นี่เองครับ ที่ทำให้รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ไม่คิดผิด ที่เรียนสายนี้
สายฝรั่งเศสเราอบอุ่นมากๆ แม้กระทั่งสายศิลป์ฝรั่งเศสคนละโรงเรียน
ถ้าบังเอิญได้เจอกัน แล้วรู้ว่าเรียนสายเดียวกัน ก็จะรักและสนิทกันทันที
มีอันได้ติดต่อเป็นเพื่อนกันต่อไปทุกคนไป

สังเกตว่าแม้แต่อาจารย์ของพวกเรา ท่านแทบจะรู้จักอาจารย์ที่สอนภาษาฝรั่งเศสด้วยกัน
ทั่วทั้งภูมิภาคที่ ร.ร.ตั้งอยู่ทีเดียว แล้วบรรดาอาจารย์ท่านก็มีเครือข่ายที่เหนียวแน่นมาก
และคงด้วยสายใยนั้นเองที่ชักนำให้พี่เมตตาให้คำแนะนำอันมีค่านี้แก่น้อง
แต่จะว่าไปจริงๆแล้ว คณะวิทยาศาสตร์สายสุขภาพๆอื่น
ไม่รู้สึกสนใจจะเรียนเลยอ่ะครับ ไม่ว่า พยาบาล,เภสัช,เทคนิกการแพทย์ ฯลฯ
ที่สำคัญ new tract ซึ่งมีเปิดอยู่เพียงสถาบันในปัจจุบัน แห่งหนึ่งดูเหมือนมีข้อแม้
ว่าต้องรับราชการในกระทรวงสาธารณสุขมาก่อนไม่น้อยกว่าสองปีอ่ะครับ
อีกแห่งให้บุคคลทั่วไปสอบได้ แต่ถ้าหากมีข้าราชการสอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
เขาก็จะรับข้าราชการก่อน แม้ว่าเราจะได้คะแนนสูงกว่าก็ตาม
ทำให้ผมมองว่ามันยากทีเดียวเลยครับ เพราะไม่อยากจะทนเรียน
ในคณะที่ไม่ได้อยากเรียนถึงสี่ปี เพื่อที่จะใช้เป็นทางผ่าน
แล้วยังต้องไปทนรับราชการในหน้าที่ซึ่งเราไม่ได้คิดฝันจะทำอีกสองปี
เพื่อเป็นทางผ่าน ดูเหมือนหนทางมันช่างยาวไกลเหลือเกินครับ
สำหรับที่สนใจทางเลือก กศน. เป็นพิเศษ เพราะเคยมีนักเรียน กศน. เรียนแพทย์จบมาได้
ก็แล้วเราได้ผ่านวิทย์คณิตพื้นฐานมาทั้งม.ปลายสายศิลป์
และที่ไปเรียนกศน.อีก ย่อมไม่โชกโชนกว่าอีกหรือครับ
อีกอย่างยังไม่เคยพบเลยว่ามีเด็กจบสายศิลป์สอบเข้าหรือมีใครเคยเรียนแพทย์ได้เลยครับ
อีกทั้งเป็นหนทางที่พบว่าเคยมีผู้ตัดสินใจเดินมามากแล้ว
ในการไปเรียนเอาวุฒิกศน. เพิ่ม หลังเรียนจบม.6
แต่ยังไม่อาจสืบทราบได้ว่า นำเขาเหล่านั้นไปสู่ความสำเร็จหรือไม่
สำหรับที่ความคิดที่อยากจะเรียนมนุษย์ศาสตร์ก่อน พร้อมเรียนกศน.ไปด้วย
นอกจากเสียดายฝรั่งเศสที่อุตส่าห์เรียนมา และสนใจที่อยากจะเรียนต่อด้านนี้เพิ่มเติมแล้ว
เป็นเพราะไม่ว่าคณะแพทย์จะรับเด็กศิลป์หรือไม่ก็ตาม คงไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่
แต่ปัญหาคือตัวเราเองคงไม่อาจสั่งสมความรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ได้เพียงพอ
ที่จะสอบเข้าเรียนแพทย์แข่งกับคนอื่นๆได้ ภายในชั่วระยะเวลาหนึ่งปีที่เหลืออ่ะครับ
เลยคิดว่าค่อยเก็บๆ ไประหว่างเรียนปริญญาตรี แบบสบายๆ
แล้วไปสอบเข้าเรียนใหม่อีกรอบเอาดีไหม
พูดอย่างนี้ก็มีคนบอกว่า ถ้าชอบภาษาจะไปเรียนแพทย์ได้ยังไง
มันคนละเรื่องกัน พวกนี้มันมีจินตนาการสูง 5555+
ก็ตลกมากเลยอ่ะครับ ถ้าเป็นศิลปกรรมศาสตร์ก็ว่าไปอย่าง
มนุษย์ศาสตร์ไม่ได้สอนให้เราผลิตงานศิลปะ ให้ไปเป็นศิลปินหรือกวีซักหน่อย
จะมีความเกี่ยวข้องบางก็แค่ เขาสอนวรรณคดีซึ่งมีฐานะเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง
แต่วรรณคดีก็มีเนื้อหาลุ่มลึกหลากมิติ ยิ่งกว่างานศิลปะอื่นๆ
เรียงความทางวิทยาศาสตร์สมัยโบราณ ที่มีสำนวนภาษาไพเราะ
ยังเอามาสอนในฐานะเป็นวรรณคดีเลย และหากจะเทียบกับงานศิลปะอื่น
ที่ใช้อารมณ์ในการสร้างสรรค์และเข้าถึง วรรณคดีกลับเป็นศิลปะ
ที่ต้องใช้ปัญญาในการสร้างสรรค์และเข้าถึงมากที่สุด เช่นวรรณกรรมเชิงปรัชญาฝรั่งเศสของเรา
555+ แต่ก็คงไม่ถึงกับที่อาจารย์สอนภาษาอังกฤษบางท่าน
บอกว่าการอ่านกวีนิพนธ์ ก็ฝึกฝนสมองไม่ต่างจาการเรียนคณิตศาสตร์
เพราะมองยังไงๆ มันก็คนละเรื่องกันอยู่ดี
เอาเข้าจริงๆแล้ว กวีที่มีชื่อของตะวันตกหลายประเทศในสมัยก่อน
ที่เป็นแพทย์กันก็ยังมี แม้ในปัจจุบันก็ย่อมต้องมีแพทย์ที่มีความสนใจส่วนตัว
ในขอบเขตของมนุษยศาสตร์ เช่น ปรัชญา ประวัติศาสตร์ วรรณคดี ฯลฯ อยู่แน่นอน
องค์อุปถัมภ์การศึกษาภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย
พระองค์ท่านก็ทรงมีคุณวุฒิทางการศึกษาเป็นปริญญาตรีวิชาเคมี
แต่ได้ทรงงานเป็นพระอาจารย์สอนวิชาภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศสในระดับอุดมศึกษามายาวนาน
ส่วนพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ก็เคยทรงศึกษาด้านการทหารเรือ
มาก่อนที่จะได้ทรงศึกษาวิชาแพทย์ในภายหลัง
คือที่พูดมายาวยืด แค่อยากจะบอกว่า
ทำไมการเรียนข้ามสายมันจะเป็นไปไม่ได้อ่ะครับ
ที่สำคัญพี่ niemand ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
และพี่ก็เป็นไอดอลของผมเลยครับ หุหุ
ไม่ใช่แค่ได้ทำสิ่งที่ทำได้โดยยาก ในการเรียนข้ามสาย
แต่รวมถึงการตัดใจจากคณะอักษรศาสตร์ด้วย
เข้าใจเลยครับ ว่ามันเป็นฝันของเด็กศิลป์ทุกคน
"แต่พี่ก็รั้นขอลองหน่อยเหอะ สักครั้งในชีวิต"
อารมณ์นี้เลยครับ 555+
ตอนนี้ก็กำลังสับสนในชีวิตครับ
ว่าจะเอายังไงกลับชีวิตน้อยๆ ของตัวเองดี
จะทุ่มเทอ่านฝรั่งเศสและอังกฤษต่อไป
ด้วยอุดมการณ์ที่จะเรียนในคณะมนุษยศาสตร์
สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อที่จะได้เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ 555+
หรือจะทิ้งวิชาเหล่านั้นไปเลย และเริ่มต้นทุ่มเทเพียง
กับเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ เพื่อมุ่งมั่นจะเข้าคณะแพทย์ศาสตร์อย่างเดียว
ข้อสงสัยที่ว่า "สมัครได้มั้ย หรือถ้าสมัครได้ สอบได้ คณะจะรับมั้ย"
มีประโยชน์มหาศาลในการตัดสินใจ จึงขอบพระคุณพี่ๆ ทุกท่าน
ที่ได้สู้อุตส่าห์สอบถาม และกำลังสอบถามให้ครับ
คิดว่าไอ้ที่มันเป็นไปไม่ได้ จะกลายเป็นไปได้
ก็ด้วยกำลังใจและความช่วยเหลือของพี่ๆ นี่เองครับ
จากตอนแรกที่เข้ามาตั้งกระทู้ เต็มไปด้วยความสงสัยและไม่มั่นใจ
ถึงตอนนี้เปลี่ยนความคิดไปเยอะทีเดียว