Docchula Community
Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: MATHEMETICA on August 19, 2009, 02:10:30 am
-
พวกพี่ๆครับผมจะจัดการกับเลขยังไงดี คือ อารมณ์ว่าทำข้อสอบไอ่เล่ม 15 พ.ศ. ช่วง 2 พ.ศ.แรกก็ยังพอได้แต่หลังๆนี่ผมทำไม่ได้จริงแบบต้องไปแอบดูเฉลยมั่งอะไรมั่ง ดูแล้วก็อ๋อออ !!! อย่างงี้นี่เอง
พี่ๆอ่านคณิตกันยังไงอ่ะครับ อ่านยังไงให้โปรระดับหมอ แล้วตอนทำโจทย์พี่ทำได้หมดเลยไหม แบบว่าเห็นปึ๊บรู้เลยว่าทำไง
ทักษะนี้ต้องอาศัยทำโจทย์เยอะใช่ไหม ???
[size=19ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ผมทำได้ๆ ขอเป็นแพคเกจยังไงก็ได้ขอร้องหล่ะครับ ไม่ไหวแล้ว pt][/size][/b]
-
หมอไม่ได้เก่งเลข
ขึ้นปี1ก็ไม่มีเรียนเลข
-
ทำข้อสอบไอ่เล่ม 15 พ.ศ. ช่วง 2 พ.ศ.แรกก็ยังพอได้แต่หลังๆนี่ผมทำไม่ได้จริงแบบต้องไปแอบดูเฉลยมั่งอะไรมั่ง ดูแล้วก็อ๋อออ !!! อย่างงี้นี่เอง
^
^
^
พี่ก็เป็นแบบนี้แหละน้อง :P
พอรู้ตัวว่าจะเน่าเลข พี่ก็ไปฟิตวิชาอื่นแทนแล้ว
-
อาศัยทำโจทย์เยอะ ... ใช่ครับ
ช่วยได้เยอะเลย
แต่คำว่าโจทย์เยอะที่ว่านี่
หมายถึงความหลากหลายของโจทย์นะครับ
ทำโจทย์แบบเดิมซ้ำๆ มันไม่ช่วยอ่ะครับ
-
หมอไม่จำเป็นต้องเก่งเลขนะคะน้อง แต่จำเป็นต้องใช้ตอนสอบเข้า
ปัจจุบันนี้บอกลบคูณหาร พี่ยังต้องพึ่งเครื่องคิดเลขแล้ว
คณะแพทย์ที่นี่ไม่มีการเรียนเลขในปี 1 ค่ะ แต่ที่อื่นอาจมีแคล ต่างกันไปในแต่ละที่
พีเอส คือพี่โง่เลขมากมาย เข้าคณะนี้ได้ก็เอาแต่ผ่านเกณท์นะน้องนะ ไม่สามารถให้คำแนะนำน้องได้
-
วิชาเลข
นอนหลับให้เยอะ
พักผ่อนเต็มที่แล้วก็ทำโจทย์ยากให้เยอะๆ
แล้วก็ปลง
เพราะนอกเหนือจากนั้นเป็นพรสวรรค์ล้วนๆ
มีมาตั้งแต่เกิด
แต่วิชานี้เรียนเอาไว้สอบเข้าอย่างเดียว
pure mathที่เรียนใน ม.ปลาย ใช้ทำมาหากินอะไรไม่ค่อยได้
ถ้าจะเรียนวิศวะ ที่ใช้เยอะก็เป็นพวก applied math เช่น พวกfourier และ laplace transformation
อย่างไรก็ตาม สมัยนี้มีคอมฯให้ใช้แล้ว จะทำอะไรก็เขียนโปรแกรมเข้าไปก็จบ ไม่ต้องมานั่งคำนวณให้เสียเวลา
PS. ผมชอบเลขนะ จนป่านนี้ถ้ามีเวลาว่างก็จะมานั่งทำโจทย์เลขญี่ปุ่นอยู่เลย มันตื่นเต้นและงดงามดี
-
พอดูเฉลยแล้ว ก็ลองทำเองแบบไม่ดูเฉลยอีกทีนึง เพราะว่าถ้าดูเฉยๆเดี๋ยวก็ลืม
หรือว่าถ้าบางเรื่องไม่เชี่ยวจริงๆ เช่น พี่โง่เรื่องตรรกศาสตร์กับเมทริกซ์มากถึงมากที่สุด พี่ก็ทิ้งเลยอ่ะ
เพราะว่าอย่างมากมันก็มีแค่เรื่องละ 1-2 ข้อ
แต่ถ้าน้องรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็ทำใจแล้วไปฟิตวิชาอื่นแล้วกัน
อ้อ gat pat (ซักอันนึงอ่ะ) เลขมันออกแนววิเคราะห์ไม่ใช่เหรอ น้องลองไปดูแนวๆนั้นบ้างก็ดีนะ
ปล.โชคดีนะคะ
-
พอดูเฉลยแล้ว ก็ลองทำเองแบบไม่ดูเฉลยอีกทีนึง เพราะว่าถ้าดูเฉยๆเดี๋ยวก็ลืม
หรือว่าถ้าบางเรื่องไม่เชี่ยวจริงๆ เช่น พี่โง่เรื่องตรรกศาสตร์กับเมทริกซ์มากถึงมากที่สุด พี่ก็ทิ้งเลยอ่ะ
เพราะว่าอย่างมากมันก็มีแค่เรื่องละ 1-2 ข้อ
แต่ถ้าน้องรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็ทำใจแล้วไปฟิตวิชาอื่นแล้วกัน
อ้อ gat pat (ซักอันนึงอ่ะ) เลขมันออกแนววิเคราะห์ไม่ใช่เหรอ น้องลองไปดูแนวๆนั้นบ้างก็ดีนะ
ปล.โชคดีนะคะ
เมทริกซ์จะเชื่อมโยงกับเวกเตอร์ในวิชาlinear algebra
ทั้งสองนี้ใช้ในกลศาสตร์ควอนตัมซึ่งต้องจัดการคิดมิติอนันต์ ไม่ใช่แค่ 3มิติที่เห็นๆกัน
นอกจากนั้นเมทริกซ์ยังใช้ในการหมุนกราฟ ซึ่งใช้มากในการทำแขนหุ่นยนต์ให้เคลื่อนในลักษณะต่างๆ
ซึ่งการหมุนนี้จะประยุกต์ใช้กับการนิยามสมมาตรของผลึกโมเลกุลในของแข็ง
นอกจากนี้ดัชนีหักเหของแสงของสารชนิดเดียวกันก็ต่างกัน แล้วแต่ว่าแสงเข้ามาทางทิศไหน ทั้งนี้เพราะโมเลกุลมันไม่ได้สมมาตรทุกทิศทาง
จึงต้องเขียนในดัชนีหักเหของแสงรูปเมทริกซ์3มิติ
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างว่าเมทริกซ์มีประโยชน์
จึงควรทำความคุ้นเคยกับเมทริกซ์
-
ทำข้อสอบไอ่เล่ม 15 พ.ศ. ช่วง 2 พ.ศ.แรกก็ยังพอได้แต่หลังๆนี่ผมทำไม่ได้จริงแบบต้องไปแอบดูเฉลยมั่งอะไรมั่ง ดูแล้วก็อ๋อออ !!! อย่างงี้นี่เอง
^
^
^
พี่ก็เป็นแบบนี้แหละน้อง :P
พอรู้ตัวว่าจะเน่าเลข พี่ก็ไปฟิตวิชาอื่นแทนแล้ว
เหมือนกัน...
คือตอนทำ โจทย์ปีหลังๆก็พลิกเฉลยประจำแหละ เพราะเห็นแล้วรู้ตัวเลยว่าคิดต่อก็ตื้อตัน บางทีดูเฉลยแล้วยังงงเลยด้วยซ้ำ
ก็ปล่อยมันไป :-\
คือของเรา ถ้ามันคิดออกก็คือออก และคิดได้เร็ว ก็คือถูก(เกือบจะ)ชัวร์ และมีเวลาเหลือเฟือให้ทบทวน
แต่ข้อไหนที่เราพลิกแพลงไปไม่ถึงขั้น มันก็จะตันอยู่อย่างนั้น ไม่ต้องแม้แต่จะดิ้นรนเริ่มทำ เพราะในหัวจะว่างเปล่า ไม่รู้เลยว่าควรจะใช้อะไรยังไงกับมันดี...ก็คือมีโอกาสถูก 25%~
(เพราะงั้นเวลาสอบเอเน็ต เราเลยมีเวลาว่างเยอะมาก เพราะข้อที่ทำได้ก็ทำเร็วซะ ข้อที่ทำไม่ได้ก็...เอิ่มมม นะ)
ก็พยายามทำโจทย์ให้หลากหลาย ฝึกทำให้เร็วๆและแน่ๆ เพื่อจะได้ประหยัดเวลา
แต่ถ้ารู้ตัวว่าไม่น่ารอด ไม่น่าจะกระเตื้องได้ มันคงไม่มีวันฉุดคะแนนเราขึ้น ถ้าเอาเวลาไปฟิตวิชาอื่นจะมีประโยชน์ต่อชีวิตเรามากกว่า
...ก็ทำโจทย์แค่ให้พอจำได้ว่าเลขแต่ละเรื่องที่เรียนไปมันมีอะไรอยู่และคิดยังไง ก็พอ :P
ป.ล.
พอดูเฉลยแล้ว ก็ลองทำเองแบบไม่ดูเฉลยอีกทีนึง เพราะว่าถ้าดูเฉยๆเดี๋ยวก็ลืม
หรือว่าถ้าบางเรื่องไม่เชี่ยวจริงๆ เช่น พี่โง่เรื่องตรรกศาสตร์กับเมทริกซ์มากถึงมากที่สุด พี่ก็ทิ้งเลยอ่ะ
เพราะว่าอย่างมากมันก็มีแค่เรื่องละ 1-2 ข้อ
แต่ถ้าน้องรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็ทำใจแล้วไปฟิตวิชาอื่นแล้วกัน
อ้อ gat pat (ซักอันนึงอ่ะ) เลขมันออกแนววิเคราะห์ไม่ใช่เหรอ น้องลองไปดูแนวๆนั้นบ้างก็ดีนะ
ปล.โชคดีนะคะ
เมทริกซ์จะเชื่อมโยงกับเวกเตอร์ในวิชาlinear algebra
ทั้งสองนี้ใช้ในกลศาสตร์ควอนตัมซึ่งต้องจัดการคิดมิติอนันต์ ไม่ใช่แค่ 3มิติที่เห็นๆกัน
นอกจากนั้นเมทริกซ์ยังใช้ในการหมุนกราฟ ซึ่งใช้มากในการทำแขนหุ่นยนต์ให้เคลื่อนในลักษณะต่างๆ
ซึ่งการหมุนนี้จะประยุกต์ใช้กับการนิยามสมมาตรของผลึกโมเลกุลในของแข็ง
นอกจากนี้ดัชนีหักเหของแสงของสารชนิดเดียวกันก็ต่างกัน แล้วแต่ว่าแสงเข้ามาทางทิศไหน ทั้งนี้เพราะโมเลกุลมันไม่ได้สมมาตรทุกทิศทาง
จึงต้องเขียนในดัชนีหักเหของแสงรูปเมทริกซ์3มิติ
ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างว่าเมทริกซ์มีประโยชน์
จึงควรทำความคุ้นเคยกับเมทริกซ์
แต่ถ้าคิดแล้วว่าจะเรียนหมอ ชาตินี้ไม่จำเป็นต้องคิดมิติอนันต์ โมเลกุลจะเป็นอะไรก็เรื่องของโมเลกุลมัน เราไม่เกี่ยว
ก็ไม่จำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกับเมตริกซ์...