Docchula Community
Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: lamika on January 18, 2012, 12:38:46 am
-
ทำไมพี่ถึงเลือกเรียนแพทย์
ทั้งๆที่เรียนหนัก จบมาตีสองตีสามจะถูกเรียกเมื่อไหร่ก้อได้
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เหนื่อยมากๆ เครียด
ตอนนี้เป็นเด็กมัธยม
ถ้าในตอนนี้ไม่ได้เป็นคนอดนอนได้ ไม่ได้ขยันสู้งานหนัก
จะเรียนแพทย์และเป็นแพทย์ไหวมั๊ยคะ
กลัวจังเลยย เป็นคนรักการนอน และชอบดูคอนเสิร์ต :-*;D
-
สงสัยว่าพี่ นิสิตนักศึกษาแพทย์
อดนอน อ่านหนังสือหนัก
อดนอน เข้าเวร
ทำได้ยังไงค่ะ
ไม่เบลอ มึนหัวหรอ ?
-
1. ทำไมพี่ถึงเลือกเรียนแพทย์ ทั้งๆที่เรียนหนัก จบมาตีสองตีสามจะถูกเรียกเมื่อไหร่ก้อได้
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เหนื่อยมากๆ เครียด
มันเป็นความรับผิดชอบไปแล้วล่ะน้อง ที่หมอทุกคนยอมรับได้ว่า
"คนป่วยไม่เลือกวันและเวลา" ถ้าเค้าป่วยฉุกเฉินมา ต้องผ่าตัด ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉิน ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องเวลามันก็มีอยู่ล่ะ เสาร์อาทิตย์ หรือวันที่ไม่เวร
เพียงแต่อาจจะไม่เท่ากับบางอาชีพ (แต่เอาเข้าจริง หลายอาชีพวันธรรมดาก็ทำ OT เลิกเย็นหรือหัวค่ำ วันเสาร์อาทิตย์บางทีก็มี OT และ O free นะน้อง)
2. ตอนนี้เป็นเด็กมัธยม ในตอนนี้ไม่ได้เป็นคนอดนอนได้ ไม่ได้ขยันสู้งานหนัก
จะเรียนแพทย์และเป็นแพทย์ไหวมั๊ยคะ กลัวจังเลยย เป็นคนรักการนอน และชอบดูคอนเสิร์ต
ถ้าน้องมีใจรัก ถึงเวลาร่างกายจะปรับตัวได้เองครับ
3 สงสัยว่าพี่ นิสิตนักศึกษาแพทย์ อดนอน อ่านหนังสือหนัก อดนอน เข้าเวร ทำได้ยังไงค่ะ ไม่เบลอ มึนหัวหรอ ?
ลองมาดูกันดีกว่าว่าวันๆ นึงพวกเราทำอะไรกันบ้าง
ถ้าปี 4-5 จะอยู่เริ่มราวเช้าประมาณ 7.00 แล้วต่อด้วยฟังบรรยาย สลับกับกิจกรรมอื่นๆ จบที่ราวเย็นเสร็จประมาณ 17.30-18.30 แล้วแต่วัน
ถ้าอยู่เวรก็อยู่ต่อจนถึงเที่ยงคืน แต่เราก็ไม่ได้อยู่เวรกันทุกวัน โดยเฉลี่ยจะอยู่สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 เวร
ในวันที่อยู่เวรอาจจะเพลีย กลับมาก็อาบน้ำ นอน วันรุ่งขึ้นถ้าง่วงก็รีบกลับมานอน ถ้าไม่ง่วงก็ลุยงานต่อได้
เอาจริงๆ การนอนที่ประมาณให้ได้เกือบๆ 5 ชั่วโมง ก็ง่วงๆ ระหว่างวันบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเบลอน่ะ
หรืออย่างขึ้นมหาลัยมา ช่วงใกล้สอบบางครั้งนอนน้อยกว่า 5 ก็มีนะ
หรือ ทุกวันนี้พี่เห็นน้องๆ บางคนก็เล่นเกม ดูหนัง กันจนดึกดื่นๆอยู่แล้ว น่าจะปรับตัวกันได้ไม่ยาก
ส่วนเสาร์อาทิตย์เราราวเช้า เสร็จประมาณ 10.00 -11.00
ถ้าไม่อยู่เวร ก็กลับมานอนกลางวัน, ทำงานที่ค้าง,ไปเที่ยว ดูหนัง ได้ตามสะดวก
(ส่วนปี 6 เราจะอยู่เวรกันถึงเช้าวันรุ่งขึ้น)
พี่ว่าเป็นเรื่องของการบริหารเวลา เหมือนกับว่า เรามีเวลาอยู่แค่นี้
ปกติเราอาจจะไปเล่น facebook, ดูหนัง, ดูทีวี
ก็ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าขึ้น คงไม่ได้ทำทุกอย่างได้หมดเหมือนสมัยมัธยม
-
คุณไปป์ ตอบดีจัง ดูละเอียดและมีมิตรจิตรมิตรใจดี
-
Agree with you
-
:'(
-
ตอนสมัครเรียนไม่รู้ชีวิตจริงนี่ครับ สมัยนั้น social media ยังไม่แพร่หลายขนาดนี้
> <
-
1. ทำไมพี่ถึงเลือกเรียนแพทย์ ทั้งๆที่เรียนหนัก จบมาตีสองตีสามจะถูกเรียกเมื่อไหร่ก้อได้
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว เหนื่อยมากๆ เครียด
มันเป็นความรับผิดชอบไปแล้วล่ะน้อง ที่หมอทุกคนยอมรับได้ว่า
"คนป่วยไม่เลือกวันและเวลา" ถ้าเค้าป่วยฉุกเฉินมา ต้องผ่าตัด ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉิน ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องทำให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องเวลามันก็มีอยู่ล่ะ เสาร์อาทิตย์ หรือวันที่ไม่เวร
เพียงแต่อาจจะไม่เท่ากับบางอาชีพ (แต่เอาเข้าจริง หลายอาชีพวันธรรมดาก็ทำ OT เลิกเย็นหรือหัวค่ำ วันเสาร์อาทิตย์บางทีก็มี OT และ O free นะน้อง)
2. ตอนนี้เป็นเด็กมัธยม ในตอนนี้ไม่ได้เป็นคนอดนอนได้ ไม่ได้ขยันสู้งานหนัก
จะเรียนแพทย์และเป็นแพทย์ไหวมั๊ยคะ กลัวจังเลยย เป็นคนรักการนอน และชอบดูคอนเสิร์ต
ถ้าน้องมีใจรัก ถึงเวลาร่างกายจะปรับตัวได้เองครับ
3 สงสัยว่าพี่ นิสิตนักศึกษาแพทย์ อดนอน อ่านหนังสือหนัก อดนอน เข้าเวร ทำได้ยังไงค่ะ ไม่เบลอ มึนหัวหรอ ?
ลองมาดูกันดีกว่าว่าวันๆ นึงพวกเราทำอะไรกันบ้าง
ถ้าปี 4-5 จะอยู่เริ่มราวเช้าประมาณ 7.00 แล้วต่อด้วยฟังบรรยาย สลับกับกิจกรรมอื่นๆ จบที่ราวเย็นเสร็จประมาณ 17.30-18.30 แล้วแต่วัน
ถ้าอยู่เวรก็อยู่ต่อจนถึงเที่ยงคืน แต่เราก็ไม่ได้อยู่เวรกันทุกวัน โดยเฉลี่ยจะอยู่สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 เวร
ในวันที่อยู่เวรอาจจะเพลีย กลับมาก็อาบน้ำ นอน วันรุ่งขึ้นถ้าง่วงก็รีบกลับมานอน ถ้าไม่ง่วงก็ลุยงานต่อได้
เอาจริงๆ การนอนที่ประมาณให้ได้เกือบๆ 5 ชั่วโมง ก็ง่วงๆ ระหว่างวันบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเบลอน่ะ
หรืออย่างขึ้นมหาลัยมา ช่วงใกล้สอบบางครั้งนอนน้อยกว่า 5 ก็มีนะ
หรือ ทุกวันนี้พี่เห็นน้องๆ บางคนก็เล่นเกม ดูหนัง กันจนดึกดื่นๆอยู่แล้ว น่าจะปรับตัวกันได้ไม่ยาก
ส่วนเสาร์อาทิตย์เราราวเช้า เสร็จประมาณ 10.00 -11.00
ถ้าไม่อยู่เวร ก็กลับมานอนกลางวัน, ทำงานที่ค้าง,ไปเที่ยว ดูหนัง ได้ตามสะดวก
(ส่วนปี 6 เราจะอยู่เวรกันถึงเช้าวันรุ่งขึ้น)
พี่ว่าเป็นเรื่องของการบริหารเวลา เหมือนกับว่า เรามีเวลาอยู่แค่นี้
ปกติเราอาจจะไปเล่น facebook, ดูหนัง, ดูทีวี
ก็ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าขึ้น คงไม่ได้ทำทุกอย่างได้หมดเหมือนสมัยมัธยม
.
เริ่มเห็นอนาคตของตัวเองอยู่ลางๆแล้วครับ :'(
-
ตอนสมัครเรียนไม่รู้ชีวิตจริงนี่ครับ สมัยนั้น social media ยังไม่แพร่หลายขนาดนี้
> <
Like!!
-
พอ extern เวรจะถี่กว่า 1-2 วันต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะรพ.ข้างนอก อาจเป็นวันเว้นวัน หรือ อยู่ถึงเช้าแล้ววันต่อมาให้อยู่เวร ER ต่อถึงเที่ยงคืน !!!
-
ถ้าจะให้ตอบตามความเป็นจริง พ่อพี่เป็นหมอ พี่ชายพี่สาวพี่เป็นหมอ พี่รู้นะว่ามันเหนื่อยมันหนัก
แต่..."ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย"...สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ......
แต่ถ้ารักอาชีพนี้ อนาคตฝากชีวิตไว้กับสิ่งนี้ น้องจะอยู่กับมันได้อย่างไม่ลำบากใจ แต่ลำบากกายของชัวร์!
พี่ว่าหลายๆคนเคยถามตัวเองว่าคุ้มไม๊ที่ต้องลำบากขนาดนี้ เพื่อนก็เรียนจบทำงานกันแล้ว มันนัดกินข้าวก็ไปไม่ได้ แต่พี่ว่าแพทย์เป็นอาชีพที่ประเสริฐที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะเลือกเป็นได้หากเป็นด้วยใจรักนะ
ลำบากก็ต้องทนครับ
-
ตอนนั้น พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้ต้องเป็นแบบนี้อ่ะน้อง 555