Docchula Community

Docchula Public Board => แนะนำการศึกษาต่อคณะแพทย์จุฬาฯ => Topic started by: Chaiwat on April 16, 2009, 09:10:43 pm

Title: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Chaiwat on April 16, 2009, 09:10:43 pm
คือว่าผมติดหมอแล้วครับ แต่ยังไม่แน่ใจที่จะเลือกเรียนหมอ เลยอยากได้ความคิดเห็นเพิ่มเติมนะครับ  ขอขอบคุณมากครับ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: พีทซ่า@Gr.ofSeventeen on April 16, 2009, 09:14:36 pm
เอ่อ...ตกลงน้องติดแล้วหรอ

พอดีพี่...ก้รุ้สึกว่ามันไม่ใช่ตั้งแต่ก่อนเข้าแล้วหละ

แต่มันติดอะ....แล้วพอนึกถึงอนาคตอะ

พี่ว่า มันมั่นคงอยู่ แล้วก้เพื่ออนาคตของครอบครัว พ่อแม่อะ

รุ้สึกว่าพ่อแม่ พี่ลำบากมาเยอะ เลยทนเรียน ก็เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง เซ็งบ้าง เศร้าบ้าง แต่ก้ต้องทนเพื่อคนที่เรารัก

ดุเน่ามะ




พี่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับเหตุผลของน้องอะ

ว่าน้องเลือกเรียน หมอ ด้วยเป้าหมายอะไร จุดประสงค์อะไร แล้วมันคุ้มค่าไหม...

บางคนอาจจะไม่ชอบ...แต่...ต้องทนเพื่อ ข้างหน้า เหะๆๆ

ตัดสินใจดีดีละ นะ สุ้ๆๆ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: chaiwat on April 16, 2009, 09:44:55 pm
เป้าหมายคืออยากทำธุรกิจครับ  แล้วก็มีคนแนะนำให้เรียนแล้วทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ   ผมก็รับฟังหลายๆความคิดเห็นครับ

แต่มีบทความนึงที่สะกิดให้ผม ผมอ่านจากเว็บเด็กดี บทเรียนจากคน'เคย'เรียนหมอ จุฬา  http://writer.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=440545 

มันสะกิดใจผม  เป็นบทเรียนกับผม ว่าผมควรจะเลือกให้รอบคอบซักนิดนึง
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: chaiwat on April 16, 2009, 09:51:53 pm
ผมอยากให้เล่าถึงประสบการณ์ที่ด้านบวก ชอบ สนุกสนาน  ตื่นเต้น ดีใจ  และประสบการณ์ที่ด้านลบ หงุดหงิด เหนื่อย ลำบาก

แล้วเหตุผลที่ทำให้คิดว่าเราไม่น่าจะมาเรียนหมอเลย    และเหตุผลที่ยังคงเรียนต่อไป  หรืออะไรก็ได้ที่อยากจะเล่า  อะไรก็ได้ที่อยากให้บทเรียน
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 16, 2009, 10:14:34 pm
ส่วนตัวพี่คุ้นเคยกับด้านนี้มานานแล้วครับ เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่

แต่อยากจะเตือนน้องๆที่ทนเรียนหมอ เพื่อพ่อแม่ หรือเพื่อทางบ้านครับ

ว่าเราเรียนทางนี้ได้จริงรึเปล่า


พรีคลินิคอาจจะไม่ชัด แต่พอขึ้นคลินิคแล้วจะเห็นได้ชัดครับ


การทนเรียนสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ทรมานนะครับ ที่สำคัญ ชีวิตคนไข้ทั้งคนอยู่ในมือของน้องครับ . .

ประสบการณ์ด้านบวกหรอครับ คงเป็นยามที่เห็นคนไข้ยิ้มให้ก่อนกลับบ้านมั้งครับ หรือแค่คำขอบคุณเบาๆจากคนไข้ ก็ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานขึ้น

ส่วนประสบการณ์ด้านลบหรอ คงเป็นการอดหลับอดนอน อยู่เวรตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงแปดโมงเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วทำงานต่อถึงสี่โมงเย็นของอีกวัน โดยที่ function น้องต้อง 100% ตลอดทั้งวัน คนไข้เยอะ เรื่องมาก ฯลฯ . . .
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: พีทซ่า@Gr.ofSeventeen on April 16, 2009, 10:15:33 pm
พี่ทอป พุดทำให้ใจแป้ววว เลย ฮ่าๆๆ


แล้วทำไงได้อะ ลาออก หุหุ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 16, 2009, 10:20:07 pm
พี่ทอป พุดทำให้ใจแป้ววว เลย ฮ่าๆๆ


แล้วทำไงได้อะ ลาออก หุหุ
มีสามทาง  ::)

1. ลาออกซะตั้งแต่ตอนนี้  :P

2. รอจบปีสี่ แล้วลาออกขอวุฒิ วท.บ.วิทยาศาสตร์การแพทย์ :P

3. เรียนจบปีหก ได้คำว่านายแพทย์/แพทย์หญิง แล้วไปทำงานด้านอื่นแทน :P
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 16, 2009, 10:32:30 pm
สู้ๆ :)

ตอนขึ้น clinic แล้วอาจจะสนุกกะชีวิตก็ได้นะ พี่ว่ามันมีสีสันดีอ่ะ

สนุกกว่านั่งเลคเชอร์เป็นไหนๆ (และจะโหยหาคาบเลคเชอร์เป็นอย่างยิ่ง) ::)


แต่เมื่อตัดสินใจเรียนแพทย์แล้ว ต้องเต็มที่กับมันนะครับ

ชีวิตคนไข้อยู่ในกำมือของเรา . . .

ความรับผิดชอบจะมากขึ้นครับ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: chaiwat on April 16, 2009, 10:50:14 pm
ผมอยากรู้ว่า ตอนที่พี่Topo เลือกที่จะเรียนคณะนี้เนี่ย อะไรที่ทำให้พี่Topo คิดว่าเออหมอนี้แหละใช่เราที่สุดแล้ว 

แล้วพี่นายกะหล่ำปลี อะไรที่ทำให้ไม่อยากเรียนหมอ หรือว่าเรียนก็เรียนได้ แต่อยากเรียนอย่างอื่นมากกว่า
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 16, 2009, 10:58:28 pm
พี่ไม่ได้เลือกเรียนหมอเพราะว่าพี่ชอบหมอนะ

พี่เลือกเรียนเพราะว่าพี่ไม่เก่งเลข ไม่ชอบฟิสิกส์ แต่ชอบชีวะ

แล้วก็โตมาใน field ทางนี้ตั้งแต่เด็กๆ เลยคุ้นเคย เลยเลือกเรียนทางนี้มากกว่า


ลองถามรุ่นพี่ๆดูได้ คนที่เรียนหมอด้วยความชอบเรียนหมอ น่าจะ 20% เท่านั้นเอง

ที่เหลือเนี่ย ไม่รู้จะเรียนอะไร คะแนนมันถึง พ่อแม่เป็นหมอ  . . .
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Necrossstalker on April 16, 2009, 11:07:56 pm
พี่ไม่แน่ใจแฮะว่า รุ่นน้องๆยังมีฝึกงานอยู่รึเปล่า พี่คิดว่าอันนั้นจะทำให้รู้บรรยากาศของแพทย์ได้พอสมควร(ย้ำ แค่บรรยากาศ)
ถ้าน้องจขกท.ตัดสินใจว่าลองเรียนดูก่อนนั้น พี่แนะนำว่าว่างๆไปโรงพยาบาล(ไม่ใช่ว่าไปแกล้งหกล้มแล้วเข้ารพ.นะ)ดูญาติผู้ป่วยบ้าง หรือไม่ก็ลองปรึกษาพี่รหัสหรืออาจารย์ดูเผื่อจะสามารถขึ้นไปดูวอร์ดจริงได้ พี่คิดว่าอันนี้น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นนะ

ส่วนตัว พี่เผอิญว่า ชอบหมอมาก และชอบที่จะช่วยเหลือด้านนี้ครับ ::)
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: DanTrolene~* on April 16, 2009, 11:10:57 pm
พี่ไม่แน่ใจแฮะว่า รุ่นน้องๆยังมีฝึกงานอยู่รึเปล่า พี่คิดว่าอันนั้นจะทำให้รู้บรรยากาศของแพทย์ได้พอสมควร(ย้ำ แค่บรรยากาศ)
ถ้าน้องจขกท.ตัดสินใจว่าลองเรียนดูก่อนนั้น พี่แนะนำว่าว่างๆไปโรงพยาบาล(ไม่ใช่ว่าไปแกล้งหกล้มแล้วเข้ารพ.นะ)ดูญาติผู้ป่วยบ้าง หรือไม่ก็ลองปรึกษาพี่รหัสหรืออาจารย์ดูเผื่อจะสามารถขึ้นไปดูวอร์ดจริงได้ พี่คิดว่าอันนี้น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นนะ

ส่วนตัว พี่เผอิญว่า ชอบหมอมาก และชอบที่จะช่วยเหลือด้านนี้ครับ ::)

พี่คนนี้เชื่อได้ครับ เค้าเปนคนดี
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: PkMn Trainer Chuck on April 16, 2009, 11:42:40 pm
อืม

พี่อยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วอ่ะคับ

แต่ไม่ได้อยากช่วยเหลือคนนะ

อยากทำเพราะรายได้ดี + ความมั่นคงในอาชีพสูง + จะได้ดูแลญาติๆ ได้ (คือไม่ได้คิดถึงคนอื่นนอกจากครอบครัวตัวเองเลยน่ะ 55+)

แล้วหมอใส่ชุดแล้วมันก็เท่ดีด้วย

พอพี่มาเรียนพี่ก็ไม่ได้รู้สึกชอบ แต่พี่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบนะครับ

คือพี่ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นรึเปล่านะ

แต่ถ้าอาจารย์คนไหนดี พี่ก็ชอบวิชานี้ คนไหนดีน้อยกว่าก็ไม่ค่อยชอบ

แต่พี่ก็เป็นฐานอันมั่นคงมาจนเกือบถึงเวลาปีสามแล้ว

แน่นอน คลินิคพี่ก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกัน

แต่ว่า...ไงดีล่ะ...ก็เพื่อตามที่วอนท์ตั้งแต่เด็กแหล่ะมั้ง 55+

(เอ่อ แต่มันก็เด็กมากนะ ประมาณแปดเก้าขวบ แล้วพอใครถามอะไร ก็ตอบว่าหมอไปเรือยๆ จนคิดว่าตัวเองอยากเข้าหมอ แต่ตอนนี้เริ่มอยากเรียนวิดวะ 55+)

ขอให้เลือกให้ได้นะครับ ^^
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Taiyakikung on April 17, 2009, 12:09:19 am
สำหรับผม ตอนมอปลาย ผมอยากเข้าวิทยาครับ :Pเพราะตอนนั้นชอบทำโจทย์เลขมาก :Pแต่หลายๆอย่างก็ทำให้เปลี่ยนใจ
ผมเริ่มมาอยากเรียนหมอจริงๆจังๆตอนม.6เองครับเพราะหลายๆเหตุผล เช่น พ่อเป็นหมออยู่แล้วพอเห็นพ่อทำงานแล้วรู้สึกว่าท่านน่านับถือและผมเองก็อยากเป็นแบบนั้นให้ได้บ้าง,ดูอนิเมะ+อ่านการ์ตูนหลายๆเรื่องเช่น black jack(หมอเกรียนดีแต่ก็ประทับใจนา>__<) AIR(คิดว่าถ้าในเรื่องมีหมอเก่งๆนางเอกคงไม่ตายT_T) แล้วก็ปกติผมชอบช่วยคนอยู่แล้ว(โดยเฉพาะเด็กๆ :-[)
แล้วก็เหตุผลอีกหลายเหตุผลมากๆจนไม่อาจนับได้ถูก ;D
เข้ามาเรียนเทอมหนึ่งรู้สึกไม่ชอบอย่างมากเพราะรู้สึกเหมือนว่าวิชาที่เรียนมันฉาบฉวยมาก แต่ละวิชาเรียนแล้วไม่ได้ใช้ต่อ เรียนแล้วไม่ได้รู้ลึกรู้จริง แถมเรียนก็ไม่เข้าใจด้วย(เคมีผมเอาแต่ท่องอย่างเดียว ฟิสิกส์ก็ท่องสูตร+โจทย์ไปสอบ) แต่พอเทอมสองรู้สึกสนุกมากกับการเรียน ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นก็รู้สึกว่าเลือกถูกแล้วที่เรียนหมอเพราะหลายๆเหตุผลที่ได้บอกมา
ในประเทศไทยค่านิยมที่ว่าคนเก่งต้องเรียนหมอ+วิดวะมันยังมีอยู่และฝังรากอย่างแน่นหนาในคนรุ่นพ่อแม่เราครับ หลายๆคนที่ไม่ได้มีความฝันอะไรเป็นพิเศษ+เรียนเก่งพอควรก็มักเข้าหมอครับเลยมีปัญหาทำให้บางคนต้องอดทนเรียนไปทั้งที่ไม่ชอบ ซึ่งความจริงผมคิดว่าการเรียนหมอที่แท้จริงไม่ต้องใช้ความฉลาดมากนักก็ได้แค่ใจรัก+ขยันมีระเบียบวินัยก็ไปรอดแล้ว อย่างอเมริกาครูอาจารย์ถือว่าเป็นคนที่เรียนเก่งกว่าหมอครับ กลับกันกับบ้านเรา :Pแต่อเมริกาก็นับว่ามีการแพทย์ก้าวหน้ากว่าไทย
ปล.รู้สึกว่าคนมาตอบส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเองนิ  :P
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: chaiwat on April 17, 2009, 12:15:10 am
ผมเคยไปฝึกงาน เดินดูตามวอร์ดต่างๆในโรงพยาบาลแล้วคับ แต่ผมดูเฉพาะตอนกลางวัน กลางคืนไม่อยู่ซึ่งคิดว่าควรจะอยู่ด้วย :P  แต่ตอนดูผมก็เฉยๆนะ  

ความรู้สึกตอนนั้น ได้ยืนดูเฉยๆไม่ได้ทำไรเลยอ่าพี่ ยืนดูคนไข้บนเตียงแล้วมีกระดาษแผ่นนึงให้ไปสัมภาษณ์ผู้ป่วย ก็ถามชื่อ อายุ อาการของโรค สาเหตุของโรคไงงี้  มันก็เลยรู้สึกเบื่อ :-X ผมก็มองๆแล้วผมคิดถ้าจะทำจริงๆก็น่าจะทำได้ 8)   บางครั้งผมก็มีความคิดแวบเข้ามาบ้าง คนเรามันก็ต้องตาย  น่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะบางครั้งเห็นคนป่วยหนักๆใช้เครื่องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดรู้สึกว่าทรมานแล้วเค้าอยากตายมากกว่าอยู่แล้ว :'(  ไม่น่าไปยื้อเอาไว้ :-\

ไม่รู้  อย่างนี้มันแสดงว่าผมเป็นยังไงบ้างอ่าคับ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Taiyakikung on April 17, 2009, 12:39:26 am
กำลังกินน้ำพออ่านแล้วเกือบพ่นน้ำใส่หน้าคอมเลยวุ้ย :P
เราไม่สามารถตัดสินชีวิคคนอื่นได้ครับว่าควรอยู่หรือควรตายจากไป ทุกชีวิตมีคุณค่าในตนเองหมด
คนที่นอนเฉยๆอยู่บนเตียงก็มีประโยชน์ต่อสังคมเหมือนกันครับ สำหรับว่าเค้าควรจะอยู่หรือไปเราไม่ใช่คนตัดสินครับ มันขึ้นกะตัวเค้าและครอบครัวมากกว่า
ก็ถือว่าไม่แปลกหรอกครับที่น้องจะมีความคิดแบบนี้เพราะพี่ก็เคยคิดเหมือนกัน ;D
สำหรับงานของหมอ คนทำต้องมีความรู้เป็นอย่างดีครับ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่มองเห็นครับ ต้องใช้เวลาเรียนมามากมายกว่าจะรักษาคนได้อย่างถูกต้องครับ ::)
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: btbt since 1990 ・ω・ on April 17, 2009, 12:48:04 am
บางครั้งผมก็มีความคิดแวบเข้ามาบ้าง คนเรามันก็ต้องตาย  น่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะบางครั้งเห็นคนป่วยหนักๆใช้เครื่องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดรู้สึกว่าทรมานแล้วเค้าอยากตายมากกว่าอยู่แล้ว :'(  ไม่น่าไปยื้อเอาไว้ :-\

เอ่อ
อันนี้มันแล้วแต่เคสด้วยมั้ง
แต่ส่วนใหญ่แล้วพี่ว่าหมอก็ยังจำเป็นอยู่นะ ในกรณีคนเจ็บป่วยทั่วๆไป
น้องคิดถึงเวลาไม่สบาย เป็นไข้ นอนหนาวโคดๆ
แล้วพอไปหาหมอ รู้วิธีการดูแลตัวเอง การกินยา แล้วรุ้สึกว่าดีขึ้นเยอะ หายเร็วขึ้นเยอะ

ส่วนเรื่องใช่หรือไม่ใช่ตัวเองอันนี้พี่ไม่ค่อยแน่ใจว่าน้องหมายถึงอะไร
แต่ถ้าตัวพี่เองก็ยังคิดๆ อยุ่นะว่าอยากเรียนอย่างอื่นมากกว่า
แต่ถ้าให้พี่เรียนหมอ ก็พอเรียนได้อ่ะ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: •โซดา♫”•— on April 17, 2009, 12:49:23 am
น้องอ่านแร้วช่ายม้าย พี่ลบนะ อย่างที่บอกว่า บางอย่างก็ไม่อยากให้ใครรู้  :'( เล่าประกอบใ้ห้น้องตัดสินใจ

พี่เองก็ตัดสินไม่ได้เหมือนกันว่าน้องควรจะเลือกหมอรึเปล่า คนเราไม่จำเป็นต้องมีความคิดที่สมดุลกับเหตุผลตลอด แค่รู้จักใช้เหตุผลให้อยู่เหนือความคิดก็พอแล้ว  เพราะคนที่พี่รู้จักคนนึง เขาก็ไม่ชอบการเป็นหมอมาก ๆ เพราะมันเหนื่อยและลำบาก แต่เขาใส่ใจคนไข้(แม้ว่าจะบ่นให้พี่ฟัง) เป็นหมอที่ดีมาก ดูแลรักษาคนไข้ได้ไม่มีที่ติก็มี ..แต่ถ้าถามพี่ เวลาไปเยี่ยม ไปถามคนไข้แบบนั้นแล้ว ถ้าน้องรู้สึกกังวลไปกับเขา อยากให้เขาหาย อยากช่วยอะไรเขาได้บ้าง นั่นหล่ะคือคนที่เหมาะกับการเป็นหมอจริง ๆ ทำงานแล้วจะมีความสุข

ยังไงถ้าน้องเข้ามา น้องก็จะได้เรียนวิชา doctor and society อยู่แล้ว มันจะทำให้น้องรู้ว่าสังคมเขาต้องการอะไรจากเรามากขึ้นนะ ( แม้ว่าคาบเลคเชอร์จะสุดแสนน่านอนเหลือเกิน )
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: KiaGz!~ on April 17, 2009, 01:04:43 am
บางครั้งผมก็มีความคิดแวบเข้ามาบ้าง คนเรามันก็ต้องตาย  น่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะบางครั้งเห็นคนป่วยหนักๆใช้เครื่องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดรู้สึกว่าทรมานแล้วเค้าอยากตายมากกว่าอยู่แล้ว :'(  ไม่น่าไปยื้อเอาไว้ :-\


อืมม Euthanasia เป็นประเด็นที่ถ้าพูดกันแล้วยาวครับ

เราจะตัดสินได้ไงว่าเค้าอยากตายจริง ๆ หรือยังไม่อยากตาย ?

เค้าสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือปล่อยให้ตายอย่างที่น้องว่า ?
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: antoinetty* on April 17, 2009, 01:33:58 am
บางครั้งผมก็มีความคิดแวบเข้ามาบ้าง คนเรามันก็ต้องตาย  น่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะบางครั้งเห็นคนป่วยหนักๆใช้เครื่องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดรู้สึกว่าทรมานแล้วเค้าอยากตายมากกว่าอยู่แล้ว :'(  ไม่น่าไปยื้อเอาไว้ :-\


อืมม Euthanasia เป็นประเด็นที่ถ้าพูดกันแล้วยาวครับ

เราจะตัดสินได้ไงว่าเค้าอยากตายจริง ๆ หรือยังไม่อยากตาย ?

เค้าสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือปล่อยให้ตายอย่างที่น้องว่า ?

ถ้านับทางข้อคำสอนทางศาสนา ,,

การุณยฆาตกรรม ,,

ไม่ได้รับการอนุญาตนะครับ ,,
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Necrossstalker on April 17, 2009, 08:27:16 am
อืม เดี๋ยวน้องๆปีหนึ่งที่กำลังขึ้นปีสองก็จะได้เรียนเรื่องนี้ในรายวิชา Medical Ethicsครับ(และเอามาประกอบOutcomeที่7ได้ :D)

เอาเป็นว่า พี่บอกคร่าวๆครับ(ข้อมูลพลาดไงแย้งได้) ::)
 หมอไม่มีสิทธิ์ที่จะยุติชีพของผู้ป่วยนะครับ แปลว่า Euthanasiaนั้น ไม่สามารถทำได้ (ในเมืองไทย เมืองนอกพี่ไม่ทราบ แต่ต่อให้ทำได้ ก็ไม่ควรทำ)
แต่สิทธิผู้ป่วย ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอไม่รับการรักษาจากแพทย์ได้ และต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร(เป็นหลักฐานเพื่อประโยชน์ต่อครอบครัวผู้ป่วยเอง)ซึ่งเงื่อนไขที่จะขอไม่รับการรักษาก็จะมีย่อยๆลงไปอีก อันนี้ไว้ค่อยรู้รายละเอียดในภายหลัง(จากที่เรียน)หรือจากการSearchข้อมูลในGoogle

สรุปคือ ผู้ป่วย(ถ้าหากว่าไม่อยู่ในสภาพที่จะทำได้ก็เป็นญาติผู้ป่วย)เป็นคนตัดสินใจครับ  
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาคร
Post by: Prince Charming on April 17, 2009, 03:26:51 pm
ปกติจะอ่านอย่างเดียว ไม่ค่อยจะตอบเท่าไหร่
แต่เห็นว่าเป็นคำถามที่ดี อืมๆๆ


อืม....พี่ก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้อยากเรียนหมอมากมาย

พอติด ก็คิดว่าเรียนๆไปเหอะ ไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่พี่ว่ามันก็เสียอย่างน่ะ พอพี่คิดแบบนี้ พี่รุ้สึก เรียนไปแล้ว ชีวิตมัน
ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เรียนไปวันๆ กลับบ้าน นอน ดูหนังสือ
อ่านพอเอาผ่าน เรียนแบบไม่คิดอะไรมาก พี่รุ้สึกว่า ไม่รู้น่ะ...พี่คิดเองว่า
ถ้าเรียนหมอแบบ ไม่ได้อยากเป็นมากนัก มันจะเรียนแบบ เบื่อๆ ไม่คอยมีแรงจูงใจ
เช่น เกรดพี่นี่ พอออก พี่ดูอยู่ไม่ถึงนาทีด้วย ไม่ใช่เพราะมันไม่ดี หรือ ดี แต่พี่ว่าดูไปก็เท่านั้น ไม่อยากแข่งกะใคร
ตอนเรียนก็ไม่ได้รุ้สึกอัศจรรย์อะไรกะร่างกายมาก บางทีพี่เรียนกลไกต่างๆของร่างกาย พี่กูรุ้สึกว่า โห ทำไมนักวิทย์สุขภาพมัน
ฉลาด+ว่างเหลือเกิน คิดไปได้ไง สมองเป็นงั้นเป็นงี้ tract นั้นไปโน่นนี่ สุดยอดจริงๆ นี่แหล่ะ พี่คิดแค่นั้นจริงๆ

พี่คิดว่า หากน้องไม่ชอบจริงๆ มันก็เรียนได้น่ะ หาอะไรทำแก้เบื่อ หาแรงจูงใจในชีวิต เช่น เที่ยวบ้าง
กิจกรรมคณะมันก็ช่วยให้น้องรู้สึกอยากเรียนหมอขึ้นมา
บ้าง สำหรับพี่ก็มากอยุ่ พี่เคยไปค่ายสอนหนังสือ ได้ยินคำขอบคุณ คำด่า(อันนี้ไม่มีมี เหอๆๆ) ก็ดีใจมากๆ รู้สึกว่า
เรียนไปดีกว่า อบ่างน้อยก็เพื่อคนอื่น

อืมๆ แต่อย่าไปมีแฟนเพื่อเป็นแรงจูงใจในการเรียนหมอน่ะ ไม่ดีๆ เค้ารุ้จะเสียใจเอา  ;D
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: aralejung on April 17, 2009, 04:09:44 pm
อยากเรียนหมอ...เพราะตอนเด็กๆไม่สบาย แล้วไปเจอหมอประจำตัวแล้วทำให้หายดีได้...เลยประทับใจ

อยากเรียนเพราะ...ไม่อยากนั่งทำงานออฟฟิซ ถ้าให้ต้องทำงานเดิมๆทุกวันคงเบื่อแย่
อันนี้มีคนคุย คนเม้าท์
เหนื่อยมั๊ย..เหนื่อยเพราะบางที มันก็ง่วงนะ แต่ก็ต้องทำงานต่อ
(ยิ่งต้องทำงานกับคนหลายสาขา ต้องถนอมน้ำใจกันดีๆ)

เคยมีน้องญาติเค้าไม่อยากเรียนหมอ แต่คะแนนถึง พ่อแม่อยากให้เรียน...
อยากบอกว่า "เรียนไปก่อน...มันอาจจะดีกว่าที่เราคิด แต่ทำใจไว้นิดนึงว่า มันก็หนักนะ วันหยุดก็ไม่ได้กลับบ้าน"

สุดท้ายแล้ว ไม่มีอาชีพไหนที่สบายหรอกนะ แค่เราหนักกว่า นอนน้อยกว่า เจอคนตอนไม่สบาย (เพราะถ้าสบาย เขาก็ไม่มา)
เจอของที่ไม่น่าพอใจ (เช่น หนอง อุจจาระ ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำลาย อาเจียน) ต้องแบกรับความคาดหวังของคนไข้และญาติ  แค่นั้นเอง
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 17, 2009, 05:51:26 pm
บางครั้งผมก็มีความคิดแวบเข้ามาบ้าง คนเรามันก็ต้องตาย  น่าจะปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะบางครั้งเห็นคนป่วยหนักๆใช้เครื่องโน่นนี่นั่นเต็มไปหมดรู้สึกว่าทรมานแล้วเค้าอยากตายมากกว่าอยู่แล้ว :'(  ไม่น่าไปยื้อเอาไว้ :-\
อันนี้ต้องเจอจริงๆแล้วถึงจะเข้าใจครับ

ยกตัวอย่างเช่น คนไข้  end stage อยู่ไปก็ทรมาน แต่ก็เลี้ยงให้อยู่รอด เพื่อรอภรรยาที่จะคลอดในอีกเดือนข้างหน้าครับ

เราถูกหรือผิดที่เลี้ยงไข้ ให้คนไข้ได้เจอหน้าลูก ? ?

หลายๆเคส ความรู้สึกกับความเป็นจริงมันขัดแย้งกันเองครับ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: doctorpuchong on April 17, 2009, 07:44:49 pm
ผมก็สอบติดมาด้วยใจที่ม่ได้อยากเป็นหมอเต็มร้อยนัก
ซึ่งคิดดูแล้วปกติจะตายไป คนที่สอบเข้าได้และประกาศตัวว่าอยากเป็นหมอนั้นนะ
ก็ไม่ได้เข้าใจอย่างเต็มที่กระมังว่าหมอมันเป็นไง นอกจากพวกที่พ่อแม่เป็นคงใกล้เคียงพอควร
แต่ แต่ยังไง เขาก็ยังไม่ได้เป็น
กว่าจะมาซาบซึ้งจริงๆ ต้องซักปีหกละครับ ว่าของจริงเป็นไง

ซึ่งตอนปีหก ผมเองก็รู้สึกว่าใช่อ่ะนะ และใช่มาจนทุกวันนี้

เวลาหกปีมันเปลี่ยนอะไรได้มากนะครับ ถ้ามีแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยน มีตัวอย่าง มีบทเรียนชีวิตที่ดีพอ
ซึ่งผมโชคดีอะนะ ที่ที่ผมเรียนสอนผมเป็นหมอแบบที่ผมภูมิใจในตัวเองได้  ซึ่งไม่ได้แปลว่ามีความสุขสบาย
อาจจะลำบากแต่มีความสุข

ส่วนของหนู ม.หก  อืมม์ โลกนี้มันกว้างนะ มีคนมากมายหลายอาชีพ
ระดับสติปัญญาของคุณคงดี สอบติดได้
แต่มันแค่หมายถึง คุณมีสิทธิ์เลือกเฉยๆ ไม่ใช่ว่าเรียนเก่งระดับนี้แล้วต้องเรียนหมอเท่านั้น
วิชาชีพอื่นๆเค้าก็คงอยากได้เด็กเก่งๆไปเรียนเช่นกัน
ผมเห็นคนที่ชอบๆ มาเรียนแล้วยังไม่ค่อยจะชอบกันต่อเลย
คนที่ไม่ชอบ จะเปลี่ยนมาชอบอาจจะไม่ง่ายนะครับ
พวกนิสิตแพทย์หลายคนรู้ว่าไม่ใช่ก็ฝืนมาเรือยๆ
จะลาออก ก็เสียดาย กลัวพ่อแม่เสียใจ ทั้งที่พวกท่านไม่รู้เลยว่าคุณชอบกันไหม
ยิ่งปีสูงๆ ปีสี่ปีห้า ยิ่งไม่กล้าออก ทนกันไป ผมเจอประจำอะนะ


ส่วนประเภทพ่อแม่อยากให้เป็น อีกหน่อยจะได้ช่วยมาดูแลพวกเค้าได้นั้น
บอกพ่อบอกแม่ไปเลยครับ ว่าเป็นหมอแล้วน่ะ ไม่ค่อยได้ดูแลหรอก พ่อแม่ตัวเอง
ใช้เวลาไปกับการดูแลพ่อแม่คนอื่น ลูกคนอื่นมากกว่า
อยากให้ลูก ว่างดูแล ต้องเรียนอย่างอื่นครับ
รายได้ดีๆ พอเวลาเค้าไม่สบาย จะได้มีปัญญาพาเข้า บำรุงราษฎร์ สมิติเวช นั่นเลย ดีกว่ามาก

สรุป ถ้าคิดว่าไม่ใช่ ไม่ค่อยชอบดูใครลำบาก ไม่อยากรับรู้ปัญหาชาวบ้าน
       รักความสงบเลยไม่อยากยุ่งกับคน ให้โควต้าคนอื่นเขาเรียนดีกว่านะครับ
       อย่าฝืน ชีิวิตคุณ คุณเลือกได้
      แต่ถ้าคิดว่าไม่แน่ใจ อาจจะเป็นไปได้ ก็ต้องลองเข้ามาเรียนดู
 

Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: doctorpuchong on April 17, 2009, 07:49:55 pm
เออ ลืมไป ส่วน reply อื่นๆ ที่ดูเหมือนจะเฉเข้าเรื่องคนไข้ระยะสุดท้ายนั้น ก็เรียนรู้กันต่อไปครับ

หลักการที่สำคัญมากที่สุดคือ อย่าเพิ่งคิดแทนใคร
ชีวิตใคร คนนั้นคิด  ชีวิตคนไข้ คนไข้มี Autonomy เลือกเอง

หมอให้ข้อมูล(Fact) ส่วนความคิดเห็น (Opinion) ให้ต่อเมื่อจำเป็น หรือเมื่อคนไข้ขอ
มันคงวุ่น ถ้าหมอมีแต่ความคิดเห็นไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะให้ได้

เรียนกันต่อไป เรียนกันต่อไป เรื่องของชีวืิต มีอะไรให้เรียนอีกมาก
 
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 17, 2009, 09:14:38 pm
ขอบคุณอ.ครับที่ให้แง่คิดดีๆ

อย่างที่อ.ว่าครับ จะเข้าใจชีวิตแพทย์ได้ดีก็คงต้องรอคลินิคโน่นแน่ะ .  .. :P
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Chaiwat on April 18, 2009, 02:45:28 am
ขอขอบคุณอาจารย์ และพี่ๆ ทุกๆคนที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ

ผมอยากลองฟังเคสจริงที่แบบว่า   เรียนหมอแล้วลาออกไปก่อนที่จะจบหมอ  แล้วเปลี่ยนไปเรียนคณะอื่น

เค้ามีความคิดเห็นยังถึงตัดสินใจลาออก  แล้วอ่อเราจะทำอย่างไรที่เหตุการณ์นี้อย่างนี้จะไม่เกิดกับเรา  เพราะนั่นว่าเราหลงทางไปแล้ว ถ้าเราไม่หลงคงจะดีกว่า
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: Topo on April 18, 2009, 09:35:13 am
ขอขอบคุณอาจารย์ และพี่ๆ ทุกๆคนที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ

ผมอยากลองฟังเคสจริงที่แบบว่า   เรียนหมอแล้วลาออกไปก่อนที่จะจบหมอ  แล้วเปลี่ยนไปเรียนคณะอื่น

เค้ามีความคิดเห็นยังถึงตัดสินใจลาออก  แล้วอ่อเราจะทำอย่างไรที่เหตุการณ์นี้อย่างนี้จะไม่เกิดกับเรา  เพราะนั่นว่าเราหลงทางไปแล้ว ถ้าเราไม่หลงคงจะดีกว่า
จำได้ว่ามีรุ่นพี่พี่คนนึง ชื่อพี่ม่อนมั้งครับ

ลาออกตอนปีสี่ ไม่ก็ปีห้า เพราะรู้ว่าไม่ใช่ แล้วพี่แกก็เขียนบทความลงเวบเด็กดีมั้ง

ลอง search ดูกระทู้เก่าๆ เผื่อจะเจอ
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: victory on April 18, 2009, 01:03:30 pm
พี่ม่อน รุ่น 59 ??
Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: TiMMy on April 18, 2009, 04:46:19 pm
อืม นานาจิตตัง ถ้าคิดว่าไม่ชอบก็อย่าฝืนเรียนครับ ลำบากน่ะ

ตอนพี่เข้ามาพี่ก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบรึป่าว ติดที่นี่ก่อนก็เลยเลือกเข้ามา

แต่พออยู่มา 4 ปี ก็รู้สึกชอบอาชีพนี้เรยล่ะ

ลองถามจากหลายๆทางครับน้อง สำหรับพี่อาชีพนี้สนุก แต่เหนื่อยโคตร



Title: Re: ผมอยู่ม.6 อยากคุยกับที่พี่เรียนหมอแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง เป็นกรณีศึกษาครับ
Post by: exFictitiouZ on April 18, 2009, 07:56:01 pm
อ่านอยู่ดี ๆ โดนสปอยล์เรื่อง AIR ที่หน้าแรกซะงั้น
สปอยล์แรงด้วย
ขี้เกียจดูเลย = =