Docchula Community

การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท

นก

การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« on: January 19, 2009, 10:26:42 pm »
อยากให้เปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อยของการเรียน ปี 4-6 ที่ภูมิพล หรือที่กำแพงแสน กับที่รพ.จุฬาฯ ขอความกรุณาพี่ๆที่มีประสบการณ์หรือผู้รู้ช่วยตอบด้วย ขอบพระคุณค่ะ

Offline Topo

  • *****
  • 2276
  • 54
Re: การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« Reply #1 on: January 20, 2009, 04:03:24 pm »
ข้อดีของการเรียนที่รพ.จุฬาฯ
1. เป็นรร.แพทย์ อุปกรณ์ hi-tech มีเทคนิคการรักษาใหม่ๆ
2. academic activity เยอะ ได้ความรู้ลึก
3. round, conference ต่างๆมีให้เข้าร่วมตามความสมัครใจ ได้ความรู้บ้าง ไม่ได้บ้าง
4. คนเรียนเยอะ เพื่อนเยอะ ตายหมู่ รอดหมู่
5. staff ตั้งใจสอน มีเวรสอนนสพ.โดยเฉพาะ
6. ทำให้เรานอบน้อมต่อพยาบาล
7. detail สวย  :P

ข้อเสียของการเรียนที่รพ.จุฬาฯ
1. เป็นรร.แพทย์ กว่าคนไข้จะผ่าน staff chief resident extern มาถึงนสพ.ก็แทบไม่ได้ทำอะไร
2. คนเยอะ เลยได้รับ case น้อย ความมั่นใจก็น้อยตาม
3. case ที่ได้รับมักจะ complicated ไม่ common ประมาณว่า 1 ใน 10000 จะเจอซักเคส
4. ได้ทำหัตถการน้อย(มาก) โดยเฉพาะ life saving procedure นี่อย่าหวัง ได้ทำแต่ DTX hematocrit Gram AFB cath EKG ซึ่งควรเป็นงานของพยาบาล
5. พยาบาลที่นี่ใหญ่กว่าหมอ
6. สวัสดิการของนสพ.มาเป็นสิ่งสุดท้าย

ข้อดีของการเรียนที่รพ.ศูนย์
1. ได้ทำหัตถการเยอะกว่า
2. case common ไม่ค่อย complicate
3. ความมั่นใจเหนือกว่า

ข้อเสียของการเรียนที่รพ.ศูนย์
1. case เยอะเมื่อเทียบกับ staff ทำให้การดูแลไม่ทั่วถึง
2. malpractice ได้ สืบเนื่องจากข้างบน
3. academic activity มีน้อย เนื่องจาก service อย่างเดียวก็แทบตายแล้ว
4. conference หรือ round อาจจะได้ความรู้น้อยกว่าในรร.แพทย์ขนาดใหญ่
I N T E R N ตั ว เ ล็ ก ๆ

Offline math

  • *
  • 1329
  • 34
    • http://mathkanok.multiply.com
Re: การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« Reply #2 on: January 20, 2009, 06:30:47 pm »
ขอบคุณคร้าบ

นก

Re: การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« Reply #3 on: January 22, 2009, 09:08:49 pm »
ขอบคุณมากค่ะสำหรับทุกๆคำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ TOPO ที่ให้รายละเอียดดีค่ะ

Offline Sakurada

  • *
  • 34
  • 2
Re: การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« Reply #4 on: January 23, 2009, 02:17:21 am »

ก่อนอื่นพี่ขอเป็นหนึ่งเสียงจาก นิสิตเเพทย์โครงการผลิตเเพทย์ร่วม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเเละกองทัพอากาศ (พอ.บนอ.)
หรือที่น้องรู้จักนามเเพทย์จุฬาฯ-ภูมิพล
สำหรับกำเเพงเเสนที่น้องพูดถึง คงหมายถึง รพ.จันทรุเบกษา ซึ่งเป็น รพ.สังกัดกองทัพอากาศ ในส่วนนี้พี่ยังไม่มีประสบการณ์ตรงขอไม่พูดถึง

ในส่วนของรพ.ภูมิพล เท่าที่พี่รู้ตอนนี้สำหรับน้องๆโครงการที่จะมาเรียนต่อภูมิพล
พี่ว่าตอนนี้หลายๆอย่างกำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมาก
โดยหลายอย่างที่ไม่ดีได้ถูกประเมินเเละอาจารย์ได้ดำเนินการเเก้ไขเเล้วหลายส่วน

มาดูที่พี่เคยพบมา
ภาพรวมที่รพ.ภูมิพลเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิ เน้นหนักทางด้านโรงเรียนของเเพทย์ประจำบ้าน
ในด้านของวิชาการล้วนๆ อาจน้อยกว่าที่จุฬาฯ
เเต่ในด้านการในไปใช้ในเวชปฏิบัติพี่ว่าก็ไม่ต่างกันมากนะ
ในด้านของอาจารย์ อาจารย์ที่รพ.ภูมิพลหลาท่านก็ติดภารกิจบ่อยๆเช่นเดียวกับอาจารย์ที่จุฬาฯ
เเต่อาจารย์ที่ภูมิพลจะมีภารกิจของทหารด้วย ซึ่งบางครั้งก็ต้องยอมรับว่าหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้จริงๆ
ส่วนอาจารย์ที่มาราวน์วอร์ดอาจจะไม่เข้มข้นเท่าที่จุฬาฯครับ
เนื่องจากการเน้นการให้บริการผู้ป่วยมากกว่า
เเต่ปัจจุบันที่รพ ภูมิพลมีทีมอาจารย์ที่คอยดูเเลนิสิตในเรื่องของการเรียนเเละกิจกรรมค่อนข้างดีมากครับ
ความมีชื่อเสียงของอาจารย์คงเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากที่ภูมิพลก็เป็นโรงเรียนเเพทย์เช่นกัน
 เเละอาจารย์จำนวนมากก็เป็นใหญ่เป็นโตในประเทศเช่นเดียวกัน
ในเรื่องของการเรียน
การอยู่เวรค่อนข้างหนักพอสมควรครับ รับผู้ป่วยมากต่อคน
เเละเนื่องจากอยู่เเถบชานเมือง กรณีผู้ป่วยด้านศัลยกรรมฉุกเฉินเเละศัลยกรรมอุบัติเหตุ รวมทั้งออร์โธปิดิกส์
จึงทำให้มีผู้ป่วยเหล่านี้จำนวนมากต่อวัน
น้องมีโอกาสได้ทำหัตถการต่างๆมากมาย
เเต่ทั้งหลายทั้งปวง น้องเองเเหละครับที่จะพร้อมที่จะรับมันเเค่ไหน
มีห้อง manikin สำหรับการฝึกกับหุ่น ก่นทำกับคนไข้จริง
เป็นศูนย์ expert ในด้านศัลยกรรมอุบัติเหตุ อายุรกรรมโรคหัวใจ โรคไต โรคมะเร็ง
กรณีผู้ป่วยมักเป็นโรคที่พบบ่อยๆ เเละ ก็อาจมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหายากบ้าง rare case
เนื่องจากปัจจุบันคนไข้ที่มาทำการรักษาได้ถูกส่งต่อเข้ามารับการรักษา หรือบางครั้งก็ย้ายมาจากรพ เอกชน จำนวนมาก
มีเเพทย์เฉพาะทางเป็นอาจารย์ในเเต่ละรายวิชาได้อย่างครบถ้วน
เเพทย์ประจำบ้านหลากหลายมาจากหลายที่ ความรู้บางอย่างอาจต้องเลือกฟังเเละเลือกนำมาปฏิบัติ
อุปกรณ์ค่อนข้างทันสมัยพอสมควร ยกเว้นบางย่างที่คิดว่าอาจไม่คุ้มค่า
academic activity มีเกือบทุกวัน เเต่อย่างที่บอกเน้นการศึกษาของเเพทย์ประจำบ้าน
ในเเต่ละ conference นิสิตเเพทย์อาจต้องมีส่วนร่วมในการdiscussion ในกรณีผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
เนื้อหาต่างๆก็ค่อนข้างอัพเดทเช่นกัน
เเต่อาจมีสิ่งที่อาจารย์ได้ทำวิจัยเอง หรือได้ศึกษามาเอง มานำเสนอน้อยกว่าที่จุฬาฯมาก
เเต่ทั้งหลายทั้งปวง
ทุกอย่างขึ้นกับตัวน้อง

บางอย่างการอ่านหนังสือทั้งเล่ม อาจช่วยเหลือชีวิตคนไข้ไม่ได้ ถ้าน้องไม่เคยฝึก ไม่เคยเห็นด้วยตนเอง
เช่นเดียวกัน เกือบทุกอย่างน้องอาจช่วยเหลือคนไข้ได้ไม่ดีพอหรือไม่ได้ ถ้าไม่อ่านหนังสือ
เเละคนไข้อาจตาย หากเเพทย์ไม่มีความรับผิดชอบครับ
สุดท้ายไม่ว่าน้องจะเรียนที่ไหน ขึ้นกับตัวน้องทั้งนั้นเลยครับ

คงได้ประโยชน์บ้างนะครับ :D

Offline Pe@nut

  • *
  • 162
  • 18
Re: การเรียนปี 4-6 CPIRD v.s. กสพท
« Reply #5 on: January 23, 2009, 05:53:22 pm »
  เคยฟังจากเพื่อนๆ หลายคนชั้นปีแล้ว  อยากไปขึ้นคลีนิคที่รพ.  ศูนย์ จัง      เสียวจบมาแล้ว ทำอะไรไม่เป็นได้แต่ทฤษฎี 
โดยเฉพาะ   ตอนใช้ทุนนิสิ   ถ้าไม่ได้ทำ ได้แต่ดูแล้วจะทำได้จริงๆหรอ