Docchula Public Board > แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ

แก่แล้ว อยากเรียนแพทย์ อ่านหนังสือประมาณนี้ พอจะสู้เด็กๆได้ไหมครับ

<< < (2/13) > >>

Alistair*:

--- Quote from: กวาง on August 31, 2009, 12:18:48 pm ---
และสุดท้าย เห็นกระทู้ล่าง ๆ บอกว่าเลขกับวิทย์ ได้เต็มกันเกือบทุกคนในคณะแพทย์ มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถ้าแบบนั้นความหวังผมก็ยิ่งริบหรี่ไปอีก เพราะแม้จะอ่านรู้เรื่องเข้าใจ ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้คะแนนได้เกือบเต็มแบบนั้นอ่ะครับ


--- End quote ---


พี่คะ
มันเป็นการประชดอะค่ะ  :P
ไม่คิดว่าจะมีคนจริงจังขนาดนี้

คนได้เลขกับวิทย์เอเน็ตเต็ม มีน้อยมากๆๆๆ
ตัวเราเอง ไม่มีเอเน็ตวิชาไหนได้ถึง 70 เลย
แต่ก็เข้ามาได้นะ  :)
ทำความถนัดแพทย์ให้น่าไว้วางใจได้หน่อยก็โอเคแล้วค่ะ

Gun:

--- Quote from: doctorpuchong on August 31, 2009, 12:28:38 pm ---แน่ใจหรือครับว่ามันจะเป็นการ "พลิกฟื้นชีวิตให้ดีที่สุด"

เวลาของคุณก็หายไปอีกเจ็ดปีอย่างน้อย(อ่านหนังสือเครียมสอบปีนึง)
ชีวิตเกิดมาครั้งเดียวนะครับ

แต่ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาดีแล้วก็ขอ อนุโมทนาด้วย

ที่ทักนี่เพราะว่าผมเห็นมาเยอะครับ
คนไม่มีความสุขเพราะกำลังทำในสิ่งที่เชื่อว่า ถ้าทำสำเร็จจะมีความสุข เนี่ยะ

--- End quote ---
เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ


...ผมอ่านที่เจ้าของกระทู้เขียน แล้วเดาเอาว่าเจ้าของกระทู้คงกำลังกังวลเกี่ยวกับ
1 รายได้
2 ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
3 อนาคตของตัวเอง
4 สุขภาพของตัวเอง เนื่องจากทำงานหนัก

หรือหลายๆปัจจัยข้างต้นรวมๆกันจนทำให้คิดหาทางออกอื่น และเจ้าของกระทู้คงเจออะไรหนักๆในชีวิตมา แต่มันก็ทำให้คุณเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งขึ้น
จริงๆแล้วผมชอบที่จะเห็นคนที่กล้าตัดสินใจทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมแบบคุณครับ และชอบในสิ่งที่คุณคิดและเป็นอยู่
แต่ผมไม่คิดว่าการเรียนหมอจะสามารถแก้ปัญหาการดำรงชีวิตอยู่ได้ตามมาตรฐานที่คาดหวังของคุณได้เลย
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาตรฐานที่คาดหวังของคุณ มันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง หรือคุณคิดขึ้นมาลอยๆ

เรื่องการนั่งทำวิจัยที่จะมีไครสนใจหรือเปล่าก็ไม่รู้นั้น . . .
ไม่ว่าจะมีใครจะสนใจหรือไม่ก็ตาม ถ้าคุณเลือกที่จะทำมัน คุณก็มีความสุขกับมันอยู่แล้วครับ และคงจะทำได้ดีกว่าคนอื่นด้วย

ส่วนเรื่องวัย
นิสิตที่นี่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีวุฒิภาวะสูงเทียบเท่ากับผู้ใหญ่
ดังนั้น ถึงแม้คุณจะอายุมากกว่าพวกเขา แต่ความจริงแล้วแนวความคิดหลายๆอย่างของพวกเขาดีกว่าที่ผู้ใหญ่ส่วนมากคิดได้เสียอีก
พวกเขาไม่ใช่เด็กๆครับ พวกเขาเป็นอนาคตที่สังคมคาดหวังและรอคอย
การได้ร่วมกับพวกเขาเพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมควรเป็นความภาคภูมิใจของคุณ

ส่วนเรื่องบอกว่าเลขกับวิทย์ ได้เต็มกันเกือบทุกคนในคณะแพทย์ เป็นเรื่องหลอกเด็ก(เด็กที่ชอบเสียเวลามาเขียนกระทู้ในบอร์ดนี้)เพื่อให้ไปอ่านหนังสือกันครับ มันไม่เป็นความจริงเลยครับ

ส่วนเรื่องการเตรียมสอบ คงต้องถามคนที่เก่งๆแล้วละครับ ผมช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

ปล ผมรู้จักนิสิตที่หน้าตาดีและนิสัยดีคนหนึ่ง ที่จบมหาวิทยาลัยแล้วมาเรียนหมออยู่ปี1 แต่รู้สึกว่าเป้าหมายของเขาจะต่างจากของคุณครับ
     

Major:

--- Quote from: doctorpuchong on August 31, 2009, 12:28:38 pm ---แน่ใจหรือครับว่ามันจะเป็นการ "พลิกฟื้นชีวิตให้ดีที่สุด"

เวลาของคุณก็หายไปอีกเจ็ดปีอย่างน้อย(อ่านหนังสือเครียมสอบปีนึง)
ชีวิตเกิดมาครั้งเดียวนะครับ

แต่ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาดีแล้วก็ขอ อนุโมทนาด้วย

ที่ทักนี่เพราะว่าผมเห็นมาเยอะครับ
คนไม่มีความสุขเพราะกำลังทำในสิ่งที่เชื่อว่า ถ้าทำสำเร็จจะมีความสุข เนี่ยะ

--- End quote ---

มาเห็นด้วยกับอาจารย์อีกคนครับ

ผมเชื่อว่าทุกอาชีพก็มีปัญหาของมันเองครับ อยู่ที่เราจะสามารถอดทนและแก้ไขปัญหานั้นจนเราสามารถผ่านมาได้หรือเปล่า

ลองคิดดูง่ายๆ นะครับว่า เวลาตอนนี้ที่คุณเจ้าของกระทู้เอามาอ่านหนังสือเตรียมสอบ ไปอีกปีสองปี เพื่อมาเตรียมสอบ ถ้าได้ก็ดีไปครับ

แต่ถ้าสอบไม่ได้ คุณไม่คิดว่าจะเสียเวลาเปล่าหรือครับ แทนที่คุณจะเอาเวลาที่มีค่าเหล่านี้ไปพัฒนาหน้าที่การงานของคุณให้ดีขึ้น

ไม่แน่ว่า ถ้าคุณทุ่มเทกับการทำงานอย่างจริงจัง และเห็นค่าของงานที่คุณทำอย่างแท้จริงแล้ว อะไรๆ ก็จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ครับ

บางทีคุณอาจจะเป็นที่หนึ่งในสาขางานที่คุณกำลังรับผิดชอบอยู่ก็ได้ และถ้าคุณอยากจะพลิกฟื้นชีวิตจริงๆ ทำไมไม่ลองมองการศึกษาเพื่อต่อยอดจากสิ่งเดิมที่คุณมีอยู่แล้วล่ะครับ เป็นการศึกษาเพื่อเติมเต็มที่สิ่งที่คุณยังขาดอยู่และมีประโยชน์โดยตรงกับงานที่คุณทำจริงๆ

การที่คุณตัิดสินใจเริ่มอ่านหนังสือเพื่อสอบใหม่ ก็เหมือนคุณเริ่มต้นใหม่ เริ่มจาก"ศูนย์" กับเส้นทางที่คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

คำถามแรกที่คุณควรจะตอบตัวเองให้ได้คือ แล้วถ้าสุดท้ายหมอไม่ได้ให้อะไรอย่างที่คุณคาดหวังตอนนี้ล่ะ คุณจะทำอย่างไร

ชีวิตผ่านแล้วผ่านเลยนะครับ อายุ 26 ปี กำลังอยู่ในวัยทำงานครับ ยังมีพลังอยู่ ทำงานหนักวันนี้นอนพักวันพรุ่งนี้ก็ลุยงานหนักได้ต่อ แต่ไม่ใช่สำหรับคนอายุ 30-40 ปี ที่ร่างกายก็เริ่มเสื่อมถอยลงตามเวลา ถึงตอนนั้นต่อให้คุณอยากโหมทำงาน ร่างกายก็ไม่ไหวอยู่ดีครับ

ผมอยากให้คุณคิดให้ดีอีกครั้งนะครับ เอาพลังที่คุณมีอยู่ตอนนี้มาสร้างรากฐานของชีวิตการทำงานของคุณให้ดีที่สุดดีกว่าครับ ตั้งใจทำงานทำหน้าที่ของคุณให้ดี เอาเวลาที่คุณจะอ่านหนังสือเพื่อสอบใหม่ มาพัฒนาสิ่งที่คุณทำอยู่ให้ดีที่สุดดีกว่า

คิดดูสิครับว่า 6-7 ปีต่อจากนี้ (ที่คุณกำลังจะเสียไป ถ้าคุณสอบเข้าหมอได้ และจะมาเรียนหมอจริงๆ) คุณจะพัฒนาอาชีพและงานของคุณได้อย่างไรบ้าง

และคิดต่ออีกนิดว่า 6-7 ปีต่อจากนี้ ถ้าคุณมาเป็นหมอ คุณเพิ่งเริ่มนับ 1 นะครับ เป็นแค่แพทย์ใช้ทุน ถ้าคุณคิดว่าจะจบเป็นแพทย์เฉพาะทาง ก็คง 40 ปีพอดี

อยากให้ลองคิดไตร่ตรองใหม่อีกซักรอบนะครับ ทุกอาชีพมีปัญหาของตัวเอง และทุกอาชีิพมีคุณค่าในตัวมันเอง

ผมอยากให้คุณเห็นคุณค่าในงานที่คุณกำลังทำ เช่นเดียวกับที่คุณกำลังมองไปที่คุณค่าของการทำงานเป็นแพทย์

จริงๆ แ้ล้ว ก็ไม่มีอาชีพไหนให้เราได้ทุกอย่างหรอกครับ อยู่ที่เราจะปรับความความคาดหวังของตัวเราเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรามีอยู่ และพัฒนาสิ่งเหล่านั้นให้ดีที่สุด แล้วคุณก็จะมีความสุขไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามครับ

แกะ_นอกกะลา:

--- Quote from: DrGun on August 31, 2009, 05:39:43 pm ---
--- Quote from: doctorpuchong on August 31, 2009, 12:28:38 pm ---แน่ใจหรือครับว่ามันจะเป็นการ "พลิกฟื้นชีวิตให้ดีที่สุด"

เวลาของคุณก็หายไปอีกเจ็ดปีอย่างน้อย(อ่านหนังสือเครียมสอบปีนึง)
ชีวิตเกิดมาครั้งเดียวนะครับ

แต่ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาดีแล้วก็ขอ อนุโมทนาด้วย

ที่ทักนี่เพราะว่าผมเห็นมาเยอะครับ
คนไม่มีความสุขเพราะกำลังทำในสิ่งที่เชื่อว่า ถ้าทำสำเร็จจะมีความสุข เนี่ยะ

--- End quote ---
เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ


...ผมอ่านที่เจ้าของกระทู้เขียน แล้วเดาเอาว่าเจ้าของกระทู้คงกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ
1 รายได้
2 ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
3 อนาคตของตัวเอง
4 สุขภาพของตัวเอง เนื่องจากทำงานหนัก

หรือหลายๆปัจจัยข้างต้นรวมๆกันจนทำให้คิดหาทางออกอื่น และเจ้าของกระทู้คงเจออะไรหนักๆในชีวิตมา แต่มันก็ทำให้คุณเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งขึ้น
จริงๆแล้วผมชอบที่จะเห็นคนที่กล้าตัดสินใจทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมแบบคุณครับ และชอบในสิ่งที่คุณคิดและเป็นอยู่
แต่ผมไม่คิดว่าการเรียนหมอจะสามารถแก้ปัญหาการดำรงชีวิตอยู่ได้ตามมาตรฐานที่คาดหวังของคุณได้เลย
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาตรฐานที่คาดหวังของคุณ มันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง หรือคุณคิดขึ้นมาลอยๆ

เรื่องการนั่งทำวิจัยที่จะมีไครสนใจหรือเปล่าก็ไม่รู้นั้น . . .
ไม่ว่าจะมีใครจะสนใจหรือไม่ก็ตาม ถ้าคุณเลือกที่จะทำมัน คุณก็มีความสุขกับมันอยู่แล้วครับ และคงจะทำได้ดีกว่าคนอื่นด้วย

ส่วนเรื่องวัย
นิสิตที่นี่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีวุฒิภาวะสูงเทียบเท่ากับผู้ใหญ่
ดังนั้น ถึงแม้คุณจะอายุมากกว่าพวกเขา แต่ความจริงแล้วแนวความคิดหลายๆอย่างของพวกเขาดีกว่าที่ผู้ใหญ่ส่วนมากคิดได้เสียอีก
พวกเขาไม่ใช่เด็กๆครับ พวกเขาเป็นอนาคตที่สังคมคาดหวังและรอคอย
การได้ร่วมกับพวกเขาเพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมควรเป็นความภาคภูมิใจของคุณ

ส่วนเรื่องบอกว่าเลขกับวิทย์ ได้เต็มกันเกือบทุกคนในคณะแพทย์ เป็นเรื่องหลอกเด็ก(ที่ชอบเสียเวลามาเขียนกระทู้ในบอร์ดนี้)ให้ไปอ่านหนังสือครับ มันไม่เป็นความจริงเลยครับ

ส่วนเรื่องการเตรียมสอบ คงต้องถามคนที่เก่งๆแล้วละครับ ผมช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

ปล ผมรู้จักนิสิตที่หน้าตาดีและนิสัยดีคนหนึ่ง ที่จบมหาวิทยาลัยแล้วมาเรียนหมออยู่ปี1 แต่รู้สึกว่าเป้าหมายของเขาจะต่างจากของคุณครับ     

--- End quote ---

อ๊ะ!! ยังไง

Ne-Yo:
มีคนตอบยาวๆ เยอะแล้ว ผมขอตอบสั้นๆ ละกัน

1. สู้เด็กได้มั้ย ได้ครับ ถ้าพยายามจริง
George Elliot เคยพูดไว้ว่า "ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเลือกคนที่คุณควรจะเป็น"
แต่จากที่คุณพูดว่า

--- Quote from: กวาง on August 31, 2009, 12:18:48 pm ---และสุดท้าย เห็นกระทู้ล่าง ๆ บอกว่าเลขกับวิทย์ ได้เต็มกันเกือบทุกคนในคณะแพทย์ มันต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถ้าแบบนั้นความหวังผมก็ยิ่งริบหรี่ไปอีก เพราะแม้จะอ่านรู้เรื่องเข้าใจ ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้คะแนนได้เกือบเต็มแบบนั้นอ่ะครับ

--- End quote ---
อันนั้นมาตรฐานสูงไปครับ มันไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ได้เกือบ 100 ก็จริง
แต่คุณคิดจะลดมาตรฐานของตัวคุณเอง โดยการบอกว่าเราไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนั้น
ผมไม่เห็นด้วยครับ
การยอมลดมาตรฐานลงมา ย่อมง่ายกว่าการขยับมาตรฐานตัวเองให้สูงขึ้น หากคุณไม่คิดจะก้าวให้เหนือกว่าสิ่งที่คุณควบคุมได้ คุณจะไม่มีวันเติบโตได้เลย
ในการทำงานของแพทย์ ต้องเจอกับแรงกดดันอย่างมาก ทั้งจากผู้ป่วย จากสภาพแวดล้อม จากสภาวะจิตใจของเราเอง
ถ้าเกิดวันหนึ่งคุณต้องทำการผ่าตัดผู้ป่วยรายหนึ่ง ซึ่งโอกาสเสียชีวิตสูงมาก หากไม่ทำการผ่าตัด
แต่โอกาสผ่าตัดสำเร็จนั้นก็ริบหรี่พอดู คุณยังจะบอกได้อีกมั้ยครับว่า "เราไม่มีทางทำได้ถึงขั้นนั้น"

2.
--- Quote from: กวาง on August 31, 2009, 12:18:48 pm ---ไล่อ่านเคมีคำนวน ฟิสิกส์ คณิต ส่วนชีวะนั้น อ่านเป็นประจำครับ เพราะรู้สึกว่าเนื้อหามันเยอะมากกกกกก แต่ก็จะอ่านเน้นในส่วนของที่ต้องทำความเข้าใจก่อน เช่นวัฎจักรต่าง ๆ กระบวนการสังเคราะห์ต่างๆ อะไรแบบนี้ครับ

--- End quote ---
เนื้อหาชีวะตลอด 3 ปี ยังหนาไม่เท่าสรีรวิทยาแค่เทอมเดียวเลยครับ

ปล. New Tract ที่แก่ ๆ เข้าปี 1 ตอนอายุ 30 ก็มีครับ

Navigation

[0] Message Index

[#] Next page

[*] Previous page

Go to full version