Docchula Community

สายศิลป์ภาษากับการเรียนแพทย์ครับ

Tom

ได้สอบถามจากหลายๆ ที่  ต่างก็แนะนำแตกต่างกันไป
สุดท้ายก็มีผู้แนะนำให้มาขอคำแนะนำเพิ่มเติมที่บอร์ดนี้ครับ

เริ่มรู้สึกว่าสนใจวิชาแพทย์ขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วครับ
ก็พยายามจะตัดใจมาตลอด  เพราะได้ตัดสินใจเลือกเรียนสายศิลป์ไปแล้ว
จนถึงตอนนี้อยู่ ม.5  แต่ก็ยังตัดใจไม่ลงครับ
แต่ถ้าจะให้ไปเข้าม.4 สายวิทยาศาสตร์ใหม่  ก็คงไม่ไหวแล้วครับ

ก็เลยลองหาข้อมูลดู  ว่าพอมีช่องทางไหนบ้าง
แรกๆ  ก็ดูเหมือนจะบอกว่า  ขอแค่จบม.6 มาไม่ว่าสายอะไร
ถ้าสอบเข้าได้ก็เรียนได้ทั้งนั้น  แต่ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าถึงสอบได้
แต่ก็ยังขาดคุณสมบัติ  และจะถูกตัดสิทธิตอบสอบสัมภาษณ์ได้
สงสัยรับเด็กสายศิลป์แล้ว  จะทำให้เกิดความพินาศล่มจมแก่วงวิชาการ
 ;D

เขาบอกว่าเพราะหน่วยกิตวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่เรียนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
ก็มีคนแนะนำต่างๆกันไป

ส่วนใหญ่ก็ว่าให้หาทางเข้าคณะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ  แล้วไปสมัครสอบ new tract
แต่การที่สายศิลป์จะไปเรียนคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพก็คงไม่ง่ายเหมือนกันสิครับ
มหาวิทยาลัยที่มีโครงการ  new tract   ก็มีแค่สองแห่ง  และรับปีละไม่มาก
แถมยังจำกัดคุณสมบัติอื่นๆอีกมาก  เช่นต้องเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข

บ้างก็ว่าถ้าจะเรียนในเมืองไทย  คงจะยากแล้ว
แนะนำให้ไปเรียนแพทย์ที่ฟิลิปปินส์  เพราะเข้าได้ง่าย  ค่าใช้จ่ายไม่สูงจนเกินไปนัก
แต่ต้องจบปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ก่อน  อันนี้ก็น่าสนใจครับ
เพราะก็ได้อยู่สายศิลป์ภาษาและเรียนภาษาฝรั่งเศสมาแล้ว  ก็ไม่อยากจะทิ้ง
อยากจะเรียนต่อให้ถึงในระดับปริญญาตรี  พร้อมกันนั้นก็เรียนคณะวิทยาศาสตร์  รามฯไปด้วย  
แล้วจึงไปเรียนแพทย์ต่อที่ฟิลิปปินส์  แต่ก็อยากให้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ

ทางหนึ่งที่ไม่เห็นมีใครแนะนำคือ  ไปเรียนเอาวุฒิ ม.6 กศน.
ไม่รู้เป็นเพราะว่าไม่สามารถใช้สมัครสอบเข้าคณะแพทย์ได้หรือครับ
หรือสอบได้แต่จะขาดคุณสมบัติอีกเหมือนกัน  ช่วยตอบด้วยนะครับ

ถ้ากศน. เรียนแพทย์ไม่ได้  หรือเกิดกศน. ไม่รับผู้ที่จบ ม.6 มาเรียน
ก็คงหมดหนทางจริงๆ แล้วใช่ไหมครับ
 :'(

  

Offline Gun

  • *
  • 987
  • 39
สอบข้อเขียนให้ได้ก่อนครับ

สอบสัมภาษณ์ ถ้าไม่มีอาการทางจิตอย่างรุนแรงก็ไม่น่ามีปัญหา

Offline พีทซ่า@Gr.ofSeventeen

  • *
  • 907
  • 48
  • นี่ หรือ?
ถ้าไปเรียนม4 ใหม่ น่าจะเป็นการเสียเวลาที่น้อยที่สุดและตั้งต้นได้ดีที่สุดนะครับ

อันนี้เป็นคงเห็นส่วนตัว ก็มีในรุ่นหลายปีที่มีคนแก่ๆอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย

แต่เราก็ต้องสู้เพราะเราเองก็เสียเวลาไปหลายปีแล้ว ก็ึคงต้องตั้งใจอย่างเต็มที่หน่อย

เพื่ออนาคต อย่ามีคำว่าอาย

แก่ไปสองปี ไม่เรียกแก่หรอกครับ ก็คงล้อๆกันในรุ่นบ้าง รู้กันในหมู่น้องรหัสพี่รัหสบ้าง

แต่แล้วไง ก็ไม่้เกิดอะไรขึ้น

แต่หนทางที่กล่าวมาอื่นๆนั้น คงจะยากกว่ากัน

Offline lจ้าxญิงทoผ้า

  • *
  • 2274
  • 8
  • แกะละเมอ
พี่ไม่แน่ใจว่าการสมัครแพทย์นั้นได้กำหนดคุณสมบัติไว้ตั้งแต่แรกเลยหรือไม่ว่าน้องเป็นนักเรียนสายวิทย์ คณิต
ถ้าเกิดมันไม่กำหนด  แล้วดันมากำหนดในปีที่น้องสอบขึ้นมา  น้องซวยค่ะ
ถ้าน้องจะไปต่อคณะวิทยาศาสตร์ปัญหาใหญ่อย่างแรกเลยคือ  น้องไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับด้านวิทย์มา
การแข่งขันกับคนอื่นๆจะยากมาก  อย่าลืมนะคะว่าการเรียนมหาลัยเป็นการแข่งกับคน  ไม่ใช่เกณท์คะแนน
ในความคิดพี่  พี่ว่าคณะวิทย์มันเรียนยาก  เพราะเคมีก็ทำพี่หัวบวม  ฟิสิกส์พี่ก็โง่  แคลพี่ก็ไม่รู้เรื่อง
เพื่อนพี่เรียนศิลป์ฝรั่งเศสแต่ดันอยากเรียนการบินพลเรือน  แล้วมันก็ติด
ก็มักโทรมาบ่นเรืองเรียนเป็นประจำ  พี่เรียนสายวิทย์มายังเรียนไม่รู้เรื่องเล้ยยยย
ดังนั้น  น้องควรเรียนพิเศษเคมี ฟิสิกส์  ชีวะ  เลขไปด้วย
เพราะการเรียนปี 1 ในมหาลัยนั้นจะต้องใช้ความรู้พื้นฐานในม.ปลายอยู่

จริงๆแล้วพี่ว่าการไปเรียนม.4 ใหม่เลยก็เป็นวิธีการที่ดี
เพราะน้องเสียเวลาไปแค่ 2 ปี  ดีกว่าการที่น้องเรียนปริญญาตรี4 ปีแล้วไปต่อแพทย์
ด้านภาษาที่น้องไปอยากทิ้งก็ไปเรียนพิเศษเอาก็ได้ค่ะ  พี่ว่าหมอพูดฝรั่งเศษได้ก็เจ๋งดี

แต่พี่อยากให้น้องถามตัวเองก่อนว่า" อยากเรียนหมอเพราะอะไร"
"อยากเรียนหมอจริงๆเหรอ"
แน่ใจหรือไม่ว่าน้องเรียนแล้วนี่คือสิ่งที่เหมาะกับตัวน้องจริงๆ

เพราะถ้าน้องไม่แน่ใจแล้วละก็  เวลาที่น้องทุ่มเทมาหลายปีจะเสียเปล่าทันที
เกิดเรียนแล้วไม่มีความสุขขึ้นมา  น้องก็โทษใครก็ไม่ได้  นอกจากตัวเอง
ปัจจุบันนี้  เพื่อนพี่หลายคนก็บอกว่าถ้ากลับไปเลือกใหม่ได้  จะไม่เรียนคณะนี้
คณะนี้เรียนหนักมาก  หนักจริงๆ  การแข่งขันก็สูง  ยิ่งช่วงสอบจะเครียดกันมาก
แม่พี่เห็นตำราตอนอ่านหนังสือสอบแล้วบอกว่า "แน่ใจนะลูกว่าไอ้กองนี้วิชาเดียว"
"ช่ายแม่  วิชาเดียว  เนี่ยยังเหลืออีก4 กอง"   :'(


คิดดูดีๆนะคะ  ว่าน้องอยากเรียนจริงๆหรือเปล่า
ถ้าน้องอยากเรียนจริงๆ  พี่ก็เอาใจช่วยค่ะ

Tom

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ


คิดอยู่ว่ากลับไปเรียนม.ปลายใหม่น่าจะดีที่สุด
แต่ว่าแม่ไม่ยอมเลยอ่ะครับ  บอกว่าถ้าเข้าเรียน ม.4 ปีหน้า
ก็จะจบ ม.6  ตอนอายุ  20  ปี  คงจะไม่ไหว

เรียนสายศิลป์ต่อไปจนจบม.6ได้ไหมครับ
ถ้ายังอยากเรียนแพทย์อยู่  ก็ไปเรียนกศน.  ระหว่างเรียนปริญญาตรี
หลังจากเรียนจบปริญญาตรี  ก็ไปแอบสมัครสอบ กสพท.
ถ้าเกิดติดขึ้นมาได้จริงๆ แม่ก็คงจะยอมให้เรียนอยู่มั้งครับ

พี่ๆ  คิดว่าเป็นยังไงๆครับ  จะเสียเวลาเกินไปหรือเปล่า
 :P


 

Offline -:•:- 騎馬王丸 -:•:-

  • ผู้พิทักษ์แหวนแห่งเมฆา
  • *
  • 1662
  • 7
เสียเวลามากค่ะ ถ้ามันไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องสายการเรียนก็ไม่เกี่ยงอ่ะ


น้องหมอตัวน้อยๆ ณ รพ.พระปกเกล้า

Offline lจ้าxญิงทoผ้า

  • *
  • 2274
  • 8
  • แกะละเมอ
ประเด็นต่อมาคือถ้าจบปริญญาตรีแล้วไปสอบแพทย์จะเสียเวลาหรือเปล่าใช่มั๊ยค่ะ

ไม่เสียเวลาหรอกค่ะ  ถ้าสิ่งที่น้องทำน้องคิดว่าเป็นสิ่งที่น้องทำแล้วมีความสุข  รักที่จะทำมันจริงๆ

ไม่มีคำว่าสายหากน้องตั้งใจที่จะทำ

ที่นี่ก็มีคนที่จบปริญญาตรีแล้วมาเรียนก็มีค่ะ  แต่พี่คิดว่าน้องต้องอ่านหนังสือพอสมควรเลยนะ

เพราะตอนนี้ให้พี่ไปสอบเอนท์ใหม่พี่ก็คงไม่ติดแล้วล่ะน้อง

Tom

หุหุ พี่ครับ

พอดีเจอพ่อเพื่อนเป็นหมอ  แล้วได้เล่าให้ท่านฟัง
ท่านกลับตลกแล้วก็หัวเราะเรา  บอกว่าไม่ได้ปิดกั้นอะไรทั้งนั้น
ขอให้สอบเข้าได้ก็แล้วกัน  เพราะว่าสมัยท่านเรียนก็มีเด็กสายศิลป์เข้ามาเรียนได้อ่ะครับ

เราก็งง  เพราะเข้าใจมาตลอดว่าสายศิลป์เรียนไม่ได้
เพราะขาดคุณสมบัติ  ที่หน่วยกิตวิชาคณิต วิทย์ที่เรียนไม่ถึง
แล้วพอกลับไปถามอาจารย์แนะแนวใหม่  ท่านก็ยืนยัน
ว่าสายศิลป์สอบได้  แต่เรียนไม่ได้  นอกจากจะไปเรียนกศน.ใหม่

ทีนี้ถ้าเรียนกศน.ใหม่  ก็ตะต้องจบม.6  ก่อนอ่ะครับถึงจะเรียนได้
เลยคิดว่าจะเรียนไปพร้อมกับเรียนปริญญาตรีไงครับ
แต่ทีนี้ถ้าเป็นอย่างที่พ่อเพื่อนว่า  ก็จะได้ไม่ต้องไปรอเรียนปริญญาตรี

ตกลงมันยังไงแน่หรอครับ

Offline IPPUsama

  • *
  • 5419
  • 29
  • One sky, one destiny
พี่ว่า พ่อของเพื่อนน้องคงเอาระเบียบตอนตัวเองสอบเป็นหลักอ่ะ
มันก็จริงอยู่ว่าสายศิลป์เข้าไปก็เรียนได้เหมือนกัน มันไม่มีกำหนดนะว่าต้องเรียนวิทย์กี่หน่วยกิต


ประเด็นมันอยู่ที่ ปีที่น้องสอบและปีถัดๆไปเนี่ย  ถ้าเกิดมีกฏระเบียบออกมาว่า เด็กสายวิทย์-คณิตเท่านั้นที่มีสิทธิสมัครสอบแพทย์
ถึงน้องมีความรู้แค่ไหน น้องก็ไม่มีสิทธิ์สอบ ก็คือน้องก็จะเสียเวลาเปล่าๆไปเลยนะ
พี่ว่าถ้าน้องเอาจริงเอาจังมากน่ะนะ เปลี่ยนสายเถอะครับ

\ \ Oath's Charm, Passing Memories / /

<<  ~  OathKeeper & ObliVion  ~  >>

Offline lจ้าxญิงทoผ้า

  • *
  • 2274
  • 8
  • แกะละเมอ
ก็เหมือนข้างบน
คือระเบียบการสมัครนั้นอาจจะเปลี่ยนไปได้ในทุกปี(การสอบเข้ามหาลัยยังเปลี่ยนได้เลย  จริงมั๊ย)
น้องต้องยึดปีของน้องเป็นหลัก  ซึ่งมันก็ยังไม่ออก
พี่ไปถามเพื่อนพี่มา  มันก็บอกว่าหน่วยกิตไม่พอนะ  ส่วนเรื่องเรียนกศน. อันนี้พี่ไม่ทราบค่ะ

...เรื่องของเจ้าของกระทู้นี้น่าสนใจดี

อยากเป็นหมอ แต่หลุดไปเรียนสายศิลป์ภาษามาแล้ว  อืมม์

ตอนนี้ ทางที่เป็นไปได้ (แม้ว่าจะไม่มีใครทำกันเท่าไหร่) ก็คงเป็นการลาออกมาเรียนสายวิทย์ใหม่ครับ
ถ้าเรียนตณะอื่น ไม่ง่ายเท่าไหร่แล้วมั้งที่จะย้อนกลับมา
แก่ๆไป สมองมันรับสิ่งใหม่ๆได้ช้านะครับ เรียนยากขึ้นจม

หรือลองดูโรงเรียนแพทย์นอกประเทศที่ไม่ติดกับเรื่องพวกนี้
เช่น  ที่ฟิลิปปินส์ (ซึ่งหลายๆที่สอนดีมากนะ ได้ความรู้ ทักษะ และแถมภาษาอังกฤษดีมาก)
ว่าเค้ากำหนดหรือไม่ หรือแค่สอบให้ได้   

แต่
แต่
แต่

แน่ใจแล้วหรือ ครับ ที่จะมาเรียนหมอ ?


Tom

จริงๆแล้วอยากกลับไปซิ่วเรียนสายวิทย์ใหม่มากครับ
แต่แม่ไม่ยอมท่าเดียว  ท่านค่อนข้างหัวโบราณ
ไม่ได้ใช้มาแต่คอมแต่เด็ก  เลยไม่คิดว่าชีวิตจะ reset ได้
ตัดสินใจเลือกแล้ว  ต้องเดินหน้าอย่างเดียว
เศร้ามากๆเลยครับ 

ทางเดียวตอนนี้ที่อาจารย์แนะแนวแนะนำ
ก็คือให้เราลาออก  แล้วโอนหน่วยกิตไปเรียนกศน.
ลงเรียนแล็บของกศน.เพิ่ม  จบมาเอาวุฒิกศน.
ไปสอบได้  และมหาวิทยาลัยก็ไม่มีสิทธิตัดสิทธิเราถ้าสอบติด
เพราะโครงสร้างหลักสูตรจะมีหน่วยกิตวิทย์คณิตครบอ่ะครับ
ก็จะไม่เสียเวลาซ้ำชั้น

แต่ก็ไม่กล้าอ่ะครับ  เหอะๆ
อีกอย่างถึงไปซ้ำชั้นเราก็จะจบม.6 อายุ 20
เรียนต่อไปจนจบต่อปริญญาตรี  แล้วเรียนกศน.ไปด้วยได้ไหมครับ 
เราก็จบอายุ 22  ห่างกันแค่ 2 ปี
แต่เราก็ได้ปริญญาตรีอีกใบไม่ใช่หรอครับ

แล้วถ้าตอนนี้จนถึงม.6  จะทิ้งวิทย์ คณิตไปก่อนจะเป็นไรไหมครับ
เพราะถึงจะสายศิลป์ภาษา  แต่ที่นี่ก็เข้มมาก  ไม่อย่างจะจับหลายอย่างอ่ะครับ
เดี๋ยวจะไม่จบเอา  หนังสืออ่านนอกเวลามารายการยาวเหยียด 
แบบที่อ่านไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรอื่นเลย   
ศัพท์แต่ละคำ  ภาษาสมัยสุนทรภู่ทั้งนั้น
บางคำที่ดูออกนะครับว่าเป็นคำไหนในปัจจุบัน
perchance,good morrow,yesternight ฯลฯ
5555+ เรียนศิลป์ก็ฮาอย่างนี้เองครับ
ส่วนวิทย์คณิตค่อยไปรื้อฟิ้นตอนเรียนปริญญาตรีได้ไหมครับ

สำหรับที่ฟิลิปปินส์  ก็คิดไว้เหมือนกันครับ
หากหมดหนทางจริงๆ  ก็คงจะต้องไป
เพราะสอบถามพี่ๆที่เรียนที่นั่นบอกว่า
เขาบังคับแค่ต้องเรียนจบปริญญาตรี 
ไม่ดูสายการเรียนตอนม.ปลาย  เขาอาจไม่ได้มีสายเหมือนเราด้วย
บางโรงเรียนกำหนดเพียงแค่จบจากคณะสายวิทยาศาสตร์
บางโรงเรียนก็กำหนดแค่จบปริญญาตรีเฉยๆครับ
ไม่รู้พี่เขาพูดให้กำลังใจเราหรือเปล่านะครับ
ที่นี่เข้าเรียนง่ายมาก  ถึงขนาดใครไปสอบก็ได้เกือบทุกคน

ส่วนตัวแล้วไม่ได้ซีเรียสเรื่องเวลาเลยครับ
คิดว่าชีวิตนี้เกิดมาครั้งเดียว  อยากทำอะไรก็ควรจะพยายามทำตามฝัน
ยิ่งเป็นเรื่องเรียนเรื่องอาชีพด้วยแล้ว  ยิ่งไม่สนใจเวลาเลย
     
พูดมากนิดนึงนะครับ  หุหุ 
ศักยภาพเด็กศิลป์

 :D

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณพี่ๆ มากครับ
สำหรับคำแนะนำที่มีค่ายิ่ง

Offline Baros™ 『バーロス』

  • Baros™
  • *
  • 10623
  • 122
  • Baros™
พี่อ่านจากที่น้องพิมพ์ ก็ดูน้องก็ไม่ได้ไม่อยากเรียนสายศิลป์นะ

และที่สงสัยมากก็คือทำไมถึงคิดอยากจะมาเรียนหมอ



ถ้าน้องไม่ได้ซีเรียสเรื่องเวลาจริงๆ พี่ว่าลองคิดดูใหม่อีกครั้งก่อนตัดสินใจอะไรดีที่สุด

ทำไมเราถึงอยากเรียนหมอ ?
ถ้าไม่เรียนหมอ เรามีอย่างอื่นที่สายศิลป์เรียนได้แล้วอยากจะเรียนไหม ? ไหนๆก็มีศักยภาพเด็กศิลป์แล้วนี่ ;)


พี่เป็นคนที่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำนะ แต่บางครั้งเราก็ต้องคิดให้ดีและให้รอบด้านก่อนจะตัดสินใจอะไรใหญ่ๆเหมือนกัน



ยังไงก็ตาม ไม่ว่าน้องจะเลือกเส้นทางไหนก็ขอให้โชคดีครับน้อง ;)

ปล. พี่ว่าการที่แม่น้องไม่เคยใช้คอมและไม่ยอมให้ซิ่วนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับคนหัวโบราณเลยนะครับ
A book, tightly shut, is but a block of paper.

ACE

เพิ่งเข้ามาเห็นกระทู้นี้แหละครับ
ตอนนี้ผมอยู่ ม.4 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง (บอกไปคงไม่มีใครรู้จักหรอก เพราะโรงเรียนผมไม่ดังเลย) 55+

หลังจากอ่านจบแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าพี่ KET (ขอเรียกว่าพี่ละกันนะครับ...ไม่รู้ใช่พี่รึเปล่า? 555+) น่าจะเก่งมากเลยอ่ะครับ
เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่ดูบ้าง เผื่อจะเอาไปปรับใช้กับตัวเอง
แบบประมาณว่า วันๆ นึงพี่ทำอะไรบ้างอ่ะครับ

ขอบคุณครับ

Offline Nosferatu

  • *
  • 377
  • 6
...เรื่องของเจ้าของกระทู้นี้น่าสนใจดี

อยากเป็นหมอ แต่หลุดไปเรียนสายศิลป์ภาษามาแล้ว  อืมม์

ตอนนี้ ทางที่เป็นไปได้ (แม้ว่าจะไม่มีใครทำกันเท่าไหร่) ก็คงเป็นการลาออกมาเรียนสายวิทย์ใหม่ครับ
ถ้าเรียนตณะอื่น ไม่ง่ายเท่าไหร่แล้วมั้งที่จะย้อนกลับมา
แก่ๆไป สมองมันรับสิ่งใหม่ๆได้ช้านะครับ เรียนยากขึ้นจม

หรือลองดูโรงเรียนแพทย์นอกประเทศที่ไม่ติดกับเรื่องพวกนี้
เช่น  ที่ฟิลิปปินส์ (ซึ่งหลายๆที่สอนดีมากนะ ได้ความรู้ ทักษะ และแถมภาษาอังกฤษดีมาก)
ว่าเค้ากำหนดหรือไม่ หรือแค่สอบให้ได้  

แต่
แต่
แต่

แน่ใจแล้วหรือ ครับ ที่จะมาเรียนหมอ ?

เข้ามาเห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ  (ใช่อาจารย์ป้ะพี่555)

หนูเคยมางานจุฬาวิชาการแล้วดิ่งมาคณะแพทย์เลยค่ะ
แล้วก็ดิ่งมาที่ตรงนิติเวชอ่ะค่ะ ผ่าศพสดๆ เพิ่งเสียชีวิต 1 ชม.
ซึ่งถ้าเข้าห้องสด จะได้กลิ่นฟอร์มาลีน และผ่าให้เห็นจะๆ
บางคนก็ถึงกับอ้วกเลยแล้วเดินออกไปนอกห้อง
แต่สำหรับหนู คิดว่า... "ผ่าให้มันลึกๆ กว่านี้อีกได้มั้ยพี่!" 55555

ต้องลองถามตัวเองดูก่อนว่าอยากเป็นแพทย์เพราะอะไร อันนี้สำคัญมากๆ
สำหรับหนู! หนูจะทำด้านความงามค่ะ พวกศัลยกรรม สิว ฝ้า ผิวขาวอมชมพู อะไรอย่างนี้
เพราะว่าโดยส่วนตัว อยากสวย ค่ะ
แล้วก็อยากที่จะศึกษาร่างกายให้มากขึ้น
เพื่ออยากให้ตัวเองดูดีขึ้นค่ะ5555 แล้วก็อยากให้คำปรึกษา+รักษาด้วย
เพราะหนูเป็นคนหน้าใส+ไม่ได้ดัดฟันแต่ฟันเหมือนดัดมา เพื่อนก็ชอบถามว่าไปทำอะไรมา
หนูก็บอกๆ แล้วเพื่อนก็มาขอคำปรึกษาเพียบ หนูก็ชอบศึกษาเรื่องพวกนี้ ค้นคว้าข้อมูลมา
และก็อยากรู้วิธีการรักษาด้วย ผนวกกับชอบวีชาชีวะเพราะได้คะแนนเยอะสุด555
ก็เลยตัดสินใจอยากเรียนแพทย์ ส่วนเลือกสายก็คงเลือกอะไรที่เกี่ยวกับเสริมความงาม
ส่วนเรื่องเงิน+ชื่อเสียงหนูไม่ค่อยให้ค่าน้ำหนักมากเพราะถ้าอย่างนี้หนูไปเป็นนักแสดง+นักการเมืองดีกว่ามั้ย?
และหนูก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือด้วย ดึกแค่ไหนไม่เกี่ยง!!!!!!
โต้รุ่งเป็นประจำ55555


ซึ่งถ้าเจ้าของกระทู้ที่อยากเรียนแพทย์รับได้
เข้ามาสมัคร กสพท เลยค่ะ เรื่องสายไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ  ;)

...
น้ัองถามตัวเองดีๆเลยนะคะว่าอยากมาเรียนหมอเพราะอะไร...


เพิ่งเข้ามาเห็นกระทู้นี้แหละครับ
ตอนนี้ผมอยู่ ม.4 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง (บอกไปคงไม่มีใครรู้จักหรอก เพราะโรงเรียนผมไม่ดังเลย) 55+

หลังจากอ่านจบแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าพี่ KET (ขอเรียกว่าพี่ละกันนะครับ...ไม่รู้ใช่พี่รึเปล่า? 555+) น่าจะเก่งมากเลยอ่ะครับ
เลยอยากขอคำแนะนำจากพี่ดูบ้าง เผื่อจะเอาไปปรับใช้กับตัวเอง
แบบประมาณว่า วันๆ นึงพี่ทำอะไรบ้างอ่ะครับ

ขอบคุณครับ


พี่ว่าอยู่โรงเรียนไหนมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกค่ะ ความพยายามและวินัยของเราน่าจะมีผลมากกว่า แต่ละคนก็มีวิธีต่างๆกันไปนะ

ส่วนเรื่องสายนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ แต่คิดว่าถ้าสอบข้อเขียนเข้ามาได้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอ่ะ