Docchula Community
Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: ต่าย on March 02, 2010, 12:21:39 pm
-
ตอนนี้หนูพึ่งอยู่ ม.3 กำลังจะเข้าสายวิทย์ อยากเรียนแพทย์ผิวหนังมากก ก
เลยอยากถามพี่ๆว่า หนูต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ
แล้วหมอผิวหนัง ต้องเรียนยังไงบ้างคะ
แล้วหนูไม่เก่งอังกฤษเป็นอุปสรรค์มากไหมคะ??
-
พี่ตอบคำถามสุดท้ายให้ละกันว่าถ้าไม่เก่งอังกฤษนี่เป็นอุปสรรคระดับนึงเลยหละครับ เช่น
- slides อาจารย์หลายท่านไม่มีภาษาไทยเลย
- หนังสืออาจารย์บางท่านมีแต่รูปภาพต้องไปหาเนื้อหาเพิ่มจาก textbooks
- อาจารย์บางท่านไม่ยอมออกข้อสอบภาษาไทย แต่เป็นอังกฤษล้วน !
- เนื่องจากข้อที่แล้ว เวลาทำข้อสอบบางครั้งน้องก็ต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วย
- เนื่องจากข้อที่แล้วอีกที คือถ้าน้องสะกดผิดน้องก็โดนหักคะแนน
เป็นต้นครับ
-
อยากเป็นหมอผิวหนังยังไงน้องก็ต้องเรียบจบแพทย์ 6 ปีก่อนนะครับ
แล้วถึงจะได้เลือกว่าจะต่อเฉพาะทางทางไหน
ส่วนเรื่องภาษาอังกฤษ เป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับการเรียนในคณะนี้นะ
เพราะชีทเรียนและสื่อการเรียนการสอนใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่อ่ะครับ
-
แพทย์ผิวหนังที่น้องว่านี่หมายถึง จบ resident ผิวหนัง หรือ แพทย์ที่ประจำอยู่ตามสถานเสริมความงามกันล่ะ ;)
-
resident ผิวหนัง หรือ แพทย์ที่ประจำอยู่ตามสถานเสริมความงาม
ต่างกันยังไงหรอคะ หนูไม่ทราบอ่า --'
-
ไม่เหมือนกันครับ
แพทย์ที่ประจำอยู่สถานเสริมความงาม ไม่จำเป็นต้องจบเฉพาะทางผิวหนังครับ
ว่าแต่สิ่งที่น้องอยากเป็นคืออะไรกันแน่ล่ะครับ
-
resident คือ คนที่เรียนแพทย์ทั่วไป จบ 6 ปีแล้ว มาเรียนต่อเฉพาะทางครับ
และก็ งานของแพทย์ผิวหนังจริง ๆ ไม่ได้แค่เสริมความงามนะครับ
มีโรคผิวหนังอยู่มากมาย ที่จำเป็นต้องให้แพทย์เฉพาะทางผิวหนังดู
เช่น
แบบนี้
(http://www.ohiohealth.com/mayo/images/image_popup/r7_ebjunctional.jpg)
แบบนี้
(http://www.americangeriatrics.org/directory/ABIM/GRS/Fig56_4.jpg)
หรือแบบนี้
(http://www.ecureme.com/atlas/data/dis_images/Pemphigus550_ab.jpg)
ก็ ต้องถามต่อว่า น้องอยากเป็นแพทย์ผิวหนัง หรือแพทย์เสริมความงาม ครับ
-
พอเห็นรูป น้องอาจบอกว่า
"หนูไม่เรียนหมอแล้วนะ"
จะทำไง >:( >:(
-
ดีแล้ว จะได้เห็นความเป็นจริง ไม่ใช่ฝันนู่นฝันนี่
-
เปลี่ยนใจตอนนี้ ยังดีกว่าเข้ามาเรียนแล้วค่อยคิดทีหลังว่าไม่อยากเป็นหมอแล้วลาออกไปก่อน ไงครับ
เสียดายเวลา เสียดายโอกาสของตัวน้องเอง เสียดายที่นั่ง ที่จะให้คนที่อยากเรียนจริง ๆ มาเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปล. ความจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวแล โรคผิวหนังบางอย่างดูเหมือนน่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด
-
บรรยากาศมาคุจริง ๆ กระทู้นี้ - -"
-
ไม่มาคุดิ
จะมาเห็นด้วยกับทั้งสองคนนั่นแล ::)
-
จุดประสงค์ คือ อยากให้เข้าใจให้ถูกต้องครับ ว่า แพทย์ผิวหนังไม่ใช่แพทย์เสริมความงาม :)
-
นี่แหละความจริง :)
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
เพื่อนเคยเห็นโฆษณาของวุฒิศักดิ์คลินิค
จบปี6 จ่าย400000 ไม่ต้องใช้ทุน แล้วไปอบรมกับเค้า 3 เดือน แล้วทำงานเลย
ได้เงินเดือน 200000 !!!!
-
รูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
ตอบน้อง จขกท
ต้องจบ พบ.ก่อน 6 ปี ใช้ทุนอีก 3 ปี
(สกินต้องใช้ทุนครบ 3 ปี ไม่ครบไม่รับ)
แล้วต่อเดนท์สกิน (ปีนึงๆ รับเดนท์สกิน 10-20 คน ทั่วประเทศ) อีก 4 ปี
รวมทั้งหมด 13 ปี
กว่าจะได้เป็นหมอสกินค่ะ
(พี่ว่าฟังแค่นี้น้ิองก็เหนื่อยแล้วล่ะ 55) :'(
-
รูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
คิดว่าใช่ :P
-
รูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
อนาคตหมอสกินมาแล้ว 555555
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
เพื่อนเคยเห็นโฆษณาของวุฒิศักดิ์คลินิค
จบปี6 จ่าย400000 ไม่ต้องใช้ทุน แล้วไปอบรมกับเค้า 3 เดือน แล้วทำงานเลย
ได้เงินเดือน 200000 !!!!
จริงแล้วได้ 300000 up นะ แล้วแต่ที่ที่ไปประจำอยู่
แต่ว่าสงสารภาษีของ ปชช ที่ส่งให้พวกเราเรียนยังไงไม่รุถ้าไปทำอะนะ :-*
ปล.ไม่ได้ว่าพี่ที่ไปทำนะฮะ ต่างคนต่างความคิดครับ
-
หุหุ....
น้องเห็นตัวเลข เริ่มสนใจแล้วใช่มั้ยยย!!!
-
เอาเป็นว่ายังไงก็ต้องเรียนหมอก่อนแหละครับ ส่วนที่เหลือค่อยว่ากัน
อย่างที่พี่ๆ พูดกัน เรื่องแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
เค้ารักษาได้หมดครับ (เป็นว่าหมดละกัน แม้จะไม่ก็ตามนะ) นอกเหนือไปจากสิว ฝ้า กระ และบลาๆๆ
และต้องพบกันคนไข้จริงๆ อย่างที่พี่เค้าเอารูปมาให้ดู (นี่ไม่ได้ขู่นะ)
ส่วนถ้าไปอยู่ถามคลินิกเสริมความงามก็จะรักษาได้แค่โรคทั่วไปครับ โรคซับซ้อนจะรักษาไม่ได้ (ก็มันไม่รู้จักนี่)
ไม่ต้องรีบร้อนครับ ช่วงเวลา 3 ปีอาจทำให้น้องคิดอะไรใหม่ๆ ได้ และพอมาเรียนหมออีก 6 ปีน้องก็จะได้พบอะไรใหม่ๆ
บางคนอาจเปลี่ยนความคิดไปเลยหลังเข้ามาเรียนหมอ
-
ดีแล้ว จะได้เห็นความเป็นจริง ไม่ใช่ฝันนู่นฝันนี่
+1000 บารอสมาแต่ละช็อตนี่ถูกใจ
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
เพื่อนเคยเห็นโฆษณาของวุฒิศักดิ์คลินิค
จบปี6 จ่าย400000 ไม่ต้องใช้ทุน แล้วไปอบรมกับเค้า 3 เดือน แล้วทำงานเลย
ได้เงินเดือน 200000 !!!!
ไม่เข้าใจครับรูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
ตอบน้อง จขกท
ต้องจบ พบ.ก่อน 6 ปี ใช้ทุนอีก 3 ปี
(สกินต้องใช้ทุนครบ 3 ปี ไม่ครบไม่รับ)
แล้วต่อเดนท์สกิน (ปีนึงๆ รับเดนท์สกิน 10-20 คน ทั่วประเทศ) อีก 4 ปี
รวมทั้งหมด 13 ปี
กว่าจะได้เป็นหมอสกินค่ะ
(พี่ว่าฟังแค่นี้น้ิองก็เหนื่อยแล้วล่ะ 55) :'(
อยากได้แหล่งที่มาของข้อมูลจังเลย
สมมติ แพทย์ที่จบเฉพาะทางผิวหนังทำงานตั้งแต่อายุ 30-70 ปี (=40ปี)
40*20 = 800 คน ผมว่าสถานที่รักษาโรคผิวหนังในประเทศไทย มีเกือบ 10000 ที่
แสดงว่า ส่วนใหญ่เค้าก็ไม่จบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังกันทั้งนั้นเลยดิครับ
ปล. ทำไมไม่มีอาจารย์มาตอบบ้าง
-
เอาเว็บนี้มาฝาก เผื่อใครยังไม่รู้
http://www.tmc.or.th/service_check.php
เอาไว้เช็ครายชื่อแพทย์เฉพาะทางได้ เผื่อใครอยากจะเช็คหมอสิวตัวเอง ฮ่าๆ
(ถ้าสกิน ก็เลือก ตจวิทยา นะ :) มีอยู่ 452 คนเอง)
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
เพื่อนเคยเห็นโฆษณาของวุฒิศักดิ์คลินิค
จบปี6 จ่าย400000 ไม่ต้องใช้ทุน แล้วไปอบรมกับเค้า 3 เดือน แล้วทำงานเลย
ได้เงินเดือน 200000 !!!!
ไม่เข้าใจครับ
ว่างงานจัด ก็คือน้องสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ แล้วเรียนจบ 6 ปีได้ปรินญา แพทย์ศาสตร์บัญฑิต แล้วไม่ใช้ทุนโดยการจ่ายเงิน 400000 บาท
แล้วหลังจากจบแล้วก็ไปสมัคร เข้าอบรม กับสถานเสริมความงามอีก 3 เดือนเท่านี้ น้องก็ได้ประจำอยู่ศูนย์ความงามได้เงินเดือนละ 200000-300000
ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนต่อเฉพาะทางอีก 3 ปีเพื่อเป็น แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเลย
รูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
ตอบน้อง จขกท
ต้องจบ พบ.ก่อน 6 ปี ใช้ทุนอีก 3 ปี
(สกินต้องใช้ทุนครบ 3 ปี ไม่ครบไม่รับ)
แล้วต่อเดนท์สกิน (ปีนึงๆ รับเดนท์สกิน 10-20 คน ทั่วประเทศ) อีก 4 ปี
รวมทั้งหมด 13 ปี
กว่าจะได้เป็นหมอสกินค่ะ
(พี่ว่าฟังแค่นี้น้ิองก็เหนื่อยแล้วล่ะ 55) :'(
อยากได้แหล่งที่มาของข้อมูลจังเลย
สมมติ แพทย์ที่จบเฉพาะทางผิวหนังทำงานตั้งแต่อายุ 30-70 ปี (=40ปี)
40*20 = 800 คน ผมว่าสถานที่รักษาโรคผิวหนังในประเทศไทย มีเกือบ 10000 ที่
แสดงว่า ส่วนใหญ่เค้าก็ไม่จบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังกันทั้งนั้นเลยดิครับ <-----นี้ประโยคนี้ถูกต้องเลยคับน้อง ;)
ปล. ทำไมไม่มีอาจารย์มาตอบบ้าง
-
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงามไม่ต้องจบผิวหนังก็ได้ - -''
เพื่อนเคยเห็นโฆษณาของวุฒิศักดิ์คลินิค
จบปี6 จ่าย400000 ไม่ต้องใช้ทุน แล้วไปอบรมกับเค้า 3 เดือน แล้วทำงานเลย
ได้เงินเดือน 200000 !!!!
ไม่เข้าใจครับรูปกลางคือ Bullous Pemphigoid รึป่าว - -"
เพิ่งอ่าน MS เลยฟิตนิดนึง 55
ตอบน้อง จขกท
ต้องจบ พบ.ก่อน 6 ปี ใช้ทุนอีก 3 ปี
(สกินต้องใช้ทุนครบ 3 ปี ไม่ครบไม่รับ)
แล้วต่อเดนท์สกิน (ปีนึงๆ รับเดนท์สกิน 10-20 คน ทั่วประเทศ) อีก 4 ปี
รวมทั้งหมด 13 ปี
กว่าจะได้เป็นหมอสกินค่ะ
(พี่ว่าฟังแค่นี้น้ิองก็เหนื่อยแล้วล่ะ 55) :'(
อยากได้แหล่งที่มาของข้อมูลจังเลย
สมมติ แพทย์ที่จบเฉพาะทางผิวหนังทำงานตั้งแต่อายุ 30-70 ปี (=40ปี)
40*20 = 800 คน ผมว่าสถานที่รักษาโรคผิวหนังในประเทศไทย มีเกือบ 10000 ที่
แสดงว่า ส่วนใหญ่เค้าก็ไม่จบแพทย์เฉพาะทางผิวหนังกันทั้งนั้นเลยดิครับ
ปล. ทำไมไม่มีอาจารย์มาตอบบ้าง
http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=21377
ไม่รู้ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของข้อมูลได้รึปล่าวนะ เพราะมันได้มาง่ายเหลือเกิน แค่เข้า google แล้ว searchๆๆ
-
http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=21377
ไม่รู้ว่าจะเป็นแหล่งที่มาของข้อมูลได้รึปล่าวนะ เพราะมันได้มาง่ายเหลือเกิน แค่เข้า google แล้ว searchๆๆ
น่าจะได้มั้ง เว็ปกระทรวงสาธารณสุขเลยอ่ะ คงไม่ปล่อยข่าวผิดๆ(มั้ง)
อันนี้ความเข้าใจส่วนตัวนะครับ เรื่องหมอตามคลินิคไม่จำเป็นต้องจบผิวหนังอ่ะ
คิดว่าคงเป็นไปในแนวทางเดียวกับเภสัชเปิดร้านขายยา แล้วเอาลูกจ้างมาขายอ่ะ
คือคนทำงานไม่ต้องจบมาก็ได้ แค่ทำงานเป็นก็พอ
แต่ถ้ามีปัญหา ชื่อใคร ใช้เป็นจำของ คนนั้นก็โดนไป (คนที่ทำงานให้ อาจโดนด้วย)
ปล. ความเข้าใจส่วนตัวล้วนๆ :P
-
ตามนั้นแหละครับ
อย่างหมอโอ๊คก็ไม่ได้จบเฉพาะทางผิวหนังนะ
-
เอาเว็บนี้มาฝาก เผื่อใครยังไม่รู้
http://www.tmc.or.th/service_check.php
เอาไว้เช็ครายชื่อแพทย์เฉพาะทางได้ เผื่อใครอยากจะเช็คหมอสิวตัวเอง ฮ่าๆ
(ถ้าสกิน ก็เลือก ตจวิทยา นะ :) มีอยู่ 452 คนเอง)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ถ้าคนที่มีแต่ชื่อ ไม่มีเขียนอะไรต่อท้าย แปลว่า คนนั้นจบแค่ 6 ปีเท่านั้น ใช่เปล่าครับ
ปล. หมอที่ผมรักษาอยู่ทำไมไม่มีไรต่อท้ายอะ T_T
-
ตอนนี้หนูพึ่งอยู่ ม.3 กำลังจะเข้าสายวิทย์ อยากเรียนแพทย์ผิวหนังมากก ก
เลยอยากถามพี่ๆว่า หนูต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ
แล้วหมอผิวหนัง ต้องเรียนยังไงบ้างคะ
แล้วหนูไม่เก่งอังกฤษเป็นอุปสรรค์มากไหมคะ??
ก่อนอื่นต้องถามน้องก่อน ว่าทำไมน้องถึงอยากเป็นหมอ แล้วทำไมถึงอยากเป็นหมอผิวหนัง
น้องมีแรงบันดาลใจอะไรให้อยากเรียนในสาขานี้
ถ้าเป็นเพราะคิดว่าเป็นหมอแล้วได้เงินเยอะ มีงานหลายสาขาที่ได้เงินเดือนไม่แพ้หมอนะครับ
น้องทราบไหมว่าหมอทำงานหนักขนาดไหน ทั้งงานทั่วไป การอยู่เวร
จริงอยู่ว่าเป็นหมอผิวหนัง ไม่มีการอยู่เวร แต่ถ้าพูดเรื่องการเรียน น้องต้องเรียนถึงหกปีนะครับ แล้วก็เรียนหนักไม่ใช่เล่น แล้วยังต้องไปต่อยอดด้วย ไม่ว่าจะไปเรียนต่อทางด้านผิวหนังโดยตรง หรือฝึกอบรมต่อเพื่อทำงานในสถานเสริมความงาม
บางคนเรียนสาขาวิชาชีพอื่น เรียนสี่ปี แล้วต่อปริญญาโทอีกสองปี จบมาก็ได้เงินเดือนไม่น้อยไปกว่าหมอจบใหม่เลยนะครับ
ถ้าบอกว่าจะเป็นหมอแล้วจะได้ช่วยคน ก็จริงนะครับ ถึงจะเป็นหมอผิวหนังก็ช่วยเหลือคนได้ ดูตัวอย่างโรคที่มีพี่ๆเขามาโพสต์ให้ดู เพราะโรคผิวหนังบางโรค ผู้ป่วยต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หรือทุกข์ทรมาน ถ้าเราจะมาทำตรงนี้แล้วช่วยเหลือเขาได้ก็จะดีมาก
ถ้าเป็นแพทย์ที่อยู่ตามสถานเสริมความงาม ก็จริงอยู่ว่าเงินดี แต่ว่าเรื่องการช่วยเหลือคนนี่คงเป็นเรื่องรองนะครับ
เรื่องภาษาอังกฤษ พี่ว่าไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชาชีพใดก็ตาม ภาษาอังกฤษน่าจะมีความสำคัญอยู่แล้ว เพราะเป็นภาษาสากล ดังนั้นน้องควรตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเยอะๆ ถ้าไม่เก่งก็ควรหมั่นทบทวน หรือสร้างเสริม เราสามารถเก่งภาษาอังกฤษได้โดยไม่ต้องไปเรียนพิเศษนะครับ เราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง ก็สามารถช่วยให้เราเก่งภาษาอังกฤษได้
ภาษาอังกฤษกับการเรียนหมอ น่าจะเป็นอุปสรรคพอสมควร เพราะศัพท์ทางการแพทย์นั้นมักใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ เรื่องการเรียนการสอนก็เหมือนที่ reply บนๆ เขียนมานะครับ หนังสือเรียนภาษาอังกฤษ ชีทเรียนเป็นภาษาอังกฤษ PowerPoint เป็นภาษาอังกฤษ แล้วบางทีข้อสอบก็เป็นภาษาอังกฤษด้วย
พี่ไม่อยากตัดกำลังใจน้อง พี่รู้ว่าเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน น้องก็มีสิทธิ์ที่จะฝันอยากเรียนแพทย์ผิวหนัง ดีซะอีกที่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช่สักแต่เรียนไปเพราะพ่อแม่บอกให้เรียน แต่เราต้องดูด้วยว่าความฝันกับความเป็นจริง มันไปด้วยกันได้มากน้อยขนาดไหน
น้องยังเด็กนะครับ เพิ่งจะเข้าม.ปลายเอง มีเวลาคิดอีกเยอะ ไม่ควรจำกัดความคิดแต่ว่าเราอยากเรียนหมอ อยากให้เปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างไว้ เพราะเห็นหลายคนที่เข้ามาเรียน แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคาดหวังไว้ เรียนไปสองสามปีก็มานั่งถามตัวเองว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อนๆจบกันหมดแล้ว เรายังนั่งเรียนอยู่เลย หลายคนก็ทนๆเรียนไปจนจบแล้วก็เปลี่ยนไปทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น ลองคิดดูให้ดีนะครับ
-
ตามนั้นแหละครับ
อย่างหมอโอ๊คก็ไม่ได้จบเฉพาะทางผิวหนังนะ
อ่าว หมอโอ๊คไม่ได้จบสกิน มศว เหรอ ???
-
เห็นมีคนโพสรูปละ
ขอลองบ้าง ;)
(http://www.ispub.com/ispub/ijid/volume_3_number_1_25/cutaneous_leishmaniasis_in_iran/iran-fig1.jpg)
What is the diagnosis?
# 1. Cutaneous leishmaniasis
# 2. Leprosy
# 3. Leukemia cutis
# 4. Syphilis
# 5. Yaws
-
เห็นมีคนโพสรูปละ
ขอลองบ้าง ;)
(http://www.ispub.com/ispub/ijid/volume_3_number_1_25/cutaneous_leishmaniasis_in_iran/iran-fig1.jpg)
What is the diagnosis?
# 1. Cutaneous leishmaniasis
# 2. Leprosy
# 3. Leukemia cutis
# 4. Syphilis
# 5. Yaws
ถ้าให้ัมั่วคงตอบลิชมาเนีย อันอื่นไม่รุ้จัก :'(
-
เห็นมีคนโพสรูปละ
ขอลองบ้าง ;)
(http://www.ispub.com/ispub/ijid/volume_3_number_1_25/cutaneous_leishmaniasis_in_iran/iran-fig1.jpg)
What is the diagnosis?
# 1. Cutaneous leishmaniasis
# 2. Leprosy
# 3. Leukemia cutis
# 4. Syphilis
# 5. Yaws
ถ้าให้ัมั่วคงตอบลิชมาเนีย อันอื่นไม่รุ้จัก :'(
ตอบข้อ 1 คร้าบ ฟันธง!!!
(ดูจาก URL อ่ะ ;D ;D)
-
จากอิหร่านเลยนะนี่
-
:o ไอ้พวกนี้ดูจาก URLสินะ
แต่ก็นี่แหละ
หมอSkinเขาก็ดูโรคพวกนี้ด้วยนะ
ไม่ใช่แค่เสริมสวยอย่างเดียว
ปล. วันนี้เจอน้องบุ๋นปิงและผองเพื่อนที่Paragonตอนขึ้นบันไดเลื่อน ทักแล้วทำเป็นไม่มองนะ ชิชิ :(
-
กำ ไม่เห็นจริงๆนะให้ดิ้นตาย ขัยอะพอ ขออภัย ท่านเป็นอย่างสูง
-
ตามนั้นแหละครับ
อย่างหมอโอ๊คก็ไม่ได้จบเฉพาะทางผิวหนังนะ
อ่าว หมอโอ๊คไม่ได้จบสกิน มศว เหรอ ???
เอ๊า ไม่ได้จบจุฬาหรอ :o
-
ตามนั้นแหละครับ
อย่างหมอโอ๊คก็ไม่ได้จบเฉพาะทางผิวหนังนะ
อ่าว หมอโอ๊คไม่ได้จบสกิน มศว เหรอ ???
เอ๊า ไม่ได้จบจุฬาหรอ :o
จบ พ.บ. จุฬาฯ ค้าบ
ส่วนเฉพาะทางใน wiki เขียนไว้ว่า จบ skin จาก มศว :)
-
เคยอ่านเจอมาว่า หลักสูตรที่มศว.คือประมาณว่าอบรมเรื่องผิวหนังน่ะครับ
แต่ไม่ใช่การเรียนต่อแบบเฉพาะทาง
ปล.ไม่มีแหล่งอ้างอิงนะครับ ขอโทษที
-
ตามนั้นแหละครับ
อย่างหมอโอ๊คก็ไม่ได้จบเฉพาะทางผิวหนังนะ
อ่าว หมอโอ๊คไม่ได้จบสกิน มศว เหรอ ???
เอ๊า ไม่ได้จบจุฬาหรอ :o
จบ พ.บ. จุฬาฯ ค้าบ
ส่วนเฉพาะทางใน wiki เขียนไว้ว่า จบ skin จาก มศว :)
Check it out http://www.docchula.com/go.php?http://www.tmc.or.th/service_check.php (http://www.docchula.com/go.php?http://www.tmc.or.th/service_check.php) ;)
ละก็จะพบว่า ไม่ได้เรียนต่อเฉพาะทางครับ :)
-
^
หรือว่ากำลังศึกษาอยู่แต่ยังไม่จบ ??? ??? ???
-
สวัสดีครับ
น้อง จขกท. ยังอยู่รึเปล่าเอ่ย
อย่าเพิ่งร้องไห้ หรือคิดมาห หรือเครียดไปก่อนนะ
สำหรับคำแนะนำของพี่ พี่ว่าเหมาะกับน้องที่กำลังจะขึ้น ม. ปลาย ที่สุดแล้วหละ
คือ
ตั้งใจเรียนในห้องเรียนให้มากๆ
ทำกิจกรรมเยอะๆ ทั้งในโรงเรียน นอกโรงเรียน
เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าชอบอะไรกันแน่
สมัครไปค่ายที่มหาลัยต่างๆจัด ไปงานเปิดบ้านคณะต่างๆ
ใช้เวลากับครอบครัว พูดคุยกับพ่อแม่มากๆ ทำให้เข้าใจกัน ไม่มีปัญหาเรื่องความคาดหวังไม่ตรงกัน
เรื่องภาษาอังกฤษ ขอให้อย่าทิ้ง เพราะเป็นกุญแจดอกที่สำคัญที่สุดสำหรับความก้่าวหน้าในชีวิต
(ถ้าไม่นับเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม ที่เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน)
ขอให้น้องโชคดี
และตอบหน่อย ถ้าน้องยังอยู่ ยู้ฮูวววววววววววววววววววววววววววววววววว
-
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบและคำแนะนำนะคะ ><'
เห็นรูปที่พวกพี่ๆเอามาโพสน่ากลัวมาก
ขอโทดค่ะ พอดีสอบก็เลยไม่ได้เข้ามาอ่า ขออภัยด้วยนะคะ
หมอที่หนูอยากเป็นคือที่อยู่ตามสถานเสริงมความงามค่ะ
ที่หนูอยากเป็นเพราะเป็นคนรักสวยรักงาม
แล้วคุณแม่ก็ชอบพาไปสถานเสริมความงาม ไปรักษาผิว
ก็เลยทำให้หนูสนใจด้านนี้
(เหตุผลแค่นี้น้อยไปรึป่าว??)
แล้วหมอตามสถานเสริมความงามต้องเรียนยังไงหรอคะ
แล้วก็หนูอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆว่าถ้าหนูชอบเรียนวิทย์กับคณิต
มีคณะไหนที่เรียนทางด้านนี้มั้ยคะ หรือว่ามันแยกกันระหว่างคณะกับวิชา?? มันอยู่ที่ว่าเราชอบอะไร
ขอบคุณสำหรับคำตอบและคำแนะนำดีๆมากๆเลยค่ะ ^^'
-
ที่หนูอยากเป็นเพราะเป็นคนรักสวยรักงาม
แล้วคุณแม่ก็ชอบพาไปสถานเสริมความงาม ไปรักษาผิว
ก็เลยทำให้หนูสนใจด้านนี้
(เหตุผลแค่นี้น้อยไปรึป่าว??)
พี่แนะนำว่า
ทำกิจกรรมเยอะๆ ทั้งในโรงเรียน นอกโรงเรียน
เรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าชอบอะไรกันแน่
สมัครไปค่ายที่มหาลัยต่างๆจัด ไปงานเปิดบ้านคณะต่างๆ
แล้วน้องจะเข้าใจ รู้จักตัวเองมากขึ้น มีเหตุผลรองรับการเลือกของตัวเองมากขึ้นครับ
แล้วหมอตามสถานเสริมความงามต้องเรียนยังไงหรอคะ
ต้องเรียนจบเป็นหมอก่อนครับ แล้วไว้วันนั้นค่อยมาคุยกนว่าเราอยากเป็นหมอไหม เป็นหมอรักษาสาขาอะไร จะเรียนต่อไหม
แล้วก็หนูอยากขอคำแนะนำจากพี่ๆว่าถ้าหนูชอบเรียนวิทย์กับคณิต
มีคณะไหนที่เรียนทางด้านนี้มั้ยคะ หรือว่ามันแยกกันระหว่างคณะกับวิชา?? มันอยู่ที่ว่าเราชอบอะไร
วิทย์คณิต เป็นวิชาพื้นฐานมากๆ
และเป็นแผนการเรียนที่....เลือกได้มาก
เพราะจบสายศิลป์มา สมัครเข้าคณะทางวิทย์ไม่ได้
แต่จบสายวิทย์ไป ก็ไปเรียนคณะทางศิลป์ได้ด้วย
การเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องเรียนต่อตามแผนการเรียนที่เราเรียนมา
เรียนตามความสนใจ ความสุขของเราดีกว่า
มีรุ่นน้องที่พี่รู้จัก จบแผนการเรียนวิทย์คณิต โครงการอัจฉริยภาพทางวิทย์
สิ่งที่เขาได้จากการเรียนในโครงการคือ
ได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ชอบวิทย์มากขนาดที่เคยคิดไว้
ตอนนี้เขาเรียนอักษร และมีความสุขมาก
ถ้าให้ตอบคำถาม พี่จะตอบว่า เรียนอะไรก็ได้ ตามแต่น้องชอบ
ซึ่งจะรู้ว่าชอบอะไร ก็ตามไปอ่านในคำตอบข้อ 1 นะครับ
ถ้าจะให้ตอบตรงๆ
จบแผนวิทย์ ถ้าให้เรียนตรงสาย ก็จะได้พวกคณะวิทยาศาสตร์
แล้วไปเลือกภาควิชาเอา เช่น คณิตศาสตร์ เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ ธรณีวิทยา อาหาร ฯลฯ
หรือจะเป็นคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ เภสัช ทันตะ สัตวะ เทคนิคการแพทย์ พยาบาล ฯลฯ
หรือคณะวิศวะ ประมง เกษตร วนศาสตร์ สาธารณสุข
หรือจะไปเรียนครุศาสตร์ก็ได้
หรือจะเอาคณะที่ไกลๆจากวิทย์หนอย ก็เช่น เสดสาด บัญชี บริหาร ฯลฯ ครับ
-
ฝันเหมือนกัน ..
ต้องเป็นแพทย์ผิวหนังให้ได้ !
จะได้รักษาคนป่วย เดี๊ยวนี้โรงอะไรๆ ก้เยอะแยะไปหมด
แล้วอีกอย่างที่ฝันก็คือ อยากรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์อ่ะ
อยากคิดค้นยามารักษา ^^
สู้ๆ ค่ะ . :D