ขอตอบสำหรับส่วนของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช นะครับ
หน่วยงานที่รับผิดชอบการเรียนการสอนชั้นคลินิก คือ กองแพทยศาสตรศึกษา
ซึ่งจะดูแลเรื่องการอบรมต่อแพทย์เฉพาะทางและเฉพาะทางต่อยอดด้วยครับ
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลสังกัดกรมแพทย์ทหารอากาศ
กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม ขนาด 700++ เตียง (อันนี้ไม่แน่ใจครับ)
ที่ตั้งอยู่ในเขตสายไหม จัดเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณกรุงเทพฯ ตอนบน
ที่นี่เปิดสอนนิสิตชั้นคลินิกมาได้ 21 รุ่น (จบไปแล้ว 19 รุ่นครับ) และเปิดอบรมเฉพาะทางด้าน
อายุรศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาโรคไต โรคหัวใจ และทางเดินอาหาร) ,
ศัลยศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาศัลยศาสตร์อุบัติเหตุ) ,
กุมารเวชศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาทารกแรกเกิด) ,
สูตินรีเวชศาสตร์ (มีต่อยอดสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารก มะเร็งนรีเวช) ,
โสต ศอ นาสิก , ออร์โธปิดิกส์ , เวชศาสตร์ฉุกเฉิน , ประสาทศัลยศาสตร์ , เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชบำบัดวิกฤติ
เดิมนิสิตที่มาเรียนที่นี่จะเป็นโครงการ New Tract จบป.ตรีสาขาอื่นแล้วมาต่อแพทยศาสตรบัณฑิตอีก 5 ปี
ภายหลังยกเลิกเปลี่ยนเป็นนิสิต CPIRD ทั้งหมด ปีละเกือบ 30 คนครับ
โรงพยาบาลภูมิพลฯ มีอาคารใหญ่ 1 อาคาร คือ อาคารคุ้มเกล้าฯ มี 13 ชั้น แต่ละชั้นมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ เป็นทั้งหอผู้ป่วย ห้องตรวจผู้ป่วยนอก
ห้องปฏิบัติการ ห้องถ่ายภาพรังสี ห้องสมุด ห้องฉุกเฉิน ห้องอุบัติเหตุ ห้องคลอด ห้องผ่าตัด สำนักงานแต่ละกอง ฯลฯ อยู่ในนี้ครบ
และมีอาคารหอพักแพทย์ 7 ชั้น อยู่ใกล้ๆ อาคารคุ้มเกล้าฯ ชั้นล่างเป็นที่ตั้งของกองแพทยศาสตรศึกษา และห้องเรียน ชั้น 2-7 เป็นห้องพักของ
อาจารย์แพทย์ แพทย์ประจำบ้าน และนิสิตแพทย์ ห้องพักอยู่ห้องละ 2 คน มีห้องน้ำในตัว เครื่องทำน้ำอุ่น ไฟฟ้า น้ำประปา อินเตอร์เน็ต ทั้งหมดนี้
ไม่เสียค่าห้อง หรือค่าอุปโภคใดๆ ครับ มีเตาไมโครเวฟและตู้เย็นรวมให้ในห้องนั่งเล่นแต่ละชั้นครับ (สามารถนำตู้เย็นมาเองได้เหมือนกัน แต่ต้อง
กำหนดขนาดไม่เกิน 5.5 คิว) และแต่ละชั้นจะมีห้องส่งเสื้อผ้าสำหรับซักรีดครับ
โรงอาหารอยู่ด้านข้างอาคารหอพักแพทย์ 1 แห่ง , อยู่ชั้น 4 ของอาคารโภชนาการตรงข้ามอาคารหอพักแพทย์ 1 แห่ง ,
อยู่ในสโมสรนายทหารชั้นสัญญาบัตรใกล้ๆ กันอีก 1 แห่ง และมีตลาดนัด สวนสุขภาพด้านหลังโรงพยาบาลครับ
ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก ก็มีชุมชน มีร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า วัด โบสถ์ มัสยิดครับ
การเดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ มีรถตู้และรถเมล์ผ่านหลายสาย ใช้เวลาเดินทางถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 30 นาที - 1.30 ชม. ครับ
(แล้วแต่ช่วงเวลาและการยานพาหนะในการเดินทาง)
การเรียนการสอน ส่วนมากจะเรียนที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช มีอาจารย์จากกองเวชศาสตร์ป้องกัน และ สถาบันเวชศาสตร์การบิน มาเสริมบ้าง
และในแต่ละวอร์ด จะมีวนไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลจันทรุเบกษา กำแพงแสน 5 วันครับ (เป็นไปตามข้อกำหนดของ CPIRD ที่ต้องส่งไปปฏิบัติงาน
ในต่างจังหวัดด้วย) รูปแบบการเรียนการสอนก็มีทั้ง Lecture หรือ Round Teaching เหมือนกับศูนย์อื่นๆ ครับ
อาจารย์ ที่สอนคืออาจารย์ที่เป็นแพทย์ของโรงพยาบาลครับ เกือบทุกท่านเป็นทหารอากาศ และแปลกที่ไม่นำหน้าว่า นพ. หรือ พญ. แต่จะนำหน้า เช่น
น.อ. หรือ น.อ.หญิง (นาวาอากาศเอก / นาวาอากาศเอกหญิง) ครับ อาจารย์จะรับผิดชอบหน้าที่ทั้งราชการทหาร การตรวจรักษาคนไข้
การสอนแพทย์ประจำบ้านและนิสิตแพทย์
ผู้ป่วย มีจำนวนเพียงพอต่อการเรียนรู้และฝึกฝนที่จะทำหัตถการครับ ความยากของเคสก็มีระดับหนึ่ง เพราะเป็นสถาบันที่เปิดอบรมแพทย์ประจำบ้านด้วย
ถึงจะไม่ยากเท่าในโรงเรียนแพทย์ แต่ก็คิดว่ายากเพียงพอสำหรับนิสิตแพทย์ครับ
ผู้ร่วมงาน ที่นี่มีนักเรียนพยาบาลทหารอากาศจากวิทยาลัยพยาบาลกองทัพอากาศ , นักศึกษาพยาบาลจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ,
นักเรียนจ่าอากาศเหล่าทหารแพทย์จากโรงเรียนจ่าอากาศ , นักศึกษากายภาพบำบัด-โภชนาการ จากจุฬาฯ และมหิดล มาเรียนด้วยกันครับ
ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติม จะมาตอบให้อีกครับ