ไม่มีนางฟ้าในชีวิตแพทย์
Copy from
http://suannonweb.com/board/viewtopic.php?pid=107344 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในประเทศแห่งหนึ่งที่เหนือกาลเวลา ที่ซึ่งความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล คำพูดมีน้ำหนักกว่าความจริง
เกรียงชัยอยู่เวรประจำห้องฉุกเฉินคืนนี้ วันนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลรายงานเคสผู้ป่วยมาด้วยอาการผื่นคันตามตัว
หน้าบวมเล็กน้อย มีประวัติเคยแพ้ยาเพนนิซิลินมาก่อน
หลังจากรับโทรศัพท์ แพทย์หนุ่มก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วเดินไปที่ห้องฉุกเฉินทันที
"ป้าเป็นอะไรมาครับ"เกรียงชัยถาม
"ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆก็มีผื่นขึ้นตามตัวแล้วก็คันๆ" ผุ้ป่วยตอบพลางเกาตามแขน เกรียงชัยตรวจดูตามลำตัวและใบหน้า ที่ใบหน้าและตามแขนขา
มีผื่นสีแดงขึ้นเป็นวงนูนขนาด4-5ซม. ที่ตาเริ่มมีลักษณะแดงๆกระจกตาปกติ ปากก็ดูแดงเล็กน้อยแต่ไม่มีลักษณะลอกแต่อย่างใด
ฟังปอดก็ปกติ กดท้อง ทุบที่ชายโครงก็เจ็บเล็กน้อย แต่ป้าก็บอกว่าปวดหลังมาหลายวันแล้ว
"เมื่อก่อนป้าเคยแพ้ยา อาการเป็นยังไงครับ" แพทย์ถาม
ป้าทำหน้านึกสักครู่ก่อนที่จะตอบ "ตอนนั้นป้ามีไข้อยู่วันนึง ก็เลยไปซื้อยาจากร้านขายยามากิน หลังจากนั้นก็มีผื่นขึ้นคล้ายๆแบบวันนี้แหละ แต่ตอนนั้นขึ้นแค่ที่ปากกับหน้า
ไม่มีขึ้นที่แขนขากับตัวแบบวันนี้"
เกรียงชัยจึงให้พยาบาลเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะและวัดไข้
ผลที่ออกมา อุณหภูมิร่างกาย 36.9องศาเซลเซียส
ปัสสาวะ เม็ดเลือดขาว 5-10ตัว เม็ดเลือดแดง 3-5ตัว เซลล์เยื่อบุ 2-3ตัว
ผลเลือด เม็ดเลือดขาว 10000ตัว ชนิดNeutrophil 40% เลือด 40% เกร็ดเลือด 180,000ตัว
"ในสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ป้าได้ไปกินยาอะไรมาหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม "ไม่ว่าจะยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณนะครับ"
ป้านึกอีกครั้ง "ไม่นะหมอ ป้าไม่ได้กินยาอะไรเลย ...
ป้ากินยาครั้งสุดท้ายก็เมื่อปีที่แล้วเป็นยาพาราฯ ...
หลังจากนั้นมาป้าไม่ได้กินยาอะไรอีกเลย" ป้านึกอีกนิดนึง
" ยาบำรุงหรืออาหารเสริมป้าก็ไม่ได้กิน"
"แล้วช่วงนี้มีไม่สบายอะไรหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม
เพราะรู้ว่าการเกิดปฏิกริยาแพ้รุนแรงนั้น มากถึง1ใน3 เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากการให้ยาเพียงอย่างเดียวอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกัน
"ป้ามีไม่สบายมีไข้ครั้งสุดท้ายก็ต้นปีก่อนแหละหมอ ตอนที่กินพารานั่นแหละ ป้าไม่ได้ป่วยได้ไข้ไม่มีผื่นอะไรแบบนี้มาเกือบสองปีแล้ว" ป้าตอบอย่างมั่นใจ
เกรียงชัยครุ่นคิดอย่างหนักใจ สิ่งที่เขาต้องระวังมากในตอนนี้คือ ป้าเป็นอะไรกันแน่ เพราะการรักษานั้นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเลย
1. ป้าเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ... เพราะมีการตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ และป้าก็ไม่มีประวัติการกินยาหรือเรื่องเสี่ยงต่อการเกิดการแพ้
แต่ข้อที่ต้องระวังคือ การแพ้ ก็ทำให้เกิดเม็ดเลือดในปัสสาวะได้เหมือนกัน และในป้าก็ไม่มีไข้และการตรวจเลือดก็ปกติ
2. ป้าเกิดอาการแพ้ ... เพราะตรวจร่างกายเหมือนแพ้
แต่ที่ต้องระวังคือ ป้าไม่มีประวัติใดที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้เลย
ถ้าเป็นแต่ก่อนนี้ เกรียงชัยจะไม่หนักใจเลย เพราะว่าสามารถเฝ้าดูอาการได้ หากมีอาการหลังจากนอนรพ.ชี้นำไปในทิศใด ภายใน6-12ชม. ก็สามารถเริ่มการรักษาได้ แต่ภายหลังจากคดีสะเทือนขวัญคดีนึง มีแพทย์ได้มาบอกว่า ถ้าแพ้จะต้องให้ยาdexamethasoneทันที...เป็นการฉีกหน้าตำราการแพทย์ทั้งปวง
เพราะพูดนั้นพูดง่ายว่าแพ้แล้วต้องให้ ... แต่การจะแยกว่าแพ้จริงหรือเปล่านั้นทำได้ยากมาก... อีกทั้งหลักฐานทางการแพทย์จนถึงปัจจุบันก็ชี้ว่า การให้dexamethasoneควรให้เมื่อแน่ใจ ไม่ใช่ให้กราดไปก่อน... การให้กราดมีแต่จะทำให้อันตราย ...
แต่ตอนนี้กระแสสังคมกลับทิศกับความจริงทางวิทยาศาสตร์ไปแล้ว ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับ
ถ้ารักษาการติดเชื้อ ไม่ได้รักษาแพ้ แล้วเป็นอาการแพ้
... ผลที่ได้ อาจจะเกิดการแพ้อย่างหนักได้
ถ้ารักษาการแพ้ ไม่ได้รักษาการติดเชื้อ แล้วเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
... ผลที่ได้ อาจจะติดเชื้อรุนแรงได้
ถ้ารักษาทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ก็ยังอันตรายอยู่ดี เพราะจะประเมินอะไรไม่ได้เลย
บอกไม่ได้ว่าแพ้หรือไม่ และก็ไม่แน่ชัดว่าติดเชื้อหรือไม่
............
........
....
.
หลังจากตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง เกรียงชัยจึงให้รักษาแบบเรื่องแพ้ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ป้าเคยแพ้มาก่อน สิ่งที่ตรวจพบ ไม่มีอะไรที่ชี้ชัดเลยว่าติดเชื้อ... ส่วนของปัสสาวะนั้นถึงจะผิดปกติและเกิดจากการมีเชื้อ ก็อาจจะเป็นการมีเชื้อโดยที่ไม่ได้ก่อโรคเพราะว่าไม่ได้มีไข้และตรวจเลือดก็ ปกติ
เกรียงชัยจึงให้ฉีดยาDexamethasoneทุก6ชั่วโมง และให้สังเกตอาการ
***ผ่านไป8ชั่วโมง***
หลังจากฉีดยาครั้งที่สองไปได้พักใหญ่ๆ จู่ๆป้าก็มีอาการหนาวสั่นสะท้าน
แล้วก็เป็นลม วัดความดันโลหิตไม่ได้
แม้แพทย์จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ก็ไม่เป็นผล ป้าเสียชีวิตคาเตียงรพ.
เกรียงศักดิ์ส่งศพชันสูตรท่ามกลางการคัดค้านของญาติๆ
ที่ต้องการให้จ่ายเงินช ดเชยและไม่ต้องการให้ส่งผ่าพิสูจน์เพราะเชื่อว่าแพทย์ผิดแน่นอน
... ผลออกมา ป้าเสียชีวิตจากกรวยไตอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง
วันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น
"รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะเราก็เห็นๆอยู่ว่าปัสสาวะผิดปกติตั้งแต่แรก
อีกทั้งผู้ป่วยอายุมาก การที่เม็ดเลือดขาวจะปกติและไม่มีไข้ก็เป็นเรื่องธรรมดา" แพทย์คนนั้นกล่าว "การให้ยาDexamethasoneจึงถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรงที่แก้ตัวไม่ได้ ไปสู้ศาลไหนก็ผิดครับ"
เกรียงชัยเสียใจมาก เพราะเรื่องพวกนี้แพทย์ที่ทำงานจริงๆก็รู้ว่าไม่มีอะไร100%ในการตรวจรักษา การรักษานั้นก็ทำอย่างระมัดระวัง ที่สำคัญ การให้dexaไปแค่6ชั่วโมง ยายังไม่ทันออกฤทธิ์ที่จะไปกดภูมิคุ้มกันอย่างที่หมอคนนั้นกล่าวอ้าง
เกรียงชัยจึงเสียใจ เพราะถ้าโดนว่าโดยแพทย์ที่ทำงานจริงเขาจะไม่คิดอะไรมากเลย แต่นี่โดนกล่าวหาจากแพทย์ที่ไม่ได้รักษาคนไข้และกล่าวหาหลุดจากความจริง
..ฉับพลันนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกาย
"เราเห็นแก่เจ้าที่ทำดีมาตลอด จะให้พรเจ้าย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ได้ เจ้าจะกลับไปแก้อะไรล่ะ" นางฟ้ากล่าว
"ผมขอกลับไปให้ยาปฏิชีวนะครับ จะไม่ให้dexaแล้ว" เกรียงชัยร้องอย่างดีใจ สายตาเปี่ยมด้วยความหวัง พลันแสงสว่างก็เจิดจ้าไปทั่วห้องของแพทย์หนุ่ม
เกรียงชัยลืมตามาอีกครั้ง ป้าคนนั้นนอนอยู่ตรงหน้า
ในมือเกรียงชัยมีใบคำสั่งการรักษาที่ยังไม่ได้เขียนอยู่
แพทย์ผู้ได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิตรีบเขียนสั่งการรักษาให้ยาปฏิชีวนะ
ให้ยาแก้แพ้แบบฉีดCPM และไม่ลืมที่จะเก็บปัสสาวะส่งเพาะเชื้อ
และเฝ้าระวังอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้ น ... หลังจากเขียนดักไว้ทุกทางแล้วเกรียงชัยก็ลองนึกว่าตนเองหลุดอะไรอีกหรือไม่
... เมื่อไม่มีอะไรเพิ่มเติม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
***ผ่านไป8ชั่วโมง***
พยาบาลรายงานว่าจู่ๆใบหน้าคนไข้ก็ขึ้นผื่นเต็มไปหมด การอักเสบลุกลามไปทั่ว ตอนนี้มองอย่างไรก็เหมือนอาการแพ้ที่เรียกว่า "สตีเวนจอห์นสัน"
เกรียงชัยรีบสั่งการรักษาแบบอาการแพ้ ตรวจและบันทึกสภาพดวงตาที่ยังปกติ ตรวจดูปากที่ลอกไปทั่วแต่ยังไม่บวม ... เมื่อควบคุมทุกอย่างได้ก็ส่งไปรพ.จังหวัดในทันที
หลังจากนั้นเกรียงชัยก็ได้ข่าวว่าผู้ป่วยรายนี้มีการอักเสบจนตาบอด จากนั้นก็เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนทางผิวหนังจนกระทั่งเสียชีวิต
วันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น
"รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะว่ารายนี้แค่มีปัสสาวะผิดปกติอย่างเดียวโดยที่ไม่มีไข้หรือผลเลือดปกติ
แถมมีการแพ้ในอดีต เราก็ต้องนึกถึงเรื่องการแพ้ซ้ำอีก" แพทย์คนนั้นบอก "การให้ยาปฏิชีวนะหรือให้แค่ยาแก้แพ้โดยไม่ให้ยาdexamethasone
จึงเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงมากอย่างไม่น่าให้อภัย ไปสู้ศาลไหนก็แพ้หมดตูด"
ระหว่างที่เกรียงชัยนั่งหมดอาลัยตายอยากนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกายอีกครั้ง
"สวัสดีจ๊ะ คุณหมอ...." นางฟ้าทักทาย "เห็นแก่ความดีที่เจ้าสั่งสมมาในอดีต
เราจะให้โอกาสเจ้าขอพรครั้งสุดท้าย .... เจ้าจะขอแก้ไขอดีตอย่างไรดีจ๊ะ"
เกรียงชัยคิดอย่างเคร่งเครียด จากนั้นก็กล่าวคำขอขึ้น......
แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้นทั่วทั้งห้อง
............
........
....
.
"สวัสดีค่ะคุณหมอ" หญิงสาวทักทายเกรียงชัย "จะมาดูเรื่องสิวค่ะ"
แพทย์หนุ่มเพ่งพิศก่อนจะบอกแก่หญิงสาว "เป็นสิวน่ะครับ เดี๋ยวผมจัดยาให้นะครับ"
ว่าแล้วก็บันทึกลงไปในสมุดจด ผู้ป่วยเป็นสิวชนิด 1A ใช้ยาชุด#12 และเข้าทรีทเมนท์แบบ#2
............................ขณะบันทึก เกรียงชัยก็นั่งคิดว่าตนเองมาถูกทางไหม ที่เลือกว่าเมื่อเรียนจบก็จ่ายเงินไปเลยโดยไม่ทำงานชดใช้ทุนสามปี......... แต่อย่าคิดมากน่า มาถูกทางแล้ว เชื่อเถอะ
และแล้ว นายแพทย์ก็ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขตลอดไป
The End
จบแบบ Happy Ending
[ไปเจอในhi5พี่ตัวเอง เลยเอามาให้อ่านกัน]