อยากเรียนหมอ แต่ไปอ่านบทความมาแล้วหมดกำลังใจ

[frame]

คือว่าหนูมีแรงบันดาลใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าหนูอยากเป็นหมอ ถึงหนูจะไม่เก่ง ถ้าเราไม่ท้อไม่กลัวอุปสรรคและขยันจริงๆหนูเชื่อว่าอาจจะพอมีสิทธิ์ แต่แล้วเมื่อรืนไปอ่านบทความหนึ่งมา หนูเชื่อว่าพี่ๆบางคนอาจเคยอ่าน ที่เกี่ยวกับหมอคนหนึ่งทำผ่าตัดให้คนไข้ แล้วดันติดเชื้อโรคเอดส์ จากเข็มอะไรสักอย่าง T^T มันทำให้หนูกลัวเลย เพราะหมอคนนั้นเค้าก็กินยาที่ป้องกันโรคแล้ว แต่ก็ยังเป็น หนูเคยคิดว่าถ้าได้เป็นหมอคงต้องเสียสละตัวเอง ให้กับคนไข้ เสียสละเวลาต่างๆที่คนอื่นมีแต่เราไม่สามารถ แต่นี่ต้องเสียสละชีวิตด้วยเลยหรอ หนูอยากเป็นหหมอไม่ใช่เพราะเงินนะค่ะ หนูชอบเรียนในลักษณะของหมออะค่ะ แต่ทำใจไม่ได้กับบทความอันนั้น ไม่รู้คนอื่นแต่งขึ้นมาให้ไซโครึป่าว แต่หนูเชื่อว่าเรื่องแบบนีก็คงต้องมีกันบ้าง เพราะส่วนตัวเป็นคนซุ่มซ่าม จริงๆหนูอาจจะสอบไม่ติดก็ได้ แต่ยังไม่สอบก็ยังไม่รู้ หากแต่มาหมดแรงบันดาลใจ มันก็เหมือนไร้ทางเดิน พี่ๆช่วยชี้แนะหนูหน่อยนะค่ะ T^T หนูอยากเป็นหมอจริงๆ หนูอยากช่วยคนแต่ไม่อยากเป็นแบบบทความอะ



อ้อ นอกเรื่อง เป็นหมอได้ไป ต่างประเทศบ่อยมั้ยค่ะ พอดีหนูเป็นชอบอังกฤษ ชอบไปประเทศนู้นนี้ด้วย 555 แต่ก็อยากเป็นหมอ รู้สึกมันจะคนละขั้วเลย

[mini]

เราก็เคยได้ยินมาว่ามีกรณีแบบที่ จขกท. บอกเหมือนกัน

( ในซี่รี่ย์เกาหลีอ่ะมีบ่อยเลย  เรื่องที่เกี่ยวกับหมออ่ะ มีประจำ แบบที่ หมอกำลังผ่าตัด แล้วเลือดคนไข้ดันพุ่งเข้าตา หรือมีดที่ผ่าคนไข้ดันบาด ไรงี้ แล้วนางเอกก็จะปลอบใจพระเอกว่า "ไม่เป็นไรนะคะ มันมีโอกาสติดเชื้อแค่0.4เปอร์เซ็นต์เอง (อันนี้มาจากในหนังไม่รู้ว่าจริงอ่ะป่าว 555+) คุณต้องปลอดภัย เอิ๊กกกก "แล้วสุดท้ายพระเอกก็ไม่เป็นอะไร และรักกับนางเอกในที่สุด   เอิ๊กก55+ ก็ประมาณนี้

ปล. อาชีพทุกอยางมันก็ย่อมมีความเสื่ยงตลอดอ่ะนะ  ถึงมันจะเสี่ยงเราก็ยังอยากเป็นอยู่ดี  สู้ๆ จร้าาา  
ปล.2 เราเคยไปฝึกงานที่โรงพยาบาล แล้วมีพี่พยาบาลคนนึงเล่าให้ฟังว่า มีคุณหมอที่ทำเข็มจิ้มมือตัวเอง (เข็มนั้นเป็นของคนไข้ HIV) แต่คุณหมอคนนั้นเค้าก็ไม่ได้เป็นอะไร  ปกติดี อ่ะนะ

[pipe64]

สมัยก่อนพี่คิดแบบน้องนะ แต่ ณ จุดนี้เปลี่ยนไป เพราะ เรียนมาหลายปีแล้วก็คงต้องเรียนต่อไป
อีกอย่าง มีข้อมูลที่คนภายนอกอาจจะไม่รู้

ถ้าเข็มตำหนึ่งครั้ง มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อยู่ในปริมาณที่มากกว่า ไวรัสเอชไอวี (HIV) เสียอีก
เพียงแต่ว่า เรามักกลัว HIV กันมากกว่า เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด

 

[เด็กสอวน.ชีวะ]

เราอยากเป็นหมอเพราะ?ถามตัวเองรึยังอ่า ถ้าเป็นแล้วกลัวหรือคิดว่าไม่คุ้มจะเป็นไปทำไมครับหาอะไรที่มันสบายๆทำสิ หมอคืออาชีัพที่ต้องรักษาคนไข้นะครับไม่ใช่นั่งเซ็นเอกสารหมอเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงต้องรักจริงๆอะครับ ผมยังอยากเป็นเลยผมอยากไปลุยต่างประเทศโดนโรคต่างๆด้วยตัวเองหาวิธีรักษาเองใครไม่รักษาไม่รู้แต่เราต้องทำให้ได้ เพื่อคนส่วนมากนะครับท่องเอาไว้ ไม่ใช่ห่วงความปลอดภัยตัวเอง(ห่วงอะห่วงได้)ถ้าเป็น HIVตายแต่ได้มาซึ่งวิธีรักษาผมก็ยอมครับ
เอาตามความคิดผมนะครับใครที่คิดว่าหมอเรียนหนัก 6 ปี แล้วจะสบายมันแทบไม่มีหรอกครับ หมอคืออาชีพที่ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตหมอคือผู้ที่รักษาชีวิตผู้คน
ถ้าคุณอยากเป็นหมอแล้วคิดถึงเรื่องแบบนั้นก็อย่าเป็นเลยครับ


ปล.ไม่ได้หาเรื่องนะครับมันไปตามความรู้สึกจริงๆเพราะผมก็อยากเป็นหมอเหมือนกัน


สู้ๆเพื่อ MDCU68

[Nosferatu]

จริงๆความเสี่ยงมันก็มีทุกอาชีพแหละนะพี่ว่า

เราก็พยายามใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท แต่บทจะไปก็ต้องไปอยู่ดี



อย่างถ้าน้องไม่เรียนหมอ เป็นอาชีพอื่น น้องก็ยังคงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุอื่นๆได้อยู่ดี
ไม่ได้แช่งนาา แต่อย่าซีเรียสไปเลยค่ะ

[~i love da sea~]

มีสติ อยู่กับปัจจุบันนะคะ

แล้วจะดีเอง

[Rose_joker]

ลองหาๆดูไปเจอว่า...
The average risk of HIV infection after a needlestick or cut exposure to HlV-infected blood is 0.3% (i.e., three-tenths of one percent, or about 1 in 300).  Stated another way, 99.7% of needlestick/cut exposures do not lead to infection.
ตัวเต็มอ่านได้ที่ http://www.cdc.gov/ncidod/dhqp/pdf/bbp/Exp_to_Blood.pdf
โอกาสดูน้อย แต่ถ้าติดจริงๆก็คงไม่ดีแน่ๆ
 

[125 66]

เมื่อเรียนจบ เราสามารถเลือกได้ครับว่าจะเป็นหมอแบบไหน

จะไปรักษาคนไข้โรคติดเชื้อ
ไปผ่าศพแบบหมอพรทิพย์
ไปทำงานวิจัยพัฒนาวัสดุปิดแผล
ไปเป็นหมอประจำโรงพยาบาลต่างจังหวัด
หรือไปบริหารในกระทรวงสาธารณสุข

เลือกได้ครับ

[เจ้าของกระทู้]

ขอบคณฯพี่ๆที่ให้คำแนะนำดีๆนะค่ะ อ้อขอบคุณ เด็ก สอวน ชีวะด้วยนะ มนุษย์ย่อมมีความกลัวกันทุกคน หากแต่จะกลัวเรื่องอะไร เท่านั้นเอง ขอบคุณนะค่ะ ที่ปลุกให้เราสู้ต่อไป และจะเป็นหมอให้ได้ !!! - -

[เด็กสอวน.ชีวะ]

สู้ๆเช่นกันครับผมก็เอาแต่พูดจริงๆผมก็กลัวเหมือนกัน ผมกลัวการสอบไม่ติด เกี่ยวมั้ย?หวังว่าเราจะได้เจอกันในจุฬาฯ