Docchula Community

Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: ผ่านมา on October 01, 2011, 11:00:46 pm

Title: เคสนี้ฉุกเฉินครับ ยังไม่พ้นขีดอันตรายขอคำชี้แนะครับ
Post by: ผ่านมา on October 01, 2011, 11:00:46 pm
ผมเพิ่งรู้ตัวว่าอยากเรียนหมอจริงๆเป็นเด็กซิ่วนะครับ
ผมเองเป็นคนที่แทบไม่มีพื้นฐานอะไรเลยตอน ม.ปลาย เป็นเด็กดื้ออะครับ ความรู้ที่ได้เป็นความรู้ปีหนึ่งทั้งนั้น
ตอนนี้เหลือเวลา3เดือนผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเลยซักวิชา แต่ลองทำข้อสอบเก่าแล้วผลออกมา ดังนี้ครับ
ไทย ประมาณ 50- 55 สังคม 40-50 eng 30-50
phy chem bio ประมาณ 30-40 ครับ
ส่วนเลขผมโชคดีที่เมื่อก่อนไม่ตั้งใจเรียนเเต่เพื่อนมักเอาโจทย์มาถามเราโดยการสอนเนื้อหาให้แล้วให้ผมทำโจทย์ให้ ผมเลยทำได้60อัพโดยที่คะแนนที่หายไปเป็นบทที่ผมไม่รู้เนื้อหาเลย พอลองอ่านก็ได้ประมาณ80อัพทุก พ.ศ.แล้วเล่ม อ.กานดาลองทำดูส่วนใหญ่ก็ทำได้18ข้อขึ้นพอดีเห็นคนบ่นว่ายากโดยผมเพิ่งจะอ่านแค่อาทิตย์เดียว

ผมจะอ่านทันมั้ยครับ3เดือน ผมไม่เคยเรียนพิเศษเลย ตอนนี้กลัว4วิชา คือวิทย์กับอังกฤษ เลยอยารู้ว่าพี่ๆอ่านกันมากมั้ย
เพราะถ้านับเล่มจริงๆ
เลข6เล่ม+ข้อสอบ phy6เล่ม+ข้อสอบ เคมี5เล่ม+ข้อสอบ ชีวะ6เล่มกระทรวง+พี่เตนท์ engผมสับสนว่าทำข้อสอบเยอะแล้วมันได้อะไรผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เนื้อหาอะครับ เลยคิดว่าจะอ่านเนื้อหามากกว่าทำข้อสอบเก่า อ่านแค่นี้จริงๆแล้วผมคิดว่าน่าจะทัน แต่ไม่รู้เลยครับคะแนนจะเป็นยังไง

ผมอ่านน้อยไปมั้ยครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ตอบนะครับหรือเข้ามาอ่าน
Title: Re: เคสนี้ฉุกเฉินครับ ยังไม่พ้นขีดอันตรายขอคำชี้แนะครับ
Post by: pholpipat on October 05, 2011, 02:16:32 pm
ผมขอตอบในฐานะผู้เคยผ่านสอบมาก่อน

   สิ่งที่อยากให้คำนึงถึง คือ

     1.) ถามใจตนเองว่า แน่ใจแล้วหรือว่าอยากเรียนแพทย์จริง เพราะการเรียนแพทย์มันไม่ใช่แค่เรียนบรรยายแล้วจบ แต่ยังต้องนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ต่อกับคนไข้ ซึ่งถือว่ายาก และใช้เวลาเรียนนานมาก ซึ่งแม้จะจบไปแล้ว ก็ยังต้องต่อยอดเสริมความรู้และทักษะอีกมากมาย (ถูกง่ายๆ คือ เรียนรู้ทั้งชีวิต)
    สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ความรับผิดชอบต่อชีวิตคนไข้ทั้งทางกาย จิต สังคม และวิญญาณ เพราะชีวิตไม่สามารถสร้างทดแทนได้ เสียแล้วก็เสียไปเลย และยิ่งไปกว่านั้นเวลาส่วนตัวแทบไม่มี เวลาพักผ่อนก็น้อย บางคนเรียนจบทำงานได้ซักพักก็เลิก หันหลับไปทำอาชีพอื่นๆ มีมากถมไป ดังนั้นขอให้ตัดสินใจให้รอบคอบว่า อยากเป็นแพทย์จริงหรือไม่ เพราะการที่กระผมออกมาพูดแบบนี้ ไม่ได้ต้องการจะขู่ แต่ผมพูดความจริงของการเป็นแพทย์ที่ต้องทำงานบนชีวิตของผู้อื่นซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

     2.) จากข้อ 1 ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่า ทั้งชีวิตนี้จะขออุทิศกาย ใจ และวิญญาณให้กับการแพทย์  ผมและเพื่อนๆ ก็ขอต้อนรับคุณเข้าสู่แพทย์จุฬารุ่นที่ 68
  สำหรับคำแนะนำในการอ่านหนังสือในเวลาเพียง 3 เดือนนี้ ก่อนอื่นก็คงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วิธีการอ่านและการเตรียมตัวสอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีความถนัดต่างกัน ดังนั้นวิธีที่จะกล่าวต่อไปนี้จะใช้ได้ผลมากน้อยเพียงใด ขึ้นกับแต่ละบุคคล
        2.1) อ่านทบทวนในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจก่อน เพราะเรื่องที่เข้าใจแล้ว เอาไว้อ่านทีหลังก็ยังเข้าใจได้ง่ายก่อนเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ
        2.2) วิชาที่ต้องอาศับความเข้าใจ และการประยุกต์ (คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี) ต้องอาศัยการทำโจทย์อยู่บ่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นข้อสอบเก่าเข้ามหาวิทยาลัยเสมอไป และขอหาโจทย์เพิ่มเติมจากที่อื่นๆ ด้วย เพื่อให้เห็นความหลากหลายของข้อสอบ เพราะในปัจจุบันระบบการสอบ เปลี่ยนไปมากจากสมัยก่อน
        2.3) วิชาที่ต้องอาศัยการอ่าน (ผมไ่ม่อยากใช้คำว่า ท่อง เพราะแม้จะท่องแทบตาย ก็ไม่อาจทำข้อสอบได้ ถ้าไม่ได้อ่านทำความเข้าใจล่วงหน้า) ในกลุ่มวิชาชีววิทยา ผมอยากให้คุณหาอ่านหนังสือที่มีสรุปใจความสำคัญ หรือแยกทำเป็นตารางเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ถ้ามีเวลาเหลืออยู่ อยากให้อ่าน Textbook ที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น หรือใช้วิธีค้นหาทาง Internet ก็ได้ ที่สำคัญต้องอ่านล่วงหน้า เพื่อที่จะได้จับใจความสำคัญได้ และอยากให้ใช้วิธีเขียนสิ่งที่ตนได้อ่านมา สมมติวันนี้อ่านเรื่อง Cell ก็เขียนโดยไม่อ่านหนังสือด้วยคำพูดของตนเองว่า อ่านแล้วได้อะไรบ้าง 
     ใช้วิธีเชื่อมโยงเป็นแผนภาพก็ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ
        2.4) วิชาภาษาอังกฤษ ผมอยากให้ใช้วิธีอ่านหนังสือพิมพ์ บทความที่เป็นภาษาอังกฤษ อยู่บ่อยๆ เพื่อให้คุ้นเคยเมื่อต้องไปอ่านบทความที่ความยาว 1-2 หน้ากระดาษที่อยู่ในข้อสอบ ในระหว่างที่อ่านถ้าพบคำศัพท์ไหนที่ไม่เข้าใจ แนะนำให้ไปเปิด Longman Dictionary หรือ Dictionary อื่นๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ (แนะนำ English Dictionary เพราะจะมีตัวอย่างประกอบการใช้คำศัพท์ให้เมาะสม)  ส่วนเรื่องการทดสอบ แนะนำให้ไปทดสอบกับ CU-TEP. TOEFL หรือ IELST ก็ได้ เพราะเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษแบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับกัน ส่วนเรื่องการสมัคร และขั้นตอนสามารถค้นหาได้ทาง Internet ทั้งนี้เพื่อจะได้ประเมินตนเองได้ว่า อยู่ในระดับไหน