า  มันเหมือนสรุปรวมทุกอย่างอย่างสมบูรณ์อยู่ในนี้แล้ว  อนาคนจะเป็นอย่างไรอีกขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราในการทำงานการใช้ชีวิตให้สมดุลอย่างมีความสุข  มันจะทำได้ไหมค่ะอาจารย์ถ้าไม่ขอบเราจะปรับตัวได้เองในที่สุด  หรือถ้ามีสิ่งที่ดีกว่าในเวลาเมื่อเราทำงานแล้ว ถูกใจกว่ามีเส้นทางในชีวิตใหม่ ๆ ให้เลือกเดิน  เราก็ค่อยเปลี่ยนได้  เรียนอาจารย์ภุชวงค์คิดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าคะ  ควรคิดอย่างไร

Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: •โซดา♫”•— on May 23, 2010, 01:37:44 pm
เรื่องเพื่อนพี่ว่าน้องอย่ามองว่าเพื่อนเรียนได้เราก็ต้องเรียนได้เลยค่ะ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเพื่อนเราเลือกจะเป็นอย่างนึง ส่วนเราต้องการจะเรียนอีกอย่างนึงมากกว่า ทุกคนก็ต้องเลือกทางที่เหมาะสมกับตัวเอง อย่าให้เรื่องนี้มีผลกับการตัดสินใจกับอนาคตของน้องเลย พี่ก็ดุ่มมาเรียนคนเดียวจากทั้งโรงเรียนเหมือนกัน แม้แต่รุ่นพี่หรือรุ่นน้องที่จบจากที่เดียวกันยังไม่มีเลย
น้องถามว่าจะปลอบใจตัวเองยังไงถ้าไม่เลือกหมอ สำหรับพี่ก็เหมือนน้องถามว่าทำไมไม่อยากเรียนหมอ เพราะว่าหมอต้องเจอกับอะไรหลายอย่างที่คนอื่นไม่จำเป็นต้องเจอ หรือเจอน้อยกว่า ต้องอดทน ต้องเรียนหนัก ต้องปรับตัวเยอะมาก เจอกับช่วงเวลาที่เหนื่อยที่ท้อเยอะ ยิ่งน้องหยิบตารางเรียนคณะอื่นมาดู น้องอาจสงสัยว่าทำไมมันช่างมีช่องว่างเยอะเหลือเกิน ในขณะที่คณะแพทย์มีน้อยมาก แถมส่วนใหญ่ยังเป็นช่องว่างจอมปลอม (มักมีการนัดเรียนเพิ่ม นัดทำงาน ฯลฯ) คำว่าหมอเรียนหนักไม่ใช่คำขู่ แต่สิ่งที่น้องจะใช้ปลอบใจความเสียดายได้ดีที่สุดคือ น้องได้เลือกในสิ่งที่น้องทำแล้วมีความสุข สิ่งที่น้องต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต ในขณะที่บางคนเข้ามาแล้วถึงรู้ว่ามันไม่ใช่ และต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิตเช่นกัน
พี่ไม่ค่อยแฮปปี้กับการเรียนนัก(แต่แฮปปี้กับสังคมนะ !!)เลยดูเหมือนจะเชียร์ให้เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่า แต่พี่คิดว่าถ้าไม่ได้รังเกียจรังงอนความลำบากที่กล่าวมาข้างต้น และคิดว่าการมีความมั่นคงในชีวิตก็ถือเป็นความสุขอย่างนึง คณะแพทย์ก็เป็นตัวเลือกตัวนึงที่ตอบโจทย์ของน้องได้ ทุกคนปรับตัวได้ทั้งนั้นอ่ะ พอถึงวันนึงถ้าน้องสามารถมองข้ามข้อเสียมันไปได้ น้องก็จะแฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่มากขึ้นเอง ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ..ถึงพี่จะยังอยู่แค่ชั้นปีต้น ๆ แต่พี่คิดว่าตอนที่เราได้รับคำขอบคุณจากคนไข้ ได้เห็นเขาหายดี มันคงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดไปเลย  :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: bRoWniEs on May 23, 2010, 02:36:36 pm
วิธีคิดเราควรจะคิดอย่างไร  และมีวิธีปลอบใจตัวเองอย่างไร  เมื่อถึงเวลาแล้วเราไม่เลือกหมอ   ถึงเราจะไม่เลือกหมอเราก็ยังรู้สึกลังเลอีกว่าที่เราเลือกอีก 10 - 20 ปี ข้างหน้าจะดีไหม  ในขณะที่หมอมันเป็นอาชีพที่ดีกว่า  เลือกไปแล้ว  จบไปแล้ว  ทำงานไปแล้ว  ไม่น่าจะผิดหวัง  เพียงแต่อาจจะไม่มีความสุข  สุข ๆ ดิบ ๆ 

การเลือกสิ่งที่ดีกว่า  คือการเลือกที่ถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ

ตอนนั้นพี่ก็คิดแบบนี้แหละ-*-
ถ้าเกิดเราดื้อ ไม่ทำตามคนอื่นบอกเนี่ย
ต่อไปถ้าไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาจริงๆ
มันจะโดนคนอื่นสมน้ำหน้า "บอกแล้วให้เลือกหมอตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่เชื่อ"อะไรแบบนี้
ก็คิดไปล่วงหน้ากันไปได้ขนาดนั้นนนนนน

แต่พี่ว่านะ ถ้ายังมีสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำ
ก็ไปทำตามที่ใจอยากทำเถอะน้อง
ไปอย่างมั่นใจ เหมือนนักรบทุบหม้อข้าวเลยนะ
เวลาที่ท้อ เวลาที่เหนื่อย ก็อย่าให้ความคิดแบบ "ถ้าตอนนั้นเลือกเรียนหมออาจจะดีกว่านี้" เข้ามารบกวนจิตใจล่ะ
เพราะไม่มีใครสามารถเรียนทั้งสองคณะได้ในเวลาเดียวกัน
ไม่มีใครรู้ว่า ถ้าเลือกอีกทางจะดีหรือแย่ มันขึ้นกับตัวเราเองล้วนๆ

เหมือนที่พี่เรพบนบอกว่า"มันเป็นข้อมูลทางสถิติ"
ไม่มีใครบอกได้ว่าอาชีพไหนดีหรือไม่ดี
หมอรวยได้... วิศวกรก็รวยได้... สถาปนิกก็รวยได้... ชาวนาก็รวยได้... เก็บขยะขายยังรวยได้เลย!
คนขยัน ตั้งใจ แสวงหาความรู้มาพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ ก็ประสบความสำเร็จได้หมดแหละ
และ ความชอบ เนี่ยแหละ ที่จะเป็นตัวผลักดันให้เราเกิดการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
หาตัวเองให้เจอ ถ้ายังหาไม่เจอก็ลองมาเรียนหมอไปก่อนก็ได้55
ค่อยๆหาไป เหมือนที่น้องบอกอ่ะ..

ถูกใจกว่ามีเส้นทางในชีวิตใหม่ ๆ ให้เลือกเดิน  เราก็ค่อยเปลี่ยนได้ 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: doctorpuchong on May 23, 2010, 05:02:26 pm
การเลือกสิ่งที่ดีกว่า  คือการเลือกที่ถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ  เพราะอย่างไรเสีย   มันก็ดีกว่า  มันเหมือนสรุปรวมทุกอย่างอย่างสมบูรณ์อยู่ในนี้แล้ว  อนาคนจะเป็นอย่างไรอีกขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราในการทำงานการใช้ชีวิตให้สมดุลอย่างมีความสุข  มันจะทำได้ไหมค่ะอาจารย์ถ้าไม่ขอบเราจะปรับตัวได้เองในที่สุด  หรือถ้ามีสิ่งที่ดีกว่าในเวลาเมื่อเราทำงานแล้ว ถูกใจกว่ามีเส้นทางในชีวิตใหม่ ๆ ให้เลือกเดิน  เราก็ค่อยเปลี่ยนได้  เรียนอาจารย์ภุชวงค์คิดอย่างนี้ถูกหรือเปล่าคะ  ควรคิดอย่างไร

อ.ภุ-ชวงค์  ขอตอบว่า อาจารย์ก็ไม่รู้จะวัดผิดถูกให้หนูได้อย่างไร อะไรถูก อะไรผิด ก็ขึ้นกับว่าหนูใช้อะไรวัด
-ถ้าเป็นเรื่องความสุข เปลี่ยนใจแล้วมีความสุขกว่าก็คุ้มที่จะเปลี่ยน
-ถ้าเป็นเรื่องเวลา หนูเรียนไปสี่ปีห้าปี หนูอาจรู้สึกไม่คุ้มแล้วที่จะเริ่มใหม่
  แม้ว่ารู้สึกเป็นพิษ(Toxic)กับการเรียนหมอมากเพียงใด แถมพ่อแม่ก็จะไม่ยอมให้เปลี่ยนแน่นอน
  เหมือนแถวๆนี้บางคน อิอิ  เลยต้องทนต่อไป
มันคงดีกว่า ประหยัดเวลากว่า ถ้าไม่ฝืนมาทำอะไรที่ชอบน้อยแต่แรก

ในกรณีที่หนูไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรเลย ไม่รู้จริงๆ  นั่นแปลว่าหนูคงต้องเตรียมการให้ตัวเองเพิ่มเติมแล้ว
จะมาดูเพื่อนว่าเขาไปไหน หรืออาจารย์แนะแนวว่ายังไง ไม่ได้ ใครจะรู้จักหนูดีเท่าตัวเอง
ค้นหาตัวเองก่อนดีไหม  ทำความเข้าใจการใช้ชีวิต มองไปรอบๆสังคม ภาพคนไหนที่ติดตาติดใจ
ถ้าเป็นไฮสกูลที่เมืองนอก เด็กจบมัธยมดูเหมือนเค้าจะไม่รีบเรียนมหาลัย จะลองทำงานเล็กๆน้อยๆเรียนรู้ชีวิตดูก่อนปีสองปี
ซึ่งดีนะ เด็กไทยไม่ค่อยมีโอกาสอย่างนั้น

ส่วนที่คิดว่าแพทย์เป็นอาชีพที่ดีที่สุด มันก็ขึ้นกับว่าวัดจากอะไรนะ
โดยมุมมองของผมก็ว่าไม่ใช่นะ  และตอนนี้ก็นึกไม่ออกว่าอาชีพอะไรดีหรือไม่ดี นอกจากมิจฉาชีพ อย่างนี้ไม่ดี
มีเพื่อนผมทำธุรกิจ ก็รวยจะตาย นอนรอเงินงอกเลย
มีเพื่อนเป็นวิศวะ ก็เครียดบ้าง แต่ก็ไม่ได้กดดันอะไร ไปเมืองนอกบ่อย
หมอฟันก็รวยกว่า สบายกว่า ทำงานช่วยเหลือคนเหมือนกัน
มีเรียนวิศวะอีกคนนึง ตอนนี้อยู่องค์การนาซ่าแล้ว
มันมีลู่ทางไปมากมายครับ

ตอนไปเรียนเมืองนอก ถ้าผมไม่ได้ติดทุน จะลงเรียนชิมไวน์แล้วเปลี่ยนอาชีพเป็นsommelierแล้ว
มีไวน์ดีๆให้ผ่านลิ้นตาหลอด โอว สุดยอดอาชีพ

โลกมันกว้างนะ ตั้งแต่เด็กมาคุณรู้จักสักกี่อาชีพ รู้น้อยตัวเลือกก็น้อย
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: exFictitiouZ on May 23, 2010, 08:56:47 pm
พี่ก็คล้ายๆแบบนี้เลยครับ ต่างนิดนึงตรงที่พี่ exFict เค้าเก่งฟิสิกมาก และพี่โง่ ฟิสิกมาก และแม่พี่หว่านล้อมแกมบังคับ
อย่าไปเชื่อถือพี่เค้ามากครับ พี่คนนี้เค้าขี้จุ๊  :-\

แต่สังคมเพื่อน ๆ นะสิ  มันมีผลกับการตัดสินใจของเรา  บางทีมันไม่ได้อยู่ที่ชอบไม่ชอบมันจะเลือกตามกระแสนะคะ  ใจเรามักจะคิดให้เอนเอียงไปทางไหนก็ได้  พอถึงเวลาก็เลือกหมอ  เลือกในสิ่งที่ดีกว่า  ซึ่งถ้าเราไม่เลือกหมอ  ในขณะที่เพื่อนเลือกเรียนหมอกัน  เรารู้สึกทำไมเพื่อนเลือกเรียนกัน  เพราะมันเป็นอาชีพที่ดีกว่าอย่างอื่นๆ  เพื่อนเรียนได้  ทำไมเราจะเรียนไม่ได้ประมาณนั้น  เริ่มชักลังเลค่ะ  ตรงนี่สำคัญมากค่ะ  หนูเลยอยากจะขอความกรุณาพี่หมอที่จบทำงานแล้วซัก 10 ปี  พี่ๆ หมอชั้นปีสูงๆ  และพี่หมอทุกขึ้นปี  ที่มีประสบการณ์ตรงนี้  ได้ให้ข้อคิด  คำแนะนำค่ะ
เอาหละครับ มาถึงประเด็นนี้ถึงพี่จะไม่ผ่านเงื่อนไขบุคคลที่น้องอยากให้ตอบ แต่พี่ขอขวางโลกตอบนะครับ
คือเพื่อนน้องเลือกเรียนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคณะนี้ดีกว่าคณะอื่น ๆ หรือเปล่าครับ ?
น้องต้องเข้าใจว่าที่เพื่อนน้องเลือกกันเยอะ ประกอบด้วยเหตุผลหลายประการมาก จากที่น้องพิมพ์ไว้ในย่อหน้าแรกด้วย และรวมถึงค่านิยมของสังคมไทยด้วย (ว่ากันตรงไปตรงมาก็พ่อแม่หลายคนอยากให้เรียนหนะหละ)
แล้วมาถึงประเด็นที่น้องบอกว่า อาชีพนี้ดีกว่าอาชีพอื่น คือคำว่าดีมันกว้างมากครับน้อง ดีกว่าแปลว่าอะไร ? ฐานะดีกว่าหรอ หรือว่ามีความสุขกว่า ? เอาเป็นว่าถ้าพี่จะบอกว่าอาชีพนี้ดีกว่าอาชีพอื่นก็เพราะน้องอยากเป็นหมอมากกว่าอาชีพอื่น น้องนึกภาพตัวเองเป็นหมอแล้วมีความสุขกว่า น้องมีความถนัดด้านนี้มากกว่าวิชาอื่น ก็แล้วกันครับ
น้องบอกว่าทำไมเพื่อนเรียนได้ชั้นเรียนไม่ได้ อ้าว ! ถ้าน้องใช้เหตุผลนี้ ยังงี้เด็กคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะฯลฯ ต้องเรียนอ่อนกว่าเด็กคณะแพทยศาสตร์หรอครับ ? ซึ่งมันก็ไม่ใช่ถูกไหม แค่น้องคะแนนถึงก็เข้าเรียนได้แล้ว ไม่ได้บ่งบอกอะไรเลย และก็ไม่ได้แปลว่าน้องจำเป็นต้องเรียนคณะนี้ด้วยครับ มันอยู่ที่ความชอบและความถนัดต่างหากหละ

วิธีคิดเราควรจะคิดอย่างไร  และมีวิธีปลอบใจตัวเองอย่างไร  เมื่อถึงเวลาแล้วเราไม่เลือกหมอ   ถึงเราจะไม่เลือกหมอเราก็ยังรู้สึกลังเลอีกว่าที่เราเลือกอีก 10 - 20 ปี ข้างหน้าจะดีไหม  ในขณะที่หมอมันเป็นอาชีพที่ดีกว่า  เลือกไปแล้ว  จบไปแล้ว  ทำงานไปแล้ว  ไม่น่าจะผิดหวัง  เพียงแต่อาจจะไม่มีความสุข  สุข ๆ ดิบ ๆ  
อ่านแล้วเหมือนน้องต้องฝืนกล้ำกลืนมากเพื่อจะเรียนหมอและเป็นหมอ ตรงนี้พี่ว่าน้องทราบดีแล้วว่าจะเรียนคณะนี้และจะประกอบอาชีพนี้ต้องอาศัยใจรักและความทุ่มเทสูงมาก เพราะฉะนั้นพี่อนุมานเลยละกันว่าน้องจุดนี้น้องทราบคำตอบดีอยู่แล้ว
ประเด็นว่าน้องจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจได้อย่างไร สำหรับพี่ พี่จะเสียใจกับการตัดสินใจก็ต่อเมื่อพี่ไม่ได้เลือกเอง แต่เลือกเพราะตามน้ำตามเพื่อน หรือตามใจตามพ่อแม่ครับ น้องหละครับ ปกติอะไรทำให้น้องเสียใจกับการตัดสินใจครับ ?
ประเด็นต่อมาที่บอกว่า ไม่น่าผิดหวังแต่อาจจะไม่มีความสุข คือพี่อ่านหลายกระทู้พอตีความได้ว่าน้องหลายคนอนุมานว่าการเรียนหมอคือการเลือกความมั่นคงแทนที่ความสุข
ทำให้พี่อยากจะบอกน้องทุกคนที่อาจจะคิดแนว ๆ นี้ว่า เรียนสิ่งที่น้องไม่ต้องเลือกดีกว่าไหมครับ สิ่งที่ทำให้น้องมีความมั่นคงในระดับหนึ่งและมีความสุขกับการทำงาน (เครดิตพี่ไปป์ครับ พูดได้ดีมาก ๆ +1)
และเรื่องสุดท้ายครับ พี่อยากย้ำหนัก ๆ เลยว่า เรียนคณะไหน ทำอาชีพอะไร ก็มั่นคงได้ สิ่งที่จะกำหนดความสำเร็จของน้องคือความสามารถของน้องเอง ไม่ใช่สาขาที่น้องเลือกเรียน ถ้าสมมุตินาย A เรียนวิศว เรียนเก่งอยู่อันดับบน ๆ มีทักษะดี เขาจะล้มเหลวในชีวิตหรอครับ เขาจะตกงานหรอครับ พี่ว่าไม่มีทางอะ ในทางกลับกัน สมมุตินางสาว B เรียนหมอ แต่เรียนแล้วไม่มีความสุข ไม่ใช่สาขาที่ถนัด จำอะไรไม่ได้เลย เรียนร่วง ๆ หล่น ๆ จบออกมาเป็นหมอแบบมึน ๆ งง ๆ ไม่มั่นใจความรู้สักอย่าง แบบนี้น้องว่าชีวิตประสบความสำเร็จไหมครับ
ประเด็นนี้คล้าย ๆ กับที่พี่ brownies พูดไว้ข้างบนครับ
ขอฝากไว้เท่านี้ครับ

อ.ภุ-ชวงค์  ขอตอบว่า
;D ;D
Title: เรียนหมอหนักมากขนาดไหนครับ พี่ ๆ หมอกรุณาเล่าให้เห็นภาพชัด ๆ ด้วยครับ
Post by: May on May 25, 2010, 11:29:10 pm
"สิ่งที่ชอบ"  กับ  "สิ่งที่ต้องทำ"   ในกระทู้อื่นของพี่หมอ  (ถ้าไม่ชอบหมอจะเรียนได้มั๊ย)  หมายถึงอะไร  ช่วยขยายความหน่อยได้มั๊ยครับ

ขอเรียนถามพี่หมอและอาจารย์ครับว่า

-  หมอเรียนหนักมากขนาดไหนครับ  ช่วยกรุณาอธิบายได้ผมเห็นภาพอย่างชัดเจนด้วยครับ  ปี 2 ปี 3  หนักกว่าสมัยเตรียมตัว Ent ตอนอยู่ ม. 6 มากกกว่ามั๊ย ขนาดไหน

-  สมัยอยู่ ม. 6 ร.ร. มีชื่อที่สุดของประเทศไทย  ผมว่าก็เรียนหนักแล้วครับ  ผมหนักตั้งแต่ ม. 4 - ม. 6  เลิกเรียนรีบกลับบ้านอ่านหนังสือ  หรือบางวันก็เรียนพิเศษ  ทานข้าวเสร็จก็อ่านหนังสือตลอด ไม่เคยเล่นเกมส์  ไม่เคยเน็ต (ยกเว้นหลังสอบเสร็จ)  เสาร์-อาทิตย์  เรียนพิเศษ 1 วัน  เลิกเรียนพิเศษกลับบ้านดูหนังสือ  วันอาทิตย์ดูหนังสือ  ในช่วง ม. ปลายตลอด 3 ปี ครอบครัวไม่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัด  ใน 1 ปี ทานข้าวนอกบ้านมื้อเย็นนับครั้งได้  ตอนสอบเข้าลำดับที่ 600 กว่า  ผมขยันปรับขึ้นมาอยู่ในลำดับที่น่าพอใจ  วันหนึ่งนอนประมาณ 4 - 5  ชั่วโมง  ประมาณ 06.15 น. ตื่นนอน  เพื่อเตรียมตัวเดินทางไป ร.ร.  ที่เล่ามานี้ผมอยากทราบว่า  หากเปรียบเทียบในช่วง ม. ปลาย  ตามที่เล่ามา  กับ  การเรียนหมอตั้งแต่ปี 2 - 6  หนักกว่ามั๊ย  มากน้อยแค่ไหนอย่างไร  ในแต่ละชั้นปี

-  มีความเครียดมากน้อยแค่ไหน  และหากเทียบกับความเครียดช่วง ม. 6 เตรียมตัวสอบ Ent 

ทุกข้อไม่ต้องกลัวว่าจะตัดกำลังใจรุ่นน้องครับ  กรุณาเขียนได้ตามความเป็นจริงเลยคับ  ผมกำลังมีน้องอีกคนที่กำลังเรียน ม. 6


ขอบคุณมากครับ

Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: เอมมี่ on July 22, 2010, 12:02:31 am
แล้วถ้าหนูเป็นคนเรียนกลาง ๆ (ถ้าขยันมันคงดีขึ้น)  8)

จะเรียนหมอได้ไหมอ่าา


อยากเป็นหมอชนบท(มาก ๆ )แต่แม่บอกมันลำบาก

แต่ก้อยากจาเป็น เห็นหมอต้วงเขาเสียสละไม่รับเงินค่าผ่าตัดแล้วเป็นกำลังใจมาก ๆ เลย ><
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: [Calcimex] on August 01, 2010, 09:40:34 pm
หุหุ พี่ๆ กับอาจารย์โพสกันดีจังเลย  :'(

ตอนนี้ โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ อาชีพใหม่ๆ ทำธุรกิจ ถ้าไม่เจ๊งเงินงอกเร็วกว่าหมอก็เยอะ
บอร์ดฯปตท. ก็วิศวะจุฬา

เรียนในสิ่งที่ชอบก็โอนะ เพราะ สิ่งที่ชอบมันให้แรงบันดาลใจ ให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า เป็นหมอธรรมดากับเป็นวิศวะที่ใครๆก็ต้องการตัว อย่างหลังมันก็น่าจะดีกว่าใช่ป่ะ...ที่สำคัญที่ใครๆก็บอกไว้ ต้องการให้ชีวิตตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร ก็เลือกสิ่งที่มันจะตอบโจทย์ของตัวเองได้แหละ :)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: เพียงพึงใจรักจาอักษร on October 14, 2010, 07:18:25 am
เราอายุ 17 ปีนะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เราคิดว่าแค่เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคของเราที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร จะมีประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้นะคะ คือ เราก็เคยมีความรู้สึกแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้นะคะ ตอนนั้นอยากเป็นวิศวะมาก คลั่งวิศวะมากอ่ะค่ะ พอจบ ม. 3 เราก็เลยลองสอบเตรียมวิศวะพระจอมเกล้าพระนครเหนือดู อยากเข้าไฟฟ้าค่ะ ผลปรากฏว่าติดโยธาค่ะ แฮ่ แฮ่ หัวไม่ค่อยดีอ่ะค่ะ ชั่งใจอยู่เหมือนกันนะคะ ว่าจะเรียนดีหรือเปล่า แต่ในที่สุดก็เลือกที่จะเรียนค่ะ ทั้งๆที่รู้นะว่าตัวเองไม่ค่อยชอบคำนวณ แล้วก็ไม่เก่งคำนวณด้วย คือหัวช้าอ่ะค่ะ แต่ที่มาเพราะคิดว่าตัวเองชอบอ่ะค่ะ เหมือนตามกระแสแบบเจ้าของกระทู้แหละ เท่ไงคะ ตามที่เราได้ไปสัมผัสมานะคะ วิศวะเค้าไม่เรียนชีวะอ่ะค่ะที่นี่ แต่ที่อื่นไม่ทราบค่ะ ที่เรารู้สึกว่าวิศวะต้องถนัดมากๆ ก็คือ คณิต กับ ฟิสิกส์เนี่ยแหละ หินมากอ่ะที่นี่(สำหรับเรานะ) แล้วก็จะต้องเรียนวิชาช่างควบคู่ไปด้วยนะคะ อยู่หัวด้วย ยากจริงๆ สำหรับเด็กอายุ 15-16 อย่างเราตอนนั้น ตอนนั้นเค้ารีไทร์ต่ำกว่า 2.00 ค่ะ พอเกรดออกมาเราได้ 2.20 ค่ะ แต่ คณิต D=1 ฟิ D=1 เคมี D=1 ค่ะ ส่วน A=4 เพียงวิชาเดียวของเราในตอนนั้น คือ ภาษาไทยค่ะ ได้ 90 คะแนน เราเลยรู้ซึ้งแล้วว่า ผลของการที่เราต่อต้านต่อความถนัดและความชอบในใจของเรามันเป็นยังไง โทษทีนะคะ เราลืมบอกไปว่าเราชอบเรียนภาษาไทยมากๆ ค่ะ ชอบตั้งแต่จำความได้ แล้วพอเราเรียนต่อมา เรารู้สึกว่ามันมันมีความสุขจริงๆนะคะ มันเหมือนไม่ใช่ตัวเรา มันเหมือนแบบวันๆ อยู่แต่กับอะไรก็ไม่รู้ประมาณนี้อ่ะค่ะ ทั้งคิดถึงบ้านก็คิดถึง เราเลยคิดว่าถ้าเราได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ เราคงไม่เป็นแบบนี้ ถึงจะยากเย็นแค่ไหน เราก็คงมีแรงใจที่จะสู้ ที่จะผลักดันตัวเองให้ดั้นด้นไปมากกว่านี้ เราเลยตัดสินใจลาออกเลยค่ะ ทั้งๆ ที่จ่ายค่าเทอมไปแล้วด้วย เอาคืนก็ไม่ได้ด้วย บางคนคงคิดว่าเราโง่ด้วยแหละค่ะ แต่ก็จริงๆ เราเขลาเอง ปรึกษาพ่อแม่แล้วพ่อแม่ก็บอกว่า ยอมเสียเงิน ดีกว่าให้ลูกต้องลำบากใจ ถ้าไม่ไหว ก็ออกมาเรียนม.ปลาย กับพ่อ ซาบซึ้งในพระคุณท่านมากค่ะ หลังจากนั้นเราก็รอสอบม.ปลาย ซิ่ว ปีนึงค่ะ แต่เราก็คิดในแง่บวกว่ามองอีกมุมนึงมันก็คุ้มนะคะ เพราะสิ่งที่เราได้มา คือ ประสบการณ์ชีวิต ที่อ่านจากตำราไหนไม่ได้ ประสบการณ์ราคาแพงที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ค่ะ พอเรามาเรียนม.ปลาย ความรู้สึกเราเหมือนคนละโลกกับที่นั่นเลย คุณเจ้าของกระทู้ก็อย่าเอาความคิดเราเป็นหลักแล้วกันค่ะ ฟังหลายๆเหตุผล หลายๆความคิด เพราะเราเองก็แค่เด็กอายุ 17 อาจยังอ่อนประสบการณ์ เพราะถ้าเป็นคุณเจ้าของกระทู้เอง อาจทนเรียนจนจบไม่ลาออกเหมือนเราก็ได้นะคะ
แต่เราก็แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ของเราให้ฟังบ้าง อยากเป็นเสียงเล็กๆ ในการตัดสินใจของคุณเจ้าของกระทู้บ้างอ่ะค่ะ สำหรับเราทุกวันนี้ก็มีความสุขดีค่ะ ชีวิตม.ปลาย บ้านใกล้โรงเรียน อิอิ พ่อแม่เราท่านก็ดีตรงที่ท่านไม่เคยบังคับเราเลยนะคะ ท่านบอกอยากให้เราตัดสินใจเอง ขอแค่เป็นงานที่เรารัก สุจริต ทำแล้วสบายใจ ไม่ให้ใครเค้ามาดูถูกได้ ว่าโตแล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ ดูแลท่านได้ เป็นคนดี รายได้ไม่ต้องถึงกับทำงานไม่กี่ปีออกรถออกบ้านก็ได้ ท่านก็พอใจแล้วแหละค่ะ(ท่านว่านะคะ อิอิ) สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ก็แค่อยากให้คุณเจ้าของกระทู้คิดให้ดีๆแล้วกันค่ะ ว่าเป้าหมายจริงๆต้องการแบบไหน ถ้าไม่ชอบจริงๆ จะทนอยู่ได้ไหม หรือจะเป็นแบบเรา เพราะคนเราไม่เหมือนกันหรอกค่ะ แต่ถ้าเราขอออกความเห็นนิดนึงคงไม่ว่ากันนะ เพราะจากที่เราอ่านมาเราว่าเจ้าของกระทู้เหมือนจะเหมาะไปทางวิศวะอ่ะค่ะ วิศวะเรียนฟิสิกส์ถึงใจเลยนะคะ(เท่าที่เราเคยเรียนเตรีมวิศวะมา) ยังไงๆ ก็ขอให้เจ้าของกระทู้โชคดีแล้วกันนะคะ เฮง เฮง เฮง ค่ะ ส่วนเราตอนนี้รู้สึกว่าอยากเข้าอักษรศาสตร์ เอกภาษาไทยค่ะ ถ้าติดจุฬาก็ป็นบุญแหละค่ะ  เพราะหัวไม่ค่อยดี ต้องขยันหน่อย คงไม่ติดซะหละมั๊งคะเราเนี่ย เจ้าของกระทู้เก่งอยู่แล้ว ก็ไปให้ถึงดวงดาวนะคะ ไปให้ถึงฝันค่ะ เราเอาใจช่วยนะคะ ง่วงค่ะ สวัสดีค่ะ
ปล.เพื่อนเราคนนึงเป็นผู้ชายค่ะ พ่อมันเป็นวิศวะโยธา เลยอยากให้ลูกเรียนวิศวะ เด็กเส้นด้วยนะคะ พอมันเห็นเราจะลาออก ก็ได้มันเนี่ยแหละค่ะช่วยทำเรื่องให้ มันก็อยากออกเหมือนเรา แต่ทำไม่ได้ค่ะ พ่อบังคับ เกรดมันโดนไทร์ด้วยนะคะ 1.40 อ่ะค่ะ แต่มันไม่โดนไทร์ค่ะ (สงสัยเส้นใหญ่จริง) แต่ตัวมันอยากเป็นนักดนตรีค่ะ กำ!!!
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: riin on February 20, 2012, 01:42:58 pm
ถ้าตอนนี้รอผลรับตรงของคณะอื่นอยู่ (ต้องลุ้นเพราะคะแนน gat pat ที่ได้ต่ำกว่าคะแนนต่ำสุดของคณะนั้น เมื่อปีที่แล้วด้วย คาดหวังว่า ปีนี้คะแนนน่าจะต่ำลง แต่อะไร อะไรก็ไม่แน่) ติดหมอจุฬา กสพท. แล้ว ควรจะเลือกไปรายงานตัววันที่ 22 - 23 นี้ หรือ ทุบหม้อข้าวตัวเองรอลุ้นรับตรงจุฬาคณะอื่นดีคะ

พี่ช่วยแนะนำด้วย พ่อแม่นั่งไซโคทุกวันว่า เลือกมากจะไม่มีที่เรียน (เพราะ cpird ก็ไม่ไปรายงานตัว อันนั้นก็บ่นจนไม่พูดกันไปพักนึงแล้ว พ่อแม่อยากให้เรียนหมอเพราะเหตุผลคลาสสิคที่พูดกันในกระทู้นี่แหละคะ เลยเถิดไปจนถึงขั้นบอกว่า อยากให้เรียนเพราะเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลอะไรแบบนั้นเลยทีเดียว)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: o^THE_BUN^o on February 20, 2012, 05:09:34 pm
ถ้าไม่ชอบก็อย่าเรียนเลยครับ  เรียนหมอ(หรือคณะใดๆ)ต้องใช้  ฉันทะ จิตตะ วิริยะ วิมังสาอย่างสูงครับถึงจะมีความสุขครับ  ถ้าคณะที่ฝันไม่ได้มีแต่จุฬาที่เดียวก็ยังมีแอดมิชชั่นกลางอีกนะครับ ถ้าไม่ยึดติดสถาบัน จริงๆแล้วน่าจะลองคุยกับหมอหรืออาชีพที่น้องฝัน ให้เห็นภาพการทำงานจริง เปรียบเทียบแล้วตัดสินใจก็ไม่สายนะครับ  เป็นกำลังใจให้ตัดสินใจได้ในที่สุดนะคับ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: CarD-GlorFinDel on February 20, 2012, 09:19:08 pm
ถามว่าได้มั้ย คิดว่าก็พอได้อยู่นะ เพราะก็พอเห็นอยู่บ้างในคณะ

แต่ถ้าถามว่ามีความสุขมั้ย ก็คงไม่ล่ะมั้ง

คงต้องเลือกเองแล้วล่ะครับ ณ จุดนี้ แต่ก็ศึกษาให้ดีละกันเน้อ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Chindou Chihiro on February 20, 2012, 09:20:42 pm
ก็เรียนได้นะถ้าเก่ง แค่อาจไม่มีความสุข(เท่ากับไปทำสิ่งที่ชอบ)ก็เท่านั้นเอง   ;)
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Featherlity on February 21, 2012, 12:02:01 am
ถ้าไม่ถึงขั้นเกลียดอาชีพหรือทัศนคติติดลบร้ายแรง แบบกลางๆ ยังไงก็ได้
ก็เรียนได้แหละครับ
ในคณะนี้มีหลายสิบเปอร์เซ็นต์เลยที่เป็นแบบนั้น ไม่กล้าเดาจำนวนสุ่มๆ แต่พี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น และก็เห็นเพื่อนหลายคนเป็น
ส่วนความสุข ก็แล้วแต่คน บางคนก็ทำใจให้มีความสุขได้ บางคนก็ทำไม่ได้ ต้องดูเองล่ะครับ
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: arjibakoh3 on February 21, 2012, 11:23:23 am
ไม่ชอบก้อย่ามาเรียนเลย
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Baros™ 『バーロス』 on February 22, 2012, 09:19:44 pm
Don't do it.

You will regret it.



Find something you like so that you can enjoy it for the rest of your life,

not something you hope to enjoy while wasting 6 years without a goal.
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: Major on February 23, 2012, 03:09:43 am
Don't do it.

You will regret it.



Find something you like so that you can enjoy it for the rest of your life,

not something you hope to enjoy while wasting 6 years without a goal.

Couldn't agree more
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: lจ้าxญิงทoผ้า on February 25, 2012, 12:33:14 am
ตอบตอนนี้คงไม่ทันแล้วมั้ง รายงานตัวแล้วนิ

ในความคิดของพี่การที่จะรู้ได้ว่าอยากเรียนหรือไม่ต้องมาได้สัมผัสก่อน แต่กว่าจะได้สัมผัสการเป็นหมอจริงๆก็ต้องรอถึงปี4 5 6
ซึ่งถ้าไม่ชอบการกลับตัวตอนนั้นก็คงไม่ทันแล้ว
พี่บางคนขึ้นปี 4 แล้วก็ท้อ ไม่อยากเรียนหมอก็มี
พี่บางคนจากที่ไม่อยากเรียนหมอแล้วได้สัมผัสกับคนไข้ แล้วอยากเป็นหมอก็มี

ถ้าน้องลังเล ก็ต้องถามน้องก่อนว่าน้องรับได้มั๊ยกับการสอบแต่ละครั้งที่พี่บอกได้เลยว่ากดดันมาก
น้องรับได้มั๊บกับการที่แทบจะไม่ได้เจอเพื่อนเก่าๆที่อยู่คณะอื่นๆเลย มีแฟนต่างคณะแล้วรักกันให้รอดเนี่ย ยาก (แต่ไม่ใช่ไม่มี)
น้องจะรับได้มั๊ยกับการนอนที่น้อยลงเรื่อยๆตามจำนวนปีที่เพิ่มมากขึ้น ขึ้นปี6 ถ้าอยู่เวรให้คิดไว้ก่อนว่าจะไม่ได้นอน
แล้วน้องจะรับได้มั๊ยกับการที่น้องต้องมารักษาชีวิตคนหลายๆคน ความกดดันที่เพิ่มมากขึ้นจากสายตาคนไข้
ชีวิตดราม่าหมอเดี๋ยวนี้หาอ่านไม่ยาก ตามเนต เว็บพันทิพ เว็บดราม่าก็มี อ่านแล้วลองมองในมุมที่น้องคิดว่าถ้าเป็นน้อง น้องทนได้มั๊ย
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: ป ร ะ กั น ภั ย ™ on February 28, 2012, 01:45:22 am
Don't do it.

You will regret it.



Find something you like so that you can enjoy it for the rest of your life,

not something you hope to enjoy while wasting 6 years without a goal.

 :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(
Title: Re: ถ้าไม่ชอบหมอ จะเรียนได้มั๊ย
Post by: -:•:- 騎馬王丸 -:•:- on March 05, 2012, 08:26:34 pm
Don't do it.

You will regret it.



Find something you like so that you can enjoy it for the rest of your life,

not something you hope to enjoy while wasting 6 years without a goal.
เห็นด้วยฮะ พี่บุ๋น =w=