Docchula Community
Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: ผู้ปกครองค่ะ on March 15, 2012, 06:44:47 pm
-
เป็นผู้ปกครองของน้องในโครงการ CPIRD - mdcu 68 ของปีนี้ค่ะ ใคร่รบกวนรุ่นพี่ๆ หรือ ท่านผู้รู้ ที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ รพ.ศูนย์ทั้ง 3 แห่ง ที่เด็ก CPIRD ต้องไปเรียนในชั้นคลีนิคหน่อยค่ะ ว่า แต่ละศูนย์เป็นอย่างไรบ้างค่ะ สภาพความเป็นอยู่ หอพัก สิ่งแวดล้อม การเรียนการสอนของแต่ละศูนย์ และ case study ที่ได้ศึกษาค่ะ สิ่งที่ควรทราบ ควรปฎิบัติ หรือ ควรต้องระวัง เชือ่ว่าตอนนี้คงมีทั้งผปค และ เด็กๆ สนใจหาข้อมูลกันอยู่ค่ะ
ไม่ได้หมายถึงให้เปรียบเทียบนะคะ เพราะแต่ละที่คงเปรียบเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะปัจจัยแตกต่างกัน ผลย่อมแตกต่างกัน แต่อยากให้รุ่นพี่ๆCPIRD แต่ละศูนย์ เล่าให้ฟังเป็นภาพรวมน่ะคะ (เท่า่ที่หาอ่านในกระทู้เก่าๆ เห็นของศูนย์ชลบุรี ที่เดียว ส่วนที่ ภูมิพล และ จันทบุรี ยังไม่เคยเห็นข้อมูลค่ะ) แต่หากมีกระทู้เก่าอยู่แล้ว รบกวนแปะลิ้งค์ให้ด้วยค่ะ (ถ้ามี คงเพราะไม่เห็น ต้องขออภัยนะคะ )
อยากได้ทุกแง่มุม ที่พี่ๆเจอ เท่าที่นึกหรือพอเล่าได้ แม้ว่าจะเป็นความเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะมีทั้งดี และ ไ่ม่ดี ไม่เป็นไรค่ะ ถือเป็นการเล่าสู่กันฟัง เป็นวิทยาทานนะคะ เพราะความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ
-
ในที่นี้ขอเรียนท่านผู้ปกครองของน้องใหม่ CPIRD และ ODOD ว่า โดยภาพรวมแล้วขึ้นชื่อว่า โรงพยาบาลศูนย์ก็ย่อมที่จะมีเคสมาที่โรงพยาบาลอยู่มากมาย ตั้งแต่เรื่องธรรมดา อาทิ ไข้หวัด ปวดหัว ตัวร้อน ไปจนถึง เรื่องฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นทั้ง 3 ศูนย์ จึงเป็นที่ที่น้องสามารถฝึกหัดในเรื่องหัตถการ การตรวจคนไข้ได้มากกว่าเมื่ออยู่ที่จุฬาฯ เพราะจำนวนนิสิตแพทย์ตามแต่ละศูนย์ของโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง มีอยู่จำนวนน้อย (ไม่เกินแห่งละ 30 คนต่อรุ่น)เมื่อเทียบกับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่มีมากกว่า 200 คนต่อรุ่น ทำให้ได้ทำเคสได้มากกว่า และงานค่อนข้างหนัก แต่ทั้งนี้อยากให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องๆ ได้สบายใจว่า แม้งานจะหนักในตอนขึ้นปีที่ 4 ถึง 6 แต่ก็รับรองได้เลยว่าเมื่อจบออกไปแล้วน้องๆ จะทำหัตถการได้อย่างคล่องแคล่ว และชำนาญ ไม่ต้องมีปัญหาระหว่างการทำงานอีกในโรงพยาบาล (ในที่นี้กระผมไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละแห่ง เพียงแค่ต้องการพูดความจริงเท่านั้นครับ)
-
ถ้าเปรียบความรู้เป็นไข่ดาวหนึ่งใบ สิ่งที่ "ต้องรู้" ก่อนจบแพทยศาสตร์บัณฑิต คือไข่แดง นั้นแพทย์สภากำหนดไว้ในเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งความรู้ระดับนั้นทั้งคณะ หรือ รพ.สมทบ ก็สอนให้น้องครบถ้วนอยู่แล้วครับ และมีการสอบประเมินผล (ศรว.) ก่อนจบ ทำให้รับประกันได้ว่า ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนก็มีคุณภาพมากกว่าเท่ากับที่แพทยสภาต้องการแน่นอน
ข้อได้เปรียบของการเรียนใน รพ.แพทย์ ที่เป็นมหาวิทยาลัย คือ
1. ความรู้ลึกๆ ระดับวิจัย หรือ ศูนย์ความเป็นเลิศต่างๆ เช่น ศูนย์โรคลมชักครบวงจร, ศูนย์เปลี่ยนถ่ายตับ จะมีแค่ที่นี่ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่น้องจะได้สัมผัสกับความรู้เชิงลึก ฟังบรรยายและเรียนรู้ซักถามจากผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์หลายท่านเป็นแนวหน้าของประเทศในเรื่องนั้นๆ
2. โรคที่ยากและซับซ้อน (rare disease) ซึ่งมักไม่ค่อยได้เห็นที่รพ.ข้างนอก อัตราการเจอ 1 ต่อหมื่น หรือ 1 ต่อแสน น้องจะได้เจอที่นี่ เพราะ รพ.รอบนอกจะส่งต่อ (refer) ผู้ป่วยมาเพื่อรักษาต่อ
ส่วนการเรียนที่ รพ.สมทบ นั้นมีข้อได้เปรียบ คือ
ทุกรพ.สมทบของจุฬาฯ นั้นเป็น รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่ (เป็น รพ.ที่รับการส่งต่อ(refer) ผู้ป่วยจากจังหวัดรอบข้าง >5 จังหวัด) และ
มีผู้ป่วยจำนวนมาก และ โรคที่หลากหลาย และ common และ
นิสิตที่ปฏิบัติงานมีเพียง 15 คนต่อวอร์ด (ที่คณะ 50 คนต่อวอร์ด)
ทำให้
ได้รับผู้ป่วยไว้มาก เฉลี่ย 5-15 เคส/นิสิต
รวมถึง
ได้ทำหัตถการมากกว่า เช่น ทำคลอด ที่ รพ.ชลบุรี ปี 4 ได้ทำคลอดประมาณ 5-8 เคส (ในคณะอยู่ที่ 1-2 เคส)
ส่วนเรื่องเนื้อหานั้น จริงๆ เนื้อหาทางคลินิก มีมากซะเหลือเกินกว่าจะเรียนรู้หมดจากการฟังบรรยาย หลายครั้ง(และเป็นส่วนมาก)ต้องอาศัยการศึกษาด้วยตนเอง จาก ตำราทั้งไทยและอังกฤษ, อินเตอร์เน็ต และสื่อออนไลน์ที่ทางหอสมุดคณะสมัครสมาชิกไว้
โดยสรุป
1. เนื้อหาที่ "ต้องรู้" พี่ว่าไม่ต่างกัน
2. คณะได้เปรียบเรื่อง วิชาการ แน่นๆ ลึกๆ เพราะ ผู้ทรงคุณวุฒิเก่งๆ จำนวนมากอยู่ที่นี่
3. รพ.สมทบ ได้เปรียบเรื่องหัตถการ, การดูแลผู้ป่วย เพราะ คนน้อยกว่า
4. ความต่างอื่นๆ คงเป็น เรื่องการใช้ทุน
5. ไม่เกี่ยวว่าเรียนที่ไหนจะเก่งกว่าที่ไหน เพราะ เรียนที่เดียวกันก็ยังเก่งไม่เท่ากัน (ความเก่ง เป็นผลที่เกิดจากพหุปัจจัย)
ไม่มีที่ไหนดีพร้อม แต่ทุกที่สอนให้น้องจบไปเป็นหมอที่ดีได้เหมือนกัน
-
ที่พัก
- อยู่ตรงข้าม ร.พ. (นอกรั้ว) แต่แค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้ว ตอนลงเวร (ปี 4,5 ลงเวรเที่ยงคืน) มียามช่วยดูตอนข้ามให้
- ห้องนึงนอน 2 คน มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ใช้ร่วมกัน 2 ห้อง (4 คนต่อห้องน้ำ 2 ห้อง)
- ห้องนอนไม่มีแอร์ เปิดพัดลมก็พออยู่ได้
- สวัสดิการอื่นๆ ฟิตเนสใต้หอเปิดทุกวัน อินเตอร์เน็ต ห้องอ่านหนังสือ
- ยามหน้าหอตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลดีมาก คนนอกเข้าไม่ได้แน่ๆ
การเรียนการสอน
- ที่นี่เป็น รพ.ศูนย์ (ระดับตติยภูมิ) มีการเรียนการสอนครบทุกภาควิชาเหมือนที่คณะ แต่จำนวนอาจารย์จะน้อยกว่า
- ผู้ป่วยมีมาก แต่นิสิตมีน้อย ได้เรียนรู้เยอะแน่ๆ
- Case study เจอตั้งแต่พื้นๆ ไปจนถึงค่อนข้างซับซ้อน แต่ที่ยากเกินไปก็จะส่งต่อเข้า ร.ร.แพทย์
- อาจารย์ทุกท่านตั้งใจสอนอย่างเต็มที่
อื่นๆ ถามเพิ่มเติมได้ จะแวะมาตอบอีกทีครับ
ไปป์ ปี 5
จุฬาฯ-ชลบุรี
-
ขอบคุณคุณpholpipat และ คุณไปป์ #5 นะคะที่ช่วยให้คำตอบค่ะ
เรียน pholpipat --- เรื่องงานหนัก ป้าและลูกไม่ได้ห่วงเลย เพราะพอมีข้อมูลและรับทราบถึงสภาพที่จะได้เจอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละค่ะที่อยากได้ข้อมูลให้มากๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับครอบครัวเราและท่านอื่นๆที่อยากทราบด้วย อย่างน้อยจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ พบกับสิ่งที่เราจะได้เจอ โดยเฉพาะข้อมูลด้านลบ ว่าเรารับได้แ่ค่ไหน ซึ่งการรู้ปัญหาก่อนจะทำให้เราหาทางแก้ ทำให้มีภูมิต้านทานมากขึ้นค่ะ (แต่ละอาชีพ ก็มีความหนัก ความเครียด เหมือนกัน จะแตกต่างกันไปในเรื่องรูปแบบที่เจอเท่านั้น)
เรียน คุณไปป์ # 5 ป้าอ่านเจอข้อมูลที่คุณให้น้องๆไว้ก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ถือว่าเป็นประโยชน์และข้อมูลที่อยากได้ก็ประมาณนี้ค่ะ หากจะมีรุ่นพี่ของที่ รพศ-ภูมิพลฯ กับ รพศ-พระปกเกล้าฯ มาให้ข้อมูลแบบนี้บ้าง จะเป็นพระคุณมากเช่นกันค่ะ
ที่พัก
- อยู่ตรงข้าม ร.พ. (นอกรั้ว) แต่แค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้ว ตอนลงเวร (ปี 4,5 ลงเวรเที่ยงคืน) มียามช่วยดูตอนข้ามให้
- ห้องนึงนอน 2 คน มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ใช้ร่วมกัน 2 ห้อง (4 คนต่อห้องน้ำ 2 ห้อง)
- ห้องนอนไม่มีแอร์ เปิดพัดลมก็พออยู่ได้
- สวัสดิการอื่นๆ ฟิตเนสใต้หอเปิดทุกวัน อินเตอร์เน็ต ห้องอ่านหนังสือ
- ยามหน้าหอตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลดีมาก คนนอกเข้าไม่ได้แน่ๆ
การเรียนการสอน
- ที่นี่เป็น รพ.ศูนย์ (ระดับตติยภูมิ) มีการเรียนการสอนครบทุกภาควิชาเหมือนที่คณะ แต่จำนวนอาจารย์จะน้อยกว่า
- ผู้ป่วยมีมาก แต่นิสิตมีน้อย ได้เรียนรู้เยอะแน่ๆ
- Case study เจอตั้งแต่พื้นๆ ไปจนถึงค่อนข้างซับซ้อน แต่ที่ยากเกินไปก็จะส่งต่อเข้า ร.ร.แพทย์
- อาจารย์ทุกท่านตั้งใจสอนอย่างเต็มที่
อื่นๆ ถามเพิ่มเติมได้ จะแวะมาตอบอีกทีครับ
ไปป์ ปี 5
จุฬาฯ-ชลบุรี
เห็นผปค.บางท่่านที่อยู่ชลบุรี และมีลูกสาวเหมือนกัน คุยกันวันไปมอบตัวและตรวจร่างกาย แจ้งว่า ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยตอนเข้าเวรดึกนี่แหละค่ะ เนื่องจากหอพักอยู่นอกรั้วรพ. และต้องข้ามสะพานลอย กลัวเจอมิจฉาชีพทำร้ายร่างกายเหมือนกัน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผปค.กังวลค่ะ
-
อยากทราบว่า
1.เรื่องอาหารการกินเป็นยังไงบ้างครับ (โรงอาหาร + 7-11) มีตู้เย็นให้มั้ย
2.แล้วถ้าติดแอร์แบบแอร์ตั้งพื้นในห้อง จะได้มั้ยครับ
3.วันเสาร์อาทิตย์ได้หยุดหรือว่าเลิกเวรประมาณกี่โมง
4.ห้องอ่านหนังสือนี่มี text/หนังสือ เหมือนห้องสมุดรึป่าวครับ
-
เห็นผปค.บางท่่านที่อยู่ชลบุรี และมีลูกสาวเหมือนกัน คุยกันวันไปมอบตัวและตรวจร่างกาย แจ้งว่า ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยตอนเข้าเวรดึกนี่แหละค่ะ เนื่องจากหอพักอยู่นอกรั้วรพ. และต้องข้ามสะพานลอย กลัวเจอมิจฉาชีพทำร้ายร่างกายเหมือนกัน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผปค.กังวลค่ะ
* ปี 4-5 ส่วนใหญ่อยู่เวรกันขั้นต่ำ 2-4 คน/เวร ครับ
ระยะทางจากรั้ว รพ. ถึงสะพานลอยไม่เกิน 10-15 เมตร ส่วนใหญ่ก็รีบๆ เดินกัน
บางที ยามฝั่ง รพ. จะช่วยดูตามหลังให้จนขึ้นบนสะพานไปแล้ว
พอลงสะพานลอยเสร็จ ถึงหน้าหอแล้วครับ
ส่วนปี 6 อยู่เวรถึงเช้า ไม่มีปัญหาเรื่องกลับหอตอนดึกครับ
อยากทราบว่า
1.เรื่องอาหารการกินเป็นยังไงบ้างครับ (โรงอาหาร + 7-11) มีตู้เย็นให้มั้ย
* ตอนนี้โรงอาหารเปิดแต่เช้าคิดว่าก่อน 7 โมง จนถึง 2 ทุ่มโดยประมาณ
ในโรงพยาบาลทีร้านค้าของตัวเอง เล็กกว่า 7-11
แต่มี 7-11 อยู่นอก รพ. ไปหน่อย (ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป)
เลย รพ. ไปมีห้าง lotus, central, big c ครับ
หอมีตู้เย็นให้ชั้นละ 1 เครื่อง ใช้ร่วมกันทั้งชั้นครับ
2.แล้วถ้าติดแอร์แบบแอร์ตั้งพื้นในห้อง จะได้มั้ยครับ
* เคยมีรุ่นพี่ก่อนๆ ทำ แต่ถ้ายังไงต้องมาคุยรายละเอียดไปเป็นกรณีๆ ครับ
3.วันเสาร์อาทิตย์ได้หยุดหรือว่าเลิกเวรประมาณกี่โมง
* ส่วนใหญ่ปี 4 ราวเสาร์อาทิตย์เสร็จ 10.00-12.00
เวรวันธรรมดา 16.00-24.00 เสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดต่างๆ 8.00-24.00 ครับ
4.ห้องอ่านหนังสือนี่มี text/หนังสือ เหมือนห้องสมุดรึป่าวครับ
* เป็นห้องอ่านหนังสือเฉยๆครับ เปิดตลอดเวลา มีแอร์
ส่วนห้องสมุดมีของหอ แต่หนังสือยังไม่ค่อยใหม่
มีของ รพ. หนังสือใหม่ กว่าครับ
-
แอบเห็นคุณไปป์ตอบกระทู้และให้ข้อมูลต่างๆ (ตลอดมา)คิดว่าเวลาเป็นหมอเต็มตัวคงใส่ใจให้ข้อมูลที่ผู้ป่วยถาม/ควรรู้ อย่างเต็มใจเป็นอย่างดีเลยค่ะ...ขอให้รักษาสิ่งนี้ไว้ตลอดไปนะคะ
-
ขอตอบสำหรับส่วนของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช นะครับ
หน่วยงานที่รับผิดชอบการเรียนการสอนชั้นคลินิก คือ กองแพทยศาสตรศึกษา
ซึ่งจะดูแลเรื่องการอบรมต่อแพทย์เฉพาะทางและเฉพาะทางต่อยอดด้วยครับ
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลสังกัดกรมแพทย์ทหารอากาศ
กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม ขนาด 700++ เตียง (อันนี้ไม่แน่ใจครับ)
ที่ตั้งอยู่ในเขตสายไหม จัดเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณกรุงเทพฯ ตอนบน
ที่นี่เปิดสอนนิสิตชั้นคลินิกมาได้ 21 รุ่น (จบไปแล้ว 19 รุ่นครับ) และเปิดอบรมเฉพาะทางด้าน
อายุรศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาโรคไต โรคหัวใจ และทางเดินอาหาร) ,
ศัลยศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุ) ,
กุมารเวชศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาทารกแรกเกิด) ,
สูตินรีเวชศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารก มะเร็งนรีเวช) ,
โสต ศอ นาสิก , ออร์โธปิดิกส์ , เวชศาสตร์ฉุกเฉิน , ประสาทศัลยศาสตร์ , เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชบำบัดวิกฤติ
เดิมนิสิตที่มาเรียนที่นี่จะเป็นโครงการ New Tract จบป.ตรีสาขาอื่นแล้วมาต่อแพทยศาสตรบัณฑิตอีก 5 ปี
ภายหลังยกเลิกเปลี่ยนเป็นนิสิต CPIRD ทั้งหมด ปีละเกือบ 30 คนครับ
โรงพยาบาลภูมิพลฯ มีอาคารใหญ่ 1 อาคาร คือ อาคารคุ้มเกล้าฯ มี 13 ชั้น แต่ละชั้นมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ เป็นทั้งหอผู้ป่วย ห้องตรวจผู้ป่วยนอก
ห้องปฏิบัติการ ห้องถ่ายภาพรังสี ห้องสมุด ห้องฉุกเฉิน ห้องอุบัติเหตุ ห้องคลอด ห้องผ่าตัด สำนักงานแต่ละกอง ฯลฯ อยู่ในนี้ครบ
และมีอาคารหอพักแพทย์ 7 ชั้น อยู่ใกล้ๆ อาคารคุ้มเกล้าฯ ชั้นล่างเป็นที่ตั้งของกองแพทยศาสตรศึกษา และห้องเรียน ชั้น 2-7 เป็นห้องพักของ
อาจารย์แพทย์ แพทย์ประจำบ้าน และนิสิตแพทย์ ห้องพักอยู่ห้องละ 2 คน มีห้องน้ำในตัว เครื่องทำน้ำอุ่น ไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เน็ต ทั้งหมดนี้
ไม่เสียค่าห้อง หรือค่าอุปโภคใดๆ ครับ มีเตาไมโครเวฟและตู้เย็นรวมให้ในห้องนั่งเล่นแต่ละชั้นครับ (สามารถนำตู้เย็นมาเองได้เหมือนกัน แต่ต้อง
กำหนดขนาดไม่เกิน 5.5 คิว) และแต่ละชั้นจะมีห้องส่งเสื้อผ้าสำหรับซักรีดครับ
โรงอาหารอยู่ด้านข้างอาคารหอพักแพทย์ 1 แห่ง , อยู่ชั้น 4 ของอาคารโภชนาการตรงข้ามอาคารหอพักแพทย์ 1 แห่ง ,
อยู่ในสโมสรนายทหารชั้นสัญญาบัตรใกล้ๆ กันอีก 1 แห่ง และมีตลาดนัด สวนสุขภาพด้านหลังโรงพยาบาลครับ
ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก ก็มีชุมชน มีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า วัด โบสถ์ มัสยิดครับ
การเดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ มีรถตู้และรถเมล์ผ่านหลายสาย ใช้เวลาเดินทางถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 30 นาที - 1.30 ชม. ครับ
(แล้วแต่ช่วงเวลาและการยานพาหนะในการเดินทาง)
การเรียนการสอน ส่วนมากจะเรียนที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช มีอาจารย์จากกองเวชศาสตร์ป้องกัน และ สถาบันเวชศาสตร์การบิน มาเสริมบ้าง
และในแต่ละวอร์ด จะมีวนไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลจันทรุเบกษา กำแพงแสน 5 วันครับ (เป็นไปตามข้อกำหนดของ CPIRD ที่ต้องส่งไปปฏิบัติงาน
ในต่างจังหวัดด้วย) รูปแบบการเรียนการสอนก็มีทั้ง Lecture หรือ Round Teaching เหมือนกับศูนย์อื่นๆ ครับ
อาจารย์ ที่สอนคืออาจารย์ที่เป็นแพทย์ของโรงพยาบาลครับ เกือบทุกท่านเป็นทหารอากาศ และแปลกที่ไม่นำหน้าว่า นพ. หรือ พญ. แต่จะนำหน้า เช่น
น.อ. หรือ น.อ.หญิง (นาวาอากาศเอก / นาวาอากาศเอกหญิง) ครับ อาจารย์จะรับผิดชอบหน้าที่ทั้งราชการทหาร การตรวจรักษาคนไข้
การสอนแพทย์ประจำบ้านและนิสิตแพทย์
ผู้ป่วย มีจำนวนเพียงพอต่อการเรียนรู้และฝึกฝนที่จะทำหัตถการครับ ความยากของเคสก็มีระดับหนึ่ง เพราะเป็นสถาบันที่เปิดอบรมแพทย์ประจำบ้านด้วย
ถึงจะไม่ยากเท่าในโรงเรียนแพทย์ แต่ก็คิดว่ายากเพียงพอสำหรับนิสิตแพทย์ครับ
ผู้ร่วมงาน ที่นี่มีนักเรียนพยาบาลทหารอากาศจากวิทยาลัยพยาบาลกองทัพอากาศ , นักศึกษาพยาบาลจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ,
นักเรียนจ่าอากาศเหล่าทหารแพทย์จากโรงเรียนจ่าอากาศ , นักศึกษากายภาพบำบัด-โภชนาการ จากจุฬาฯ และมหิดล มาเรียนด้วยกันครับ
ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติม จะมาตอบให้อีกครับ
-
รพ. พระปกเกล้า จันทบุรี
ที่พัก
- อยู่ภายในเขต รพ มียามที่ใต้หออยู่ห่างออกมาเป็นโซนหอพัก มีแลกบัตร ก่อนเข้าโซนหอพัก หอพักห่างจากโซนรพ. ประมาณ 300 ม. พอเดินได้ครับ แต่ส่วนมากใช้จักรยาน หรือ มอเตอร์ไซค์
- ห้องนึงนอน 2 คน มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ใช้ร่วมกัน 2 ห้อง (4 คนต่อห้องน้ำ 2 ห้อง)
- ห้องนอนมีแอร์ เย็นฉ่ำ หอพัก ห้าชั้นไม่มีลิฟท์ มีห้อง คอมมอนรูม สองห้อง ห้องสมุด โต๊ะปิงปอง มีสนามบาส สนามเทนนิส
- สวัสดิการอื่นๆ ฟิตเนสไม่มี อินเตอร์เน็ตสายช้ามาก ส่วนมากติดเน็ตเอง ซักผ้าเดือนละ 300
- ยามหน้าหอตลอด 24 ชั่วโมง วันละสามกะ กะละ 8 ชั่วโมง ดูแลดีมาก สูบลมจักรยาน ให้ ช่วยยกของให้ รดน้ำต้นไม้ให้ นำสวดมนต์ตอนทำบุญหอ และเป็นมอเตอร์ไซค์ วิน นอกเวลาราชการด้วยคับ
การเรียนการสอน
- ที่นี่เป็น รพ.ศูนย์ (ระดับตติยภูมิ)<น่าจะเหมือนกันมั้ง มีการเรียนการสอนครบทุกภาควิชาเหมือนที่คณะ แต่จำนวนอาจารย์จะน้อยกว่า
- ผู้ป่วยมีมาก แต่นิสิตมีน้อย ได้เรียนรู้เยอะแน่ๆ
- Case study เจอตั้งแต่พื้นๆ ไปจนถึงค่อนข้างซับซ้อน แต่ที่ยากเกินไปก็จะส่งต่อเข้า ร.ร.แพทย์
- อาจารย์ทุกท่านตั้งใจสอนอย่างเต็มที่
กิจกรรม
- มี สโมสรนิสิต ไว้ทำกิจกรรม เช่น งานปีใหม่ กีฬาสี(บังคับเป็นหลีดทุกคน) งานรับน้อง มีกิจกรรมสัมพันธ์ชุมชน ออกตรวจโรคที่ สวนสาธารณใกล้โรงพยาบาล
สถานที่พักผ่อน
- ห้างสรรพสินค้า มีโรบินสัน โลตัส บิ๊กซี แมคโคร มีโรงหนัง มีร้านอาหารอร่อยๆๆมากมาย มี สวนสาธารณะหน้า รพ ไปวิ่ง เต้นแอโรบิกได้ คับ
อื่นๆ ถามเพิ่มเติมได้ จะแวะมาตอบอีกทีครับ
-
ลืมบอก มีเซเว่น 1 ที่ โรงอาหารหนึ่งที่ และ กำลังจะมีเซเว่นเพิ่มอีก เร็วๆนี้
-
ดีใจและอบอุ่นใจมากค่ะที่เห็นพี่ๆเข้ามาแชร์ข้อมูลดีๆ แบบนี้ให้ ขอบคุณคุณantoinetty* และคุณ vfish ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรพศ-ภูมิพล และ รพศ-พระปกเกล้าได้ละเอียดเลยค่ะ อ่านแล้วก็ดูมีความปลอดภัยสูงทุกที่ หากท่านอื่นมีอะไรเพิ่มเติมที่คิดว่าควรต้องทราบ รบกวนด้วยนะคะ
ท่านใดมีคำถามที่อยากทราบ สามารถแชร์ที่นี่ได้เลยนะคะ จะได้มีข้อมูลเยอะๆ สำหรับท่านอื่นๆในปีต่อๆไปด้วย (ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นคำถามที่มีคนอยากถามและอยากทราบเยอะค่ะ)
* ปี 4-5 ส่วนใหญ่อยู่เวรกันขั้นต่ำ 2-4 คน/เวร ครับ
ระยะทางจากรั้ว รพ. ถึงสะพานลอยไม่เกิน 10-15 เมตร ส่วนใหญ่ก็รีบๆ เดินกัน
บางที ยามฝั่ง รพ. จะช่วยดูตามหลังให้จนขึ้นบนสะพานไปแล้ว
พอลงสะพานลอยเสร็จ ถึงหน้าหอแล้วครับ
ส่วนปี 6 อยู่เวรถึงเช้า ไม่มีปัญหาเรื่องกลับหอตอนดึกครับ
ขอบคุณคุณไปป์#5 มากเลยลูก ได้ข้อมูลแบบนี้แล้ว ก็หมดกังวลค่ะ (จริงๆอยู่ นครปฐม -- แต่เห็นว่านครปฐม เลือกกันเกินทุกปี ต้องจับฉลากกัน หากได้ที่ ชลบุรี ก็จะไม่ห่วงแล้วค่ะ )
พูดถึงเรื่องเลือกการ รพศ. ในชั้นคลีนิค ท่านใดพอทราบว่า ทางมหา'ลัยมีหลักเกณฑ์ในการเลือกอย่างไรบ้างค่ะ เช่น เราเป็นเด็กนครปฐม/อยุธยา/นครนายก โดยสิทธิ์ ก็ควรจะได้ รพ.ภูมิพล แต่เห็นว่าร.พ.ภูมิพล คนเลือกเกิน 30 คนมาหลายปีแล้ว เช่น 45 คนต้องจับสลาก อยากทราบว่า หากใน 45 คน เป็นเด็กในพื้นที่นครปฐมจริงๆ อยู่ 10 คน 10 คนนี้จะได้ รพ.ภูมิพลเลย (โดยสิทธิ์) แล้วอีก 35 คน มาจับสลาก หรือ ต้องจับสลากทั้ง 45 คนเลยค่ะ ท่านใดพอมีข้อมูล รบกวนแชร์ด้วยค่ะ
ถามคุณantoinetty* เพิ่มเติมค่ะ
- สำหรับการซักรีด ที่ รพศ-ภูมิพล มีค.ช.จ.ยังไงค่ะ และเป็นของทางรพ.หรือ ต้องจ้างคนนอกทำให้
- การ วนไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลจันทรุเบกษา กำแพงแสน 5 วัน คือ ต่ออาทิตย์ หรือ ต่อเดือน ค่ะ แล้วการไปอยู่ที่นั่น พักอย่างไรค่ะ ไปกันเอง หรือ ทางรพ.ดำเนินการให้
ขอบคุณค่ะ
-
ขออนุญาตตอบเพิ่มเติมครับ
ค่าซักรีดเดือนละ 650 บาท เป็นหน่วยงานในโรงพยาบาลมารับทำครับ
เช่น เจ้าหน้าที่โรงซักรีด ห้องผ่าตัด ชุมนุมสัญญาบัตร กองพยาธิกรรม ฯลฯ
เขียนกำหนดว่า 90 ชิ้น/เดือน แต่ความเป็นจริงไม่ได้นับจำนวนครับ
แต่ก็สามารถจ้างร้านซักรีดข้างนอกได้ครับ แต่ต้องเอาผ้ามาส่งหน้าหอเอง
เพิ่มเติมสำหรับการทำความสะอาดห้อง สามารถจ้างแม่บ้านมาทำได้ ครั้งละ 150 บาท
สำหรับการปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลจันทรุเบกษา กำหนดไว้ 5 วัน ต่อ 10 สัปดาห์ครับ
เดินทางด้วยรถของกรมแพทย์ทหารอากาศ เป็นรถตู้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ที่พักเป็นบ้านพักแพทย์ ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องครัว
ชั้นบนเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องนอนพัดลม 2 ห้อง แต่ละห้องมีเตียงเดี่ยว 3 เตียงครับ
สวัสดิการอื่นๆ เช่น wifi internet, จักรยานสำหรับปั่นไปตลาดใกล้ๆ
สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
-
มาช่วยตอบตอนนี้ทันมั๊ยนะ
เป็นนิสิตแพทย์เวชปฏิบัติ (ปี6)ที่ศูนย์แพทยศาสตร์ชลบุรีค่ะ
การเรียนในปี6 ส่วนมากจะเป็นการปฏิบัติงานจริงที่วอร์ด ซึ่งก็จะมีแพทย์รุ่นพี่คอยกำกับดูแลอยู่ด้วย และก็จะมีน้องปี4-5อยู่ด้วยกันในบางครั้ง
หน้าที่ที่ทำคือราวน์ดูคนไข้ในตอนเช้า และเย็น มีหัตถการต่างๆก็ต้องทำแต่ต้องเป็นหัตถการที่ปี6สามารถทำได้ ทำกิจกรรมต่างๆตามวอร์ด
เช่น วอร์ดศัลก็เข้าช่วยผ่าตัด อยู่สูติก็เข้าช่วยผ่าตัดทำคลอดเป็นต้น ได้ทำหัตถการต่างๆเยอะมาก
อาจารย์ที่นี่น่ารักมากค่ะ เป็นกันเองกับเด็กๆมากๆ อาจเป็นเพราะจำนวนนิสิตแพทย์ที่น้อย และต้องทำงานร่วมกับอาจารย์บ่อย
คนไข้เยอะมากค่ะ ถ้าบอกตามตรงก็คือค่อนข้างหนัก เพราะอยู่เวรวันเว้นวัน และเวรของปี6จะไม่เหมือนของปี4-5เพราะจะต้องอยู่ถึงเช้า และก็ต้องราวน์ต่อในวันรุ่งขึ้น
แต่สิ่งที่คิดว่าได้จากการอยู่ในศูนย์แพทย์คือ เมื่อเราออกไปเรียนที่โรงพยาบาลอื่นๆ พอเค้ารู้ว่าเรามาจากที่ไหนเค้าก็จะบอกเลยว่า
เด็กที่นี่เก่งมาก นี่คือประสบการณ์จริงๆที่มีคนมาบอกกับตัวเอง
รู้สึกภูมิใจและดีใจที่เป็นจุฬา-ชลบุรี ค่ะ ^^
-
ขอถามเกี่ยวกับชลบุรีเพิ่มเติม
-เรื่องซักรีดและแม่บ้านทำความสะอาดมีเหมือนที่อื่นไหมคะ
-เอาตู้เย็นไปเองได้ไหมคะ
-เรื่องจังหวัดใช้ทุนของ cpird น่ะค่ะ เช่นถ้าเกิดบ้านอยู่สมุทรปราการจะได้ใช้ทุนในสมุทรปราการเลยไหมคะ
หรือจะคละไปใช้ใน 9 จังหวัดที่เป็นโควต้าของจุฬาทั้งหมด
-
เอาตู้เย็นเข้าไปได้ค่ะ แอบๆหน่อยก็แล้วกัน
มีแม่บ้านทำความสะอาดห้องคอมม่อนให้ค่ะ ส่วนห้องและห้องน้ำต้องทำเอง
ซักรีดมีหลายเจ้า ราคาและคุณภาพต่างกันไป ราคา400-500บาทต่อเดือนค่ะ
-
ขอบคุณคุณlจ้าxญิงทoผ้า ที่เข้ามาช่วยตอบข้อสงสัย ทำให้กระทู้ คึกคักค่ะ ^^ เรื่องของหัตถการที่หนูแจ้งมา
แต่สิ่งที่คิดว่าได้จากการอยู่ในศูนย์แพทย์คือ เมื่อเราออกไปเรียนที่โรงพยาบาลอื่นๆ พอเค้ารู้ว่าเรามาจากที่ไหนเค้าก็จะบอกเลยว่า
เด็กที่นี่เก่งมาก นี่คือประสบการณ์จริงๆที่มีคนมาบอกกับตัวเอง
รู้สึกภูมิใจและดีใจที่เป็นจุฬา-ชลบุรี ค่ะ ^^
ต้องเรียนให้ทราบว่า ป้าเคยได้ยินมาแบบนี้เช่นกัน แต่ไม่ได้เจาะลึกว่าเป็นที่ไหน แต่เป็น CPIRD จุฬาเลยค่ะ จากการเล่าต่อของเด็กๆที่เค้าได้จากการหาข้อมูลมา ซึ่งปัจจุบันเป็นแพทย์เหล่านี้ท่านเป็นผปค.ของเด็กรุ่นนี้พูดให้ฟังว่า แพทย์รุ่นพี่หลายท่าน(ไม่แน่ใจว่าเป็นอาจารย์แพทย์รึเปล่านะคะ) ชื่นชมความชำนาญด้านหัตถการของเด็ก CPIRD จุฬามากค่ะ (สำหรับแพทย์ CPIRD จากสถาบันอื่นๆก็คงจะเหมือนกันค่ะ เพียงแต่ได้ข้อมูลของทางจุฬามากกว่า) ซึ่งน่าจะเป็นกำลังใจให้แพทย์ CPIRD และ ODOD ทุกๆคนและทุกสถาบันได้ภาคภูมิใจค่ะ
เพียงแต่แพทย์ ODOD ไม่มีข้อมูลนะคะ เลยไม่ได้กล่าวถึง แต่คิดว่าคงเป็นไปในทำนองเดียวกันค่ะ ท่านใดมีข้อมูล นำมาแชร์ค่ะ ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญและำกำลังใจ รวมถึงความภาคภูมิใจให้กับแพทย์ในโครงการทุกคนค่ะ
-
สอบถามเพิ่มเติมค่ะ
เกี่ยวกับกิจกรรมของนสพ. เห็นคุณ vfish พูดถึงเรียนกิจกรรมที่จันทบุรีแล้ว ของที่ภูมิพล และ ชลบุรี ล่ะค่ะ มีกิจกรรมอะไรบ้่าง และ กีฬาสีทุกๆคนได้เป็นหรีดเหมือนกันหมดเลยด้วยไหม๊ค่ะ ^^ คงจะเป็นที่เดียวล่ะมังค่ะ ที่มีหรีดทั้งหมด
เกี่ยวกับสาขาเฉพาะที่รพศ.แต่ละที่มี เห็นคุณ antoinetty* พูดถึงเรียนรพศ-ภูมิพล เกี่ยวกับสาขาเฉพาะทางที่มี เลยขออนุญาติสอบถามพี่ๆที่อยู่อีก 2 ศูนย์ที่เหลือเพิ่มเติมเลยค่ะว่า แล้ว รพศ-ชลบุรี และ จันทบุรี ล่ะค่ะ มีสาขาเฉพาะทางทางด้านไหนบ้างค่ะ
-
กิจกรรมของชลบุรี เท่าที่จำได้นะคะ
ต้นปีมีงานรับน้อง งานไหว้ครู(เกือบทุกคนต้องเล่นดนตรีไทย) กีฬาสีศิษย์-อาจารย์(เน้นฮา) กีฬาสีรพ.(ได้เป็นลีดบางคน) ลอยกระทง(ประกวดนางนพ) และงานทางวิชาการหลายๆอย่างเช่น Open house เยอะ่ค่ะ จำไม่ได้หมด
งานบางงานที่เป็นของจุฬาเราก็ต้องไปร่วมค่ะ เช่น รับเสื้อกาวน์
ที่นี่จะไม่เปิดเรียนแพทย์เฉพาะทางต่อยอด(fellow) จะเปิดเรียนแค่เฉพาะทาง ปัจจุบันเท่าที่เปิดเรียนแพทย์เฉพาะทาง(เท่าที่ทราบ)มี
ศัลยกรรม
สูติกรรม
อายุรกรรม
กุมารเวชกรรม
อายุรศาสตร์ฉุกเฉิน
maxillo facial(ทันตกรรม)
เวชศาสตร์ครอบครัวไม่แน่ใจว่าเป็นโครงการร่วมหรือไม่
บางสาขาจะเปิดเป็นโครงการร่วม เช่น อายุรกรรม กุมารเวชกรรม จะมีโครงการจุฬา-ชลบุรี คือจะสลับเรียนทั้งที่รพ.จุฬาและรพ.ชลบุรี
จะมีแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆมาวนที่รพ.ชลบุรีเป็นบางวอร์ดด้วย เช่น ศัลยกรรมกระดูก วิสัญญี ศัลยกรรมประสาท เป็นต้น
การเรียนการสอนจะเรียนกับอาจารย์แพทย์ที่เป็นแพทย์เฉพาะทางในด้านนั้นอยู่แล้วค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีอาจารย์เฉพาะทางในหลายๆด้านอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะได้ความรู้ไม่ครบถ้วน
ผู้ร่วมงานจะมีนักเรียนพยาบาลจาก วิทยาลัยพยาบาลชลบุรี,ม.บูรพา นักเรียนแพทย์ทหารจากพระมงกุฎ, นักเรียนแพทย์จากที่อื่นๆที่มาเรียนวิชาเลือก เช่น จุฬา ศิริราช รามา
หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
-
ขออนุญาตตอบเพิ่มเติมครับ
สำหรับกิจกรรมของโรงพยาบาลภูมิพลฯ
งานระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็จะมีการรับน้อง การจัดสายรหัส การจัดงานบายเนียร์
การแข่งขันกีฬาภายในโรงพยาบาลก็มีครับ แต่ปีที่ผ่านมาเลื่อนไป เพราะน้ำท่วมโรงพยาบาล
มีการวิ่งทดสอบสมรรถภาพปีละ 2 ครั้งด้วยครับ (สมเป็นโรงพยาบาลทหารจริงๆ)
มีจิตอาสาเป็นดนตรีจากกลุ่มมิตรภาพบำบัด ให้ไปร้องเพลงสำหรับผู้ป่วยที่รอรับการตรวจที่ห้องตรวจโรคครับ
จัดปาร์ตี้ปีใหม่ระหว่างอาจารย์ แพทย์ประจำบ้าน นิสิตแพทย์ , งานวันเด็กสำหรับผู้ป่วยกองกุมารเวชกรรม
ช่วงวันเด็กนี่ จากหอผู้ป่วยจะเห็นเครื่องบินบินโชว์ชัดมากครับ เรียกว่า VIP สุดๆ
นอกจากนี้ก็มีจัดประชุมวิชาการของโรงพยาบาล ปีละ 2 วันในช่วงเดือนมีนาคม และจัดประชุมวิชาการของแต่ละกอง
ที่แปลกกว่าที่อื่นคือ ที่นี่มีวันหยุดเยอะกว่าที่อื่น 1 วันครับ คือ หยุดวันกองทัพไทย ด้วย
เรื่องกิจกรรม ผมเห็นว่าถ้าน้องๆ ต้องการจะทำ ยังไงๆ ก็มีให้ทำแน่นอนครับ ทั้งจากในโรงพยาบาล หรือหน่วยงานต่างๆ ข้างนอก
อย่างที่นี่ ก็มีนิสิตแพทย์ไปกับนักศึกษาพยาบาลจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ออกเยี่ยมแรงงานชาวพม่าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้
นึกออกเท่านี้ ถ้านึกออกมากกว่านี้จะกลับมาเพิ่มเติมครับ
-
ขอบคุณคุณantoinetty* มากๆอีกครั้งค่ะ เพราะทุกครั้งที่มาตอบ ให้ข้อมูลละเอียดดีมากค่ะ (อ่านแล้วสะใจ วัยรุ่นอย่างป้ามากเลย)
นึกได้เพิ่มเติม อย่าลืมมาโพสต์นะคะ อยากอ่านค่ะ อยากอ่าน (เพิ่มความรู้ใหักับตัวป้าเองค่ะ)
มีอยู่ประโยคหนึ่งอ่านแล้วแอบดีใจแทนน้องๆ "ที่แปลกกว่าที่อื่นคือ ที่นี่มีวันหยุดเยอะกว่าที่อื่น" ตั้ง 1 วัน แน่ะ ^^ (คิดว่า 1 เดือน ^^)
เห็นมีกิจกรรมให้ทำแล้ว ดีใจค่ะ แต่ละที่มีหลากหลายดีจริงๆ ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับน้องๆแล้วค่ะ ว่าใครชอบ ทำอะไร แบบไหน
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นข้อมูลอีกมุมหนึ่ง ที่ไม่เคยได้รับทราบมาก่อน และไม่มีใครให้ข้อมูล คงเป็นประโยชน์กับน้องๆมากเลยค่ะ และท่านใดที่ได้ประโยชน์จาก
ข้อมูลเหล่านี้ ยกเครดิตทั้งหมดให้กับพวกพี่ๆในบอร์ดนี้ที่เข้ามาให้ข้อมูลกันทุกๆคนนะคะ
-
หอพักนิสิตแพท์ยที่ภูิมิพลฯมีแอร์ไหมครับ
-
หอที่ภูมิพล ติดแอร์ ห้องน้ำในตัว ห้องละสองคน แยกเพศเป็นชั้นๆ ครับ
หอที่จันทบุรี ติดแอร์ ห้องน้ำในตัว แชร์กับห้องข้างๆ อยู่ห้องละสองคน แยกเพศเป็นชั้นๆ ครับ
-
ชลบุรี เหมือนจันทบุรี แต่ไม่มีแอร์ ครับ T.T
-
แล้วไปที่ชล ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรมั่งครับ เช่น ค่าหอ ค่านำ้ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์เครื่องมือ ค่าหนังสือ ค่าอาหาร
-
ค่าหอ 2000 บาท/คน/ปี
ค่าน้ำ ฟรี
ค่าไฟ มีให้ 250 บาท เกินออกเอง
อื่นๆ ไม่มี
ค่าหนังสือ อาหาร ตามแต่ละคนครับ
-
ขอเจาะลึกเรื่องที่รพศ.พระปกเกล้าหน่อยค่ะ ^^
- เรื่องการซักรีด ตามที่คุณ vfish แจ้งว่า เดือนละ 300.-นั้น เป็นค่าซักผ้าอย่างเดียว (ตามที่เขียนไว้) หรือซักรีดด้วยค่ะ แล้วกำหนดจำนวนชิ้นด้วยหรือเปล่า
- เรื่องแม่บ้าน ทำความสะอาด มีคนรับจ้างเหมือนที่ศูนย์อื่นหรือไม่ค่ะ ถ้ามี คิดกันอย่างไรคะ เป็นวัน หรือ เป็นเดือน และส่วนมากเป็นใครคะที่มารับทำ 2 ส่วนนี้ให้ หมายถึงเจ้าหน้าที่ในรพ หรือ เป็นบุคคลภายนอก (จริงๆก็ไม่ซีเรียสค่ะ แต่อยากทราบว่า ปกติเป็นยังไงค่ะ)
- แล้วนสพ.ที่นี่ต้องเสียค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ เช่นเดียวกับที่รพศ.อื่นๆด้วยเช่นกันใช่ไหม๊คะ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ
- เรื่องการเดินทางไปที่รพ. หากไม่ใช่เป็นรถส่วนตัว ไปกันอย่างไรได้บ้างคะจึงจะสะดวกหน่อย
- ในกรณีที่ผปค.ต้องการไปเยี่ยม และอยู่ค้างสักคืน 2 คืน ไม่ทราบว่า ทางรพ.อนุญาติให้ผปค.พักกับลูกๆในหอได้หรือไม่ หรือ ต้องไปแยกพักข้างนอกต่างหากคะ
- สำหรับห้องพักนั้น ไม่ทราบว่าภายในห้อง มีตู้เย็นให้หรือไม่ หรือ ต้องนำไปเอง
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ