Docchula Community

จบ ป.ตรีสายศิลป์ อยากต่อหมอ

yuk

 คือจบป.ตรีนิติมาค่ะ แต่อยากเีรียนหมอมากก 
ตอนอยู่ม.ปลายเรียนสายวิทย์ ไม่ได้จบ new tack มา
ไม่ทราบว่าตอนสมัครต้องทำไงบ้างค่ัะ

สามารถสอบรับตรง รึว่าต้องสอบ แกท แพทด้วยย  แล้วที่ไหนเปิดรับบ้างง รบกวนช่วยตอบทีค่ะ ^^


ปล. ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงง  :)

Offline KiaGz!~

  • Knight of Fourteen
  • *****
  • 5587
  • 74
สมัครสอบกับ กสพท. ประมาณเดือนสิงหาคมครับ
http://www9.si.mahidol.ac.th/
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กสพท. จัดสอบเอง
GAT PAT ก็ไม่จำเป็นต้องสมัคร

โครงการอื่นของจุฬาฯไม่น่าจะสมัครได้นะ
ของสถาบันอื่นก็ลองหาข้อมูลดูละกันครับ ^^"

yuk

สมัครสอบกับ กสพท. ประมาณเดือนสิงหาคมครับ
http://www9.si.mahidol.ac.th/
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กสพท. จัดสอบเอง
GAT PAT ก็ไม่จำเป็นต้องสมัคร

โครงการอื่นของจุฬาฯไม่น่าจะสมัครได้นะ
ของสถาบันอื่นก็ลองหาข้อมูลดูละกันครับ ^^"


แล้วถ้าสอบ กสพท.นี้ เราสามารถเลือกเอาที่ไหนก้อได้ใช่มั้ยค่ะ เหมือนสมัครสอบเช่นเดียวกับนักเรียนทั่วไปรึเปล่า
ขอบคุนมากน่ะค่ะ คุณ KiaGz!~  *_____*

Offline KiaGz!~

  • Knight of Fourteen
  • *****
  • 5587
  • 74
เลือกสถาบันไหนก็ได้ที่ร่วมกับ กสพท. เหมือนนักเรียนทั่วไปนั่นแหละครับ

JiinGz*

สมัครสอบกับ กสพท. ประมาณเดือนสิงหาคมครับ
http://www9.si.mahidol.ac.th/
ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กสพท. จัดสอบเอง
GAT PAT ก็ไม่จำเป็นต้องสมัคร

โครงการอื่นของจุฬาฯไม่น่าจะสมัครได้นะ
ของสถาบันอื่นก็ลองหาข้อมูลดูละกันครับ ^^"


แล้วคะแนนโอเน็ตอ่ะค่ะ ต้องใช้ด้วยป่าว  ???
ที่เค้ากำหนด 60 เปอร์เซนต์ เนี่ยคะแนนของอะไรบ้างหรอค่ะ

 :)

Offline KiaGz!~

  • Knight of Fourteen
  • *****
  • 5587
  • 74
Onet ไม่ต้องใช้ครับ

http://www.cotmes.org/FileUpload/2009/Meet42009.pdf

หัวข้อที่ 4.10 การสอบคัดเลือกเข้าเรียนวิชาแพทยศาสตร์ โดยวิธีรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทย์ฯ ปีการศึกษา 2553
รองศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิงนิศารัตน์ โอภาสเกียรติกุล รายงานที่ประชุมว่า
ได้มีการปรับเปลี่ยนประกาศการสอบคัดเลือกของปี 2553 จากปี 2552 บางส่วน
ประเด็นสำคัญคือ ผู้สมัครที่จบก่อนปีการศึกษา 2552 ได้รับการยกเว้น
โดย กสพท จะไม่นำคะแนน O-NET มาประกอบการพิจารณา

รองศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิงนิศารัตน์ โอภาสเกียรติกุล
จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณา และขอให้ทุกสถาบันแจ้งจำนวนรับนักศึกษาด้วย

ของปีที่ผ่านมานะ แต่ปีต่อ ๆ ไปก็คงไม่แตกต่างหรอกมั้งครับ"


JiinGz*

 ขอบคุณค่ะ ^^

จบ ป.ตรีสายศิสป์เหมือนกัน เรียนบริหารมา
แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่
เลยอยากลองสอบดู แต่ม.ปลายเรียนสายศิสป์มา
ไม่รู้ว่าจะรอดมั้ย

ต้องพยายามค่ะ :'(

Mutee

 สวัสดีเจ้าของกระทู้และคนที่เรียนจบแล้วอยากต่อหมอทุกคนครับ ผมก็อยากต่อเหมือนกัน จบ Econ มาครับ นี้ก็กำลังเตรียมตัวหาหนังสือมาทบทวน ถ้ากสพทใช้แบบเดิม ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ยังไงรบกวนขอ E-mail ไว้ด้วยได้ไหมครับ  เด็กจบตรีแล้วที่มีความฝันเหมือนกันครับ

Mutee

บางวันผมก็มีความฝัน
อยากเป็นปลาวาฬ  อยู่ในทะเลลึก สงบๆ
แต่แล้วก็ต้องตื่น ใช้ชีวิตไปตามปกติ
มีเบื่อบ้าง สนุกบ้าง  กับความเป็นจริงไป 

บางวันก็ฝัน อยากเป็นนก
ฝันอยากทำงานสงบๆในหุบเขาที่ดาร์จีลิ่ง
หรือโลซาน หรือพีเรนนีส
แต่ยังไงก็ต้องหยุดฝัน  ฝันทั้งวี่ทั้งวันคงไม่มีอะไรกิน   

หลังๆฝันน้อยลงแล้ว
กลัวเสียใจ  กับความจริง ถ้าเราไปยึดติดความฝัน....
ถ้าต้องเสียใจกับความจริง
น่าจะทรมานกว่าเสียใจจากความฝันเยอะนัก

 


  สวัสดีครับ ผมไม่ทราบว่าจะสื่ออะไรนะครับ  (เป็นคนแปลบทกลอนไม่เก่ง) แต่คิดว่าน่าจะหมายถึงให้ยึดกับความจริง ให้มากๆอย่าไปฝันมากทำนองนี้ (ถ้าผิดก็ขออภัย) ผมคิดว่ามันก็ไม่แปลกอะไรใช่ไหมครับที่คนเราจะมีฝัน การที่คนธรรมดาคนนึงฝันอยากเรียนแพทย์ มันไม่ได้ดูเกินจริงเหมือนฝันอยากเป็นปลาวาฬ หรือนกหรืออะไรนิครับ 

    อดีตก็คือการเลือกทางเดินผิดไป ตอนนี้เราก็หันกลับมาทวนอีกทีว่าเราอยากไปทางไหน แล้วก็เริ่มต้นใหม่เท่านั้น  ความฝันคงเป็นได้แค่ฝันถ้าขาดความพยายาม ตรงนี้ทราบดีครับ ว่าถ้าแค่ฝันแล้วไม่ลงมือทำมันก็ไร้ค่า

    ผมจบ Econ CU บอกตรงๆตอนเข้าไปเรียนไม่รู้ด้วยซ้ำเรียน econ ไปเพื่ออะไร เพราะตอนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองชอบสายไหน แต่ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตทำให้ผมทราบว่าผมอยากจะเรียนแพทย์ และตอนนี้ก็เริ่มอ่านหนังสือสอบไปบ้างแล้วด้วย ^^


      ยึดติดไหม!! ไม่ยึดติดครับ สอบได้ก็เรียนครับสอบไม่ได้ก็ดำเนินชีวิตของเราไป  ปีหน้าก็สอบใหม่ครับ  แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสอบครับ....
 
     คนหลายๆคนฝันอยากจะเป็นหมอ ในขณะที่คุณยืนตรงจุดนั้นแล้วอาจจะมองมาว่า คนที่ฝันจะมายืดตรงจุดที่คุณยืนนั้นมันเกินไป กลับไปอยู่ในโลกแห่งความจริงเถอะ อย่ามาฝันเลย อะไรทำนองนี้

    ซึ้งผมไม่เห็นด้วยครับ
   

บางวันผมก็มีความฝัน
อยากเป็นปลาวาฬ  อยู่ในทะเลลึก สงบๆ
แต่แล้วก็ต้องตื่น ใช้ชีวิตไปตามปกติ
มีเบื่อบ้าง สนุกบ้าง  กับความเป็นจริงไป 

บางวันก็ฝัน อยากเป็นนก
ฝันอยากทำงานสงบๆในหุบเขาที่ดาร์จีลิ่ง
หรือโลซาน หรือพีเรนนีส
แต่ยังไงก็ต้องหยุดฝัน  ฝันทั้งวี่ทั้งวันคงไม่มีอะไรกิน   

หลังๆฝันน้อยลงแล้ว
กลัวเสียใจ  กับความจริง ถ้าเราไปยึดติดความฝัน....
ถ้าต้องเสียใจกับความจริง
น่าจะทรมานกว่าเสียใจจากความฝันเยอะนัก

 


  สวัสดีครับ ผมไม่ทราบว่าจะสื่ออะไรนะครับ  (เป็นคนแปลบทกลอนไม่เก่ง) แต่คิดว่าน่าจะหมายถึงให้ยึดกับความจริง ให้มากๆอย่าไปฝันมากทำนองนี้ (ถ้าผิดก็ขออภัย) ผมคิดว่ามันก็ไม่แปลกอะไรใช่ไหมครับที่คนเราจะมีฝัน การที่คนธรรมดาคนนึงฝันอยากเรียนแพทย์ มันไม่ได้ดูเกินจริงเหมือนฝันอยากเป็นปลาวาฬ หรือนกหรืออะไรนิครับ 

    อดีตก็คือการเลือกทางเดินผิดไป ตอนนี้เราก็หันกลับมาทวนอีกทีว่าเราอยากไปทางไหน แล้วก็เริ่มต้นใหม่เท่านั้น  ความฝันคงเป็นได้แค่ฝันถ้าขาดความพยายาม ตรงนี้ทราบดีครับ ว่าถ้าแค่ฝันแล้วไม่ลงมือทำมันก็ไร้ค่า

    ผมจบ Econ CU บอกตรงๆตอนเข้าไปเรียนไม่รู้ด้วยซ้ำเรียน econ ไปเพื่ออะไร เพราะตอนนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองชอบสายไหน แต่ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตทำให้ผมทราบว่าผมอยากจะเรียนแพทย์ และตอนนี้ก็เริ่มอ่านหนังสือสอบไปบ้างแล้วด้วย ^^


      ยึดติดไหม!! ไม่ยึดติดครับ สอบได้ก็เรียนครับสอบไม่ได้ก็ดำเนินชีวิตของเราไป  ปีหน้าก็สอบใหม่ครับ  แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการสอบครับ....
 
     คนหลายๆคนฝันอยากจะเป็นหมอ ในขณะที่คุณยืนตรงจุดนั้นแล้วอาจจะมองมาว่า คนที่ฝันจะมายืดตรงจุดที่คุณยืนนั้นมันเกินไป กลับไปอยู่ในโลกแห่งความจริงเถอะ อย่ามาฝันเลย อะไรทำนองนี้

    ซึ้งผมไม่เห็นด้วยครับ
   


ที่พูดมาก็จริงครับ 
ผมเห็นด้วยกับคุณ
ขอให้โชคดี มีความสุขแล้วกันนะครับ

tiyapa

"บางวันผมก็มีความฝัน
อยากเป็นปลาวาฬ  อยู่ในทะเลลึก สงบๆ
แต่แล้วก็ต้องตื่น ใช้ชีวิตไปตามปกติ
มีเบื่อบ้าง สนุกบ้าง  กับความเป็นจริงไป 

บางวันก็ฝัน อยากเป็นนก
ฝันอยากทำงานสงบๆในหุบเขาที่ดาร์จีลิ่ง
หรือโลซาน หรือพีเรนนีส
แต่ยังไงก็ต้องหยุดฝัน  ฝันทั้งวี่ทั้งวันคงไม่มีอะไรกิน   

หลังๆฝันน้อยลงแล้ว
กลัวเสียใจ  กับความจริง ถ้าเราไปยึดติดความฝัน....
ถ้าต้องเสียใจกับความจริง
น่าจะทรมานกว่าเสียใจจากความฝันเยอะนัก"
...........................................................................

 ถ้าฝันจะเป็นแพทย์  ก็ขอให้ความฝันนั้นเป็นจริงนะคะ......
"คนที่มุ่งมั่น และชัดเจนกับเป้าหมายของตัวเองนั้น...ที่จะสามารถทำให้ความฝันเดินทางมาพบกับความจริง"

อยากเรียนต่อแพทย์ เหมือนกันค่ะ ...
ตอนนี้พึ่งเรียนจบค่ะ  เป็นเภสัชกร ตัวน้อยๆ อยู่ในโรงพยาบาลของรัฐบาลแห่งหนึ่ง 

ไม่สายไปใช่ไหมคะ  ที่พึ่งจะรู้ตัวเอง...

อ่านบทความกึ่งบทกลอนของคุณแล้ว  รู้สึกชอบจัง  อยากทักมาย ... ก็เลยตอบมาค่ะ ^^
ถ้ามีโอกาสคงได้รู้จักกันมากกว่านี้
เป็นกำลังใจให้ทำความฝัน เป็น ความจริง นะคะ  \(^o^)/

ไม่สายไปหรอกครับ ที่พึ่งจะรู้ตัวเอง
...
อาจจะเป็นเรื่องสำคัญ ที่มนุษย์พึงทำที่สุดแล้ว
ทุกวัน หรือควรจะพูดให้ถูกว่าทุกขณะจิต
สิ่งที่ผมอยากได้มากๆ ในใจคือ การรู้ตัวเอง
รู้ทัน ความคิด
ทันว่าความคิดเกิดจากความอยาก
รู้ทัน ความอยาก
ทันว่าความอยากเกิดจากความขาด
รู้ทัน ความขาด
ทันว่าความขาด เกิดจาก ภายในของเราเอง
มีไม่มี พอไม่พอ ล้วนมาจากจิตที่ไปสัมพัทธ์กับสิ่งรอบๆตัว ไม่ใช่สภาวะจริงเลย
...
ถ้ามีปลาวาฬมาบอกผมว่า ฝันที่คุณอยากเป็นปลาวาฬนั้น ไม่ได้ดีเด่อะไรหรอก
ถูกมนุษย์ไล่ล่าด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้จะอยากเป็นปลาวาฬน้อยลงไหม
แต่ผมจะรู้ก็คือ  มุมมองเรื่องอะไรดี ไม่ดี น่าใฝ่ฝัน
คนที่กำลังอยากเป็นอะไรกับคนที่เป็นอยู่จริงก็อาจจะ "ต่างกัน"
ผมคงแย่มากถ้าเที่ยวทำลายความฝันใครๆ
เพราะนั่นคงเป็นสิ่งสวยงามของเขา
นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขายังมีความหมาย ก็ได้มั้ง

Offline Relativity

  • *
  • 274
  • 16
  • - Publicity is a whore -
...
ทันว่าความคิด เกิดจาก ความอยาก
...
ทันว่าความอยาก เกิดจาก ความขาด
...
ทันว่าความขาด เกิดจาก ภายในของเราเอง
...

ผมรู้สึกว่า ตรรกะนี้มันดูแปลกๆ อยู่เหมือนกันนะครับ อ่านแล้วงงๆ ไม่กระจ่างเลย
โดยเฉพาะที่ว่า "ความคิด เกิดจาก ความอยาก" อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยครับ
ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายให้หน่อยสิครับ

ขอบพระคุณมากครับ     :-*
"If you will not fight for the right when you can easily win without bloodshed; if you will not fight when your victory will be sure and not too costly; you may come to the moment when you will have to fight with all the odds against you and only a small chance of survival. There may even be a worse case: you may have to fight when there is no hope of victory, because it is better to perish than to live as slaves."
----- Winston Churchill

...
ทันว่าความคิด เกิดจาก ความอยาก
...
ทันว่าความอยาก เกิดจาก ความขาด
...
ทันว่าความขาด เกิดจาก ภายในของเราเอง
...

ผมรู้สึกว่า ตรรกะนี้มันดูแปลกๆ อยู่เหมือนกันนะครับ อ่านแล้วงงๆ ไม่กระจ่างเลย
โดยเฉพาะที่ว่า "ความคิด เกิดจาก ความอยาก" อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยครับ
ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายให้หน่อยสิครับ

ขอบพระคุณมากครับ     :-*

ตัวอย่าง ตรงๆ ที่คุณคิดจะถามเนี่ยะ ก็เพราะ "อยากรู้" ใช่หรือเปล่า ;)

dh

ใครจาสอบ ก็มาคุยเป็นเพื่อนร่วมเดินทางสายนี้กันครับ treerasak4@hotmail.com  ผมก็จาสอบเหมือนกัน