ขอบคุณพี่หมอสำหรับทุกความคิดเห็นที่มีคุณค่าคับ ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะ อยากให้ doctorpuchong และพี่หมอ pipe MDCU 64 ได้ตอบให้ผมอีกคับ กับข้อมูลที่ผมจะให้เพิ่มเติมคับ หรือพี่หมอในชั้นปีสูง ๆ หรือที่จบและทำงานแล้ว
ทัศนคติในแง่ลบ สาเหตที่ทำให้ผมไม่ชอบอาชีพหมอคือ หมอเรียนหนัก ทำงานหนัก
ฮะๆ พี่แิอบคิดเหมือนเรานะ แต่หลังๆ เริ่มคิดว่า ความคิดนี้คิดเข้าข้างตัวเองอ่ะ ... ทำไมพี่ถึงคิดอย่างนี้ ?
ถ้าตัดสินว่า หมอ เรียนหนัก ทำงานหนัก เพราะ อ่านหนังสือหนาๆ ทำงานอดหลับอดนอน ?
พี่ว่าแต่ละคณะก็เรียนหนักเหมือนกันนะ
ถ้าเรียนนิเทศ ... การต้องท่องบทเอาเป็นเอาตาย ถ่ายแล้วถ่ายอีก
ถ้าเรียนครุ ... นั่งเตรียมการสอน ระหว่างสอนก็ต้องคิดว่าเด็กจะรู้เรื่องมั้ย หลังสอน เอ เด็กเค้าเข้าใจหรือเปล่า
ถ้าเรียนวิทย์กีฬาฯ ... สำหรับคนที่ไม่สันทัดกีฬา มันก็ยากนะ เค้าต้องฝึกฝนกันอีกนานเลยนะๆ
ดังนั้นพี่ว่า
เรียนคณะไหนก็ตามยากไม่เท่ากัน แต่ใช้ความพยายามเท่ากันสิ่งที่ดีของอาชีพหมอ หากผมจะเลือกเรียนคือ อาชีพมั่นคง เรียนจบหมอเท่ากับประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว และเร็วกว่าอาชีพอื่น ไม่ตกงาน อยากไดรับคำตอบว่าถ้าผมคิดแบบนี้คิดถูกต้องมั๊ยคับ
อืม ถ้าคำว่า "มั่นคง" ของน้อง คือ เรียนจบปุ๊ป มีงานรองรับปั๊ป อาชีพหมอก็ตอบโจทย์น้องได้
เดิมที่ผมก็ว่าจะเรียนวิศวะ แต่เพื่อนในห้องส่วนใหญ่จะเรียนต่อหมอกัน และผมก็เห็นคุณพ่อผมซึ่งจบวิศวะ จุฬา ก็ดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเท่าที่ผมอยากจะเป็น ปัจจุบันนี้คุณพ่อทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนเงินเดือนได้เดือนเว้นเดือน หรือหลายๆ เดือนจะได้ครั้งนึง และไม่คิดจะลงทุนทำอะไร เพราะการทำธุรกิจต้องใช้เงินทุน ขณะนี้ครอบครัวมีรายได้จากคุณแม่คนเดียวทำงานรัฐวิสาหกิจซึ่งมีรายได้ไม่มากคับ เท่ากับตอนนี้เรามีฐานะจนเหมือนกันคับ แต่โชคดีไม่มีหนี้สิน นี่ก็เป็นสาเหตุทำให้ผมลังเล ไม่แน่ใจในการที่จะเลือกเรียนคับ
ที่ถามว่าเราคิดถูกมั้ย ... คงตอบให้ไม่ได้
แต่อย่างที่ตอบไปตอนแรกๆอ่ะ (rep ของพี่เองอันบนๆ) ว่า
แต่ละคนมีภาพของตัวเองในอนาคตไม่เหมือนกัน, มีความจำเป็นไม่เหมือนกันบางคน ที่บ้านมีพร้อมทุกสิ่งอัน จะเรียนอะไรก็ได้ตามความสนใจ ตามความสามารถ
บางคน อาจมีภาระที่บ้านอยู่ การเลือกอาชีพที่สามารถมาจุนเจือครอบครัวได้ ก็เป็นตัวกำหนดการเลือกอาชีพของน้อง (ป่ะ?)
งั้นขอถามกลับว่า
"อะไรที่เป็นเครื่องตัดสินของเรา่ว่า ... จะเรียนคณะอะไร"เครื่องมือนั้น คือ ความมั่นคงในอนาคต จบมาเลี้ยงดูที่บ้านได้, ได้เรียนในสิ่งที่ัรัก ?
ถ้าหามันเจอ
นั่นแหละจะเป็นคำตอบว่าเรา(มีแนวโน้ม)จะไปเรียนคณะอะไรและถ้าผมจะเรียนหมอผมก็รู้สึกมีเงื่อนไข เช่น อยากอยู่หอพักดี ๆ คนเดียวเพราะจะได้ไม่เหนื่อยมาก ไม่เสียเวลาเดืนทาง หรืออยู่คอนโดดีๆ ใกล้คณะเพื่อผมจะได้มีแรงจูงใจเรียนคิดประมาณนี้นะคับ ถ้าจะเรียนหมอก็อยากได้แบบนี้ ในความคิดพี่ ๆ หมอคิดเห็นอย่างไรคับ
ไอ้อารมณ์ที่
อยากได้อะไรเมพๆ ไม่แปลกนะ พี่ก็อยากได้ ใครๆ ก็อยากได้
แต่สำหรับพี่ มันไม่มีผลขนาดนั้นอ่ะ ว่าแต่... สำหรับเรามันมีผลแค่ไหนกันละเนี่ย ^^"เคยถามตัวเองเล่นๆ มะว่า
ถ้าติดหมอ + ได้อะไรเมพๆ ---> จะเรียน
ถ้าติดหมอ + ได้อะไรไม่เมพมาก ---> จะเรียนหรือเปล่า ?
ถ้าเรียนวิศวะ อยากได้อาชีพมั่นคงก็คงต้องไปทำงานรัฐวิสาหกิจ ราชการ ซึ่งเงินเดือนน้อยคับ อายุเท่าไรจะตั้งตัวมีทุกอย่างให้ครอบครัวได้อย่างมีความสุขคับ และต้องเลี้ยงดูพ่อแม่อีกคับ มีพี่รหัสเรียนหมอขึ้นปี 2 ตอนปีหนึ่งที่จบได้เกรด 2.7 ซึ่งทราบมาว่าตอนต้ดสินใจก็ไม่ชอบเรียนหมอ ผลการเรียนบอกได้มั๊ยคับว่านี่คือผลของการไม่ขอบเรียนหมอ อย่างนี้ถ้าขึ้นไปเรียนปี 2 3 พี่เค้าจะได้เกรดเหลือเท่าไหร่ เพราะเรียนยากขึ้นอีก
ขอบคุณสำหรับพี่หมอ ๆ ที่เข้ามาตอบคับ
เกรดปี 1 ไม่ reflect ความชอบ ความเหมาะสมกับวิชาชีพแพทย์ เพราะ ปี 1 ยังแทบไม่ได้สัมผัสอะไรที่เป็นแพทย์เ้ลย
เพื่อนพี่คนนึงเกรดปี 2 เกือบทะลุเพดาน แต่ตอนปี 1 เกรดก็กลางๆของคณะอ่ะ
ซึ่งบางคนเนี่ยเข้าปี 1 มา ยังปรับตัวไม่ได้, ยังไม่รู้วิธีการเรียนที่เหมาะสมอะไรงี้ หรือ คิดว่าจะชิวเพื่อฉลองการสอบได้อ่ะ
อย่างที่บอกไปแล้วอ่ะ กว่าเราจะรู้จริงๆ ว่าคณะนั้น อาชีพนั้น เป็นไงต้องรอปีโตๆ
แต่คนเราคงมาลองเรียนกันนานขนาดนั้นไม่ได้ แนะนำว่า
วิธีที่จะทำให้น้องรู้จักกับแต่ละคณะดีขึ้นการฟัง ... ฟังจากคนที่เรียนอยู่ตอนนี้ , คนที่เคยเรียนที่นั้น แต่อย่าลืมว่า แต่ละคนมี bias นะๆ อย่าลืมสังเกตว่า คนที่ให้ข้อมูลเนี่ย เป็นมนุษย์ CONC, Activist
การเข้าไปสัมผัส ... ตอนคณะไหนมี open house รีบไปดูๆ เดินๆ ซะ มีรุ่นพี่หลากหลายให้ถาม มีบรรยากาศในคณะให้เห็น
และสิ่งที่(บางคน)ไม่ค่อยทำ คือ เข้าเว็บไซต์ของคณะนั้นๆ ไปดูหลักสูตร ไปดูกันเลยว่า เราจะได้เรียนรู้่อะไรบ้างตลอดเวลาที่ศึกษาในคณะนั้นๆ
บางทีดูชื่อวิชาแล้วไม่เก็ท ก็ดูคำอธิบายรายวิชาอะไรงี้ น้องจะได้รู้กันจริงๆ ว่าเค้าเรียนอะไร
เลือกคณะที่ตรงใจตัวเอง และเหมาะสมที่สุดละกัน
เป็นกำลังใจให้