จริงๆแล้วอยากกลับไปซิ่วเรียนสายวิทย์ใหม่มากครับ
แต่แม่ไม่ยอมท่าเดียว ท่านค่อนข้างหัวโบราณ
ไม่ได้ใช้มาแต่คอมแต่เด็ก เลยไม่คิดว่าชีวิตจะ reset ได้
ตัดสินใจเลือกแล้ว ต้องเดินหน้าอย่างเดียว
เศร้ามากๆเลยครับ
ทางเดียวตอนนี้ที่อาจารย์แนะแนวแนะนำ
ก็คือให้เราลาออก แล้วโอนหน่วยกิตไปเรียนกศน.
ลงเรียนแล็บของกศน.เพิ่ม จบมาเอาวุฒิกศน.
ไปสอบได้ และมหาวิทยาลัยก็ไม่มีสิทธิตัดสิทธิเราถ้าสอบติด
เพราะโครงสร้างหลักสูตรจะมีหน่วยกิตวิทย์คณิตครบอ่ะครับ
ก็จะไม่เสียเวลาซ้ำชั้น
แต่ก็ไม่กล้าอ่ะครับ เหอะๆ
อีกอย่างถึงไปซ้ำชั้นเราก็จะจบม.6 อายุ 20
เรียนต่อไปจนจบต่อปริญญาตรี แล้วเรียนกศน.ไปด้วยได้ไหมครับ
เราก็จบอายุ 22 ห่างกันแค่ 2 ปี
แต่เราก็ได้ปริญญาตรีอีกใบไม่ใช่หรอครับ
แล้วถ้าตอนนี้จนถึงม.6 จะทิ้งวิทย์ คณิตไปก่อนจะเป็นไรไหมครับ
เพราะถึงจะสายศิลป์ภาษา แต่ที่นี่ก็เข้มมาก ไม่อย่างจะจับหลายอย่างอ่ะครับ
เดี๋ยวจะไม่จบเอา หนังสืออ่านนอกเวลามารายการยาวเหยียด
แบบที่อ่านไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรอื่นเลย
ศัพท์แต่ละคำ ภาษาสมัยสุนทรภู่ทั้งนั้น
บางคำที่ดูออกนะครับว่าเป็นคำไหนในปัจจุบัน
perchance,good morrow,yesternight ฯลฯ
5555+ เรียนศิลป์ก็ฮาอย่างนี้เองครับ
ส่วนวิทย์คณิตค่อยไปรื้อฟิ้นตอนเรียนปริญญาตรีได้ไหมครับ
สำหรับที่ฟิลิปปินส์ ก็คิดไว้เหมือนกันครับ
หากหมดหนทางจริงๆ ก็คงจะต้องไป
เพราะสอบถามพี่ๆที่เรียนที่นั่นบอกว่า
เขาบังคับแค่ต้องเรียนจบปริญญาตรี
ไม่ดูสายการเรียนตอนม.ปลาย เขาอาจไม่ได้มีสายเหมือนเราด้วย
บางโรงเรียนกำหนดเพียงแค่จบจากคณะสายวิทยาศาสตร์
บางโรงเรียนก็กำหนดแค่จบปริญญาตรีเฉยๆครับ
ไม่รู้พี่เขาพูดให้กำลังใจเราหรือเปล่านะครับ
ที่นี่เข้าเรียนง่ายมาก ถึงขนาดใครไปสอบก็ได้เกือบทุกคน
ส่วนตัวแล้วไม่ได้ซีเรียสเรื่องเวลาเลยครับ
คิดว่าชีวิตนี้เกิดมาครั้งเดียว อยากทำอะไรก็ควรจะพยายามทำตามฝัน
ยิ่งเป็นเรื่องเรียนเรื่องอาชีพด้วยแล้ว ยิ่งไม่สนใจเวลาเลย
พูดมากนิดนึงนะครับ หุหุ
ศักยภาพเด็กศิลป์

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณพี่ๆ มากครับ
สำหรับคำแนะนำที่มีค่ายิ่ง