ผมเป็นนสพ.ปี 6 นะครับ ก็ขอให้ความเห็นในระดับที่ผมให้ได้ละกัน
(เพราะเห็นคุณแม่ถาม"ว่าที่คุณหมอ"ด้วย)
"ไม่ชอบเป็นหมอเพราะเรียนหนัก ไม่มีเวลาเป็นของตนเอง นอนน้อย เครียด เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่"
เรียนหนักไหม ผมคิดว่าไม่ได้หนักไปกว่าคณะอื่นๆ เท่าที่ผมคุยกับเพื่อนมา เวลาเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนมัธยม ผมว่าเรียนหมอสบายกว่าอีก
ไม่มีเวลาเป็นของตนเอง จริงและไม่จริง ขึ้นกับคนครับ ผมรู้สึกว่า 6 ปีนี้ ผมมีเวลาพอ และเหลือไปพักผ่อนหายใจทิ้งด้วย ที่จริง
ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะใช้เวลาอย่างไร ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า
นอนน้อย เครียด ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองเหมือนกันครับ ว่าตั้งเป้าไว้ขนาดไหน ถ้าเอาตัวเองเป็นเกณฑ์ ผมว่าผมก็ไม่ใช่คนขี้เกียจนะ
อ่านหนังสือพอสมควร พักผ่อนบ้าง ผมนอนน้อยจริง เพราะเล่นเน็ต

แต่ไม่เครียดมากนะครับ
แต่ที่ว่ามาทั้งหมด นั่นคือตอนที่เรียนอยู่ครับ พอจบไปเป็นหมอแล้วจะเป็นยังไงนั้น มีหลายตัวแปรมากๆ เช่น ไปใช้ทุนที่จังหวัดไหน ฯลฯ
จากที่เคยไปวิชาเลือกที่อุบลฯ มีบางครั้งต้องดูคนไข้เอง อยู่เวรคนเดียว คิดว่าตอนนั้นน่าจะใกล้เคียงการเป็นหมอจริงๆมากที่สุดแล้ว
งานหนักและเครียดพอสมควร เพราะเรากำลังทำกับชีวิตคนอยู่ บางครั้งเสียคนไข้ไป ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า เป็นเพราะผมดูไม่ดีหรือเปล่า
ทำยังไง คิดยังไง ให้เครียดในระดับที่เหมาะสมนั้น ... อาจต้องฝึกฝนจิตใจกันบ้าง ซึ่งก็พอมีแนวทางอยู่นะครับ แต่ยังไม่พูดถึงดีกว่า
ส่วนเรื่องนอนน้อย ไม่มีเวลา ก็มีบ้าง เพราะต้องอยู่เวรทุกๆ2-3วัน วันไหนคนไข้เยอะ ก็ไม่ได้นอนทั้งคืนก็มี แต่บางวันได้นอนตั้งแต่หกโมงเย็นก็มี
แต่ก็อย่างที่คุณแม่ว่า หลังจบไป เรามีทางเลือกได้หลากหลายมากจริงๆ รอผู้รู้กว่านี้มาแจกแจงดีกว่าครับ
โดยส่วนตัว ตอนที่ผมสอบเข้ามา ผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมจะชอบเรียนหมอรึเปล่า ยิ่งเป็นหมอยิ่งไม่เห็นภาพว่าจะเจอกับอะไรยังไง
หกปีที่ผ่านมา ผมพอใจมากกับการเรียนหมอ และคาดว่าจะพอใจกับการเป็นหมอเช่นเดียวกัน ผมคิดว่าผมเลือกไม่ผิด
มีบ้างเหมือนกัน ที่รู้สึกว่า เอ ถ้าตอนนั้นเรียนวิดวะคอมอาจจะรุ่งกว่านี้ จะสนุกกว่านี้ แต่นั่นแหละถ้าได้เรียนจริงๆ ผมอาจไม่พอใจก็ได้
สำหรับผมตอนนี้มันไม่สำคัญว่าถ้าย้อนกลับไปได้จะเลือกอะไร แต่ผมพอใจและคิดว่าจะทำให้ดีที่สุดกับสิ่งที่มีอยู่
แต่สำหรับน้องที่เพิ่งเข้ามา ปีสองปี ผมว่ามันก็ไม่ผิดเหมือนกัน ถ้าจะกล้าพอที่จะย้อนกลับไปเริ่มใหม่
จะทำยังไงดีผมบอกไม่ได้จริงๆครับ คงต้องให้คุณแม่และน้องร่วมกันตัดสินใจ
ยังไงทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของว่าที่หมอด้อยประสบการณ์ชีวิตคนหนึ่ง
ที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าคนเรามีความพอใจได้กับทุกสิ่งที่เรามีและไม่มี
บางครั้งชีวิตก็วางแผนไม่ได้ สุดท้ายเราอาจจะไม่ได้ร่ำรวย เก่ง ฉลาด
แต่ถ้าอยู่ในลู่ทางที่ถูกที่ควร ชีวิตจะลงเอยโดยดีเอง
ยังไงก็รอความเห็นอ.ภุชงค์เพิ่มเติมนะครับ
คุณแม่เองก็อย่าเครียดมากนะครับ