ถ้าอย่างนั้น คุณหยก คงจะต้องลองไปดูว่าแพทย์ 19 สถาบันแห่งไหนบ้างที่ยังรับ NT อยู่
ถ้าไม่มีจริงๆ ลองเปลี่ยนไปเรียนแพทย์ทางเลือกดูไหม แผนไทย หรือ แผนจีน ก็ได้ เหมือนที่ม.มหิดล กับม.รังสิต เปิดสอนนะ(รู้แค่นี้แหละ)
เพราะ ในการรักษาหลายๆอย่าง โดยเฉพาะพวกอาการเรื้อรังทั้งหลาย ก็ต้องใช้แพทย์ทางเลือกกลุ่มนี้มารักษาเหมือนกัน
พี่เคยไปงานแนะแนว คณะแพทย์แผนไทยของม.รังสิต น่าสนใจมากเลยนะ จ่ายไม่แพงเท่าแพทยศาสตร์ แผนตะวันตกด้วย
เรียนเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้สมุนไพร การนวด สมดุลธาตุ เป็นหลัก ข้อดีอื่นๆ จบแล้วจะมีวุฒิเสมือนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทย ซึ่งจะเป็นคนเซ็นรับรองกิจการต่างๆที่ใช้สมุนไพร เช่น ธุรกิจสปา ด้วย (อารมณ์ประมาณผู้ตรวจสอบบัญชีน่ะ มีค่าธรรมเนียมให้) คนเรียนก็ไม่มาก ยังไม่แพร่หลายมาก จบแล้วมีงานทำแน่นอนตามโรงพยาบาลต่างๆ เปิดร้านเองก็ได้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ช่วยวงการสมุนไพรไทย เพราะ เรามีตำรายาดีๆมากมาย แต่ไม่ได้ทำให้อยู่ในรูปที่ต่างชาติยอมรับ ก็ไม่อยากให้มรดกทางปัญญา หรือผลประโยชน์ของประเทศชาติถูกขโมยไปใช่ไหม เป็นงานคิดค้นแบบที่น้องอยากทำด้วย ก็ลองคิดดูละกัน
ข้อเสีย ก็ไม่แพร่หลายเท่าแพทย์ตะวันตก อาจจะได้เงินน้อยกว่า แต่ก็ไม่ต้องทำงานหนักเท่า (หมอ 1 คนต้องรับมือกับประชากรเกือบ10,000 คนนะ)
สรุปแล้ว ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แพทย์แผนจีนก็เหมือนกัน โรงพยาบาลใหญ่ๆตอนนี้ก็มีแผนกนวดแผนไทย ฝังเข็มแบบจีนทั้งนั้นแหละ
ทำแล้วไม่ตกงานแน่นอน
ไม่ได้ชี้นำ แค่เสนอทางเลือก เส้นทางสายนี้มันยาว และก็มีหลายแขนง ขึ้นอยู่กับว่า จะอยู่ตรงส่วนไหน แต่ทุกส่วนก็สำคัญไม่แพ้กัน ขาดกันไม่ได้หรอก

โดยส่วนตัวแล้ว ไม่แน่ใจว่าโรงเรียนแพทย์ไหนในไทย ไม่คิดเกรด หรือคัดเกรดที่ 3.0 เวลาสมัครสอบบ้าง
ป.ล. เขียน
ทุนทรัพย์ ผิดอีกนะ
