พี่คิดว่านะ 1 ปีไม่เสียเปล่าหรอก ถ้าน้องตั้งใจอยากเป็นหมอจริงๆ
ดีกว่าคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไรแล้วไปเสียเวลา 1 ปีฟรีๆในช่วงมหาวิทยาลัยซะอีกนะ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง!!
แต่น้องต้องมั่นใจและตั้งใจจริงๆ นะครับ ที่สำคัญ...อย่ากลับมาคิดว่า "รู้งี้ไม่น่าเปลี่ยนสายเรียนเลย เสียเวลาจริงๆ" (พี่ไม่ได้ขู่น้องนะครับ สายวิทย์มันไม่ได้เรียนยากเว่อร์อะไรขนาดนั้น เพียงแต่ไม่อยากให้น้องต้องมารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ)
แล้วตรงที่มีคนบอกว่า "เรียนอะไรก็ได้ให้มันจบก็พอ" พี่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง (ยกเว้นเสียว่าน้องกำลังจะได้สืบทอดมรดกหรือกิจการที่ไม่จำเป็นต้องเรียนอะไรให้จบเป็นพิเศษ) น้องเห็นสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันมั้ยครับ? คนจะตกงานกันอีกเยอะ ดังนั้นจะเลือกเรียนอะไรก็ขอให้ดูปัจจัยอื่นด้วยก็ดี ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จะเรียนตามใจ
เพียงอย่างเดียว พี่ว่าการที่เลือกเรียนสิ่งที่เราชอบทำตามที่เราฝันมันเป็นอะไรที่น่ายกย่องนะ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา (แต่สำหรับคนที่ทำมันได้เช่นนั้นข้าน้อยก็ขอยกย่องอีกเช่นกัน) เหตุผลหนึ่งที่พี่เลือกเรียนแพทย์ก็คือ เมื่อจบแล้วงานจะวิ่งมาหาเรา(ก็คือไม่ตกงานนั่นเอง เว้นเสียแต่ว่าเราจะห่วยแตกหาความรับปิดชอบอะไรไม่ได้) เหตุผลอื่นๆ มันก็มีอีกแต่มันก็เป็นเหตุผลส่วนตัว
จะว่าไปแล้วนะครับน้อง... ถ้าน้อง(หรือน้องคนไหนก็ตาม)คิดว่ายังไม่แน่ใจหรือยังไม่รู้จะเข้าคณะอะไรดี และคิดว่าเรียนสายวิทย์ไหวละก็ เรียนไปก็ดีนะครับ เพราะสายวิทย์จะไปสอบเข้าคณะไหนก็ได้โอกาสเข้าได้มันสูงกว่า แต่สายศิลป์นั้นจะมาสอบเรียนเข้าคณะทางสายวิทย์ก็ลำบากนะครับแทบเป็นไปไม่ได้เลย (อันนี้ไม่ได้ดูถูกสายศิล์ปแต่อย่างใด แต่มันคือความจริง)
ที่พูดมานี่ก็ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ น้องลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ
ดังนั้นถ้าน้องตัดสินใจได้แล้ว... พี่ก็ขอให้น้องโชคดีนะครับ ตั้งใจเรียนและขยันๆ เข้าไว้ พี่เชื่อว่าคนที่มีความตั้งใจจริงและแน่วแน่ย่อมทำสำเร็จได้แน่นอน สู้ๆ นะครับ