Docchula Community

อยากทราบความแตกต่างระหว่าง กสพท กับ cpird ครับ

DekEnt

ตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่ครับ ตอนนี้มีแต่ข่าวลือมากมายจนไม่รู้อันไหนจริง เลยอยากถามพี่ๆครับ ว่า
1. ชั้น pre clinic เรียนด้วยกัน แต่ต่างกันตรงชั้น clinic จริงหรือเปล่าครับ และถ้าต่างกัน แต่ละสายจะได้เรียนที่ไหนบ้างครับ
2. cpird ต้องใช้ทุน 6 ปี(ที่เพิ่งปรับปีนี้) ซึ่งนานกว่า กสพท ใช่มั้ยครับ

ช่วงนี้โดนเพื่อนไซโคมากครับ ว่าอย่าเลือก cpird เลย แล้วยกข่าวลือมาบลาๆ เลยอยากทราบความจริงครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

Offline pipe64

  • *****
  • 3481
  • 604
คำถามข้อแรก
ปี 1-3 เรียนด้วยกัน เหมือนกันทุกอย่าง ทั้ง กสพท. และ CPIRD ODOD
ส่วนปี 4-6 กสพท. เรียนที่คณะต่อ
ส่วน CPIRD จะแยกออกไป รพ.ชลบุรี รพ.พระปกเกล้า (จันทบุรี) รพ.ภูมิพล (ดอนเมือง)
ซึ่งทั้งสามแห่งเป็นโรงพยาบาลระดับ ตติยภูมิ (tertiary care) ขนาด 800-1000 เตียง
(รพ.จุฬาฯ ประมาณ 1500+ เตียง) ซึ่งรพ.สมทบมีความพร้อมทั้งด้านสถานที่ บุคลากร
จัดการสอนโครงการ CPIRD ODOD มานานหลายสิบปีแล้วครับ

คำถามข้อ 2
ส่วนใหญ่ กสพท. ใช้ทุน 3 ปี แต่ถ้าต่อบางสาขาอาจใช้ทุนน้อยกว่า 3 ปี
ส่วน CPIRD และ ODOD ต้องใช้ทุนตามข้อตกลงให้หมดก่อนครับ (ซึ่งจะมากกว่าเท่ากับ กสพท.)

คำถามข้อ 3.
ไม่รู้ว่าข่าวลืออะไรบ้าง ถ้ายังไงโพสถามได้นะ

DekEnt

เพื่อน+รุ่นพี่ บอกว่าถ้าเรียน กสพท ชั้น clinic จะได้เปรียบกว่า cpird อะคับ
เขาหาว่าอาจารย์หมอที่สอน cpird ไม่ค่อยเก่ง(ดูเหมือนมีอคติเนอะ - -)

ส่วนตัวอยากเรียน cpird มากกว่าครับ(กลัวตอนใช้ทุน ต้องหลุดไปไกลๆอะ เลยอยากอยู่ใกล้ๆบ้าน)

ขอบคุณมากนะครับที่ตอบ :D

Offline pipe64

  • *****
  • 3481
  • 604
ถ้าเปรียบความรู้เป็นไข่ดาวหนึ่งใบ สิ่งที่ "ต้องรู้" ก่อนจบแพทยศาสตร์บัณฑิต  คือไข่แดง นั้นแพทย์สภากำหนดไว้ในเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งความรู้ระดับนั้นทั้งคณะ หรือ รพ.สมทบ ก็สอนให้น้องครบถ้วนอยู่แล้วครับ และมีการสอบประเมินผล (ศรว.) ก่อนจบ ทำให้รับประกันได้ว่า ไม่ว่าจะเรียนที่ไหนก็มีคุณภาพมากกว่าเท่ากับที่แพทยสภาต้องการแน่นอน

ข้อได้เปรียบของการเรียนใน รพ.แพทย์ ที่เป็นมหาวิทยาลัย คือ

1. ความรู้ลึกๆ ระดับวิจัย หรือ ศูนย์ความเป็นเลิศต่างๆ เช่น ศูนย์โรคลมชักครบวงจร, ศูนย์เปลี่ยนถ่ายตับ จะมีแค่ที่นี่  ซึ่งเป็นโอกาสดีที่น้องจะได้สัมผัสกับความรู้เชิงลึก ฟังบรรยายและเรียนรู้ซักถามจากผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์หลายท่านเป็นแนวหน้าของประเทศในเรื่องนั้นๆ

2. โรคที่ยากและซับซ้อน (rare disease) ซึ่งมักไม่ค่อยได้เห็นที่รพ.ข้างนอก อัตราการเจอ 1 ต่อหมื่น หรือ 1 ต่อแสน น้องจะได้เจอที่นี่ เพราะ รพ.รอบนอกจะส่งต่อ (refer) ผู้ป่วยมาเพื่อรักษาต่อ

ส่วนการเรียนที่ รพ.สมทบ นั้นมีข้อได้เปรียบ คือ

ทุกรพ.สมทบของจุฬาฯ นั้นเป็น รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่ (เป็น รพ.ที่รับการส่งต่อ(refer) ผู้ป่วยจากจังหวัดรอบข้าง >5 จังหวัด)  และ
มีผู้ป่วยจำนวนมาก และ โรคที่หลากหลาย และ common  และ
นิสิตที่ปฏิบัติงานมีเพียง 15 คนต่อวอร์ด (ที่คณะ 50 คนต่อวอร์ด)

ทำให้

ได้รับผู้ป่วยไว้มาก เฉลี่ย 5-15 เคส/นิสิต

รวมถึง

ได้ทำหัตถการมากกว่า เช่น ทำคลอด ที่ รพ.ชลบุรี ปี 4 ได้ทำคลอดประมาณ 5-8 เคส (ในคณะอยู่ที่ 1-2 เคส)


ส่วนเรื่องเนื้อหานั้น จริงๆ เนื้อหาทางคลินิก มีมากซะเหลือเกินกว่าจะเรียนรู้หมดจากการฟังบรรยาย หลายครั้ง(และเป็นส่วนมาก)ต้องอาศัยการศึกษาด้วยตนเอง จาก ตำราทั้งไทยและอังกฤษ, อินเตอร์เน็ต และสื่อออนไลน์ที่ทางหอสมุดคณะสมัครสมาชิกไว้


โดยสรุป
1. เนื้อหาที่ "ต้องรู้" พี่ว่าไม่ต่างกัน
2. คณะได้เปรียบเรื่อง วิชาการ แน่นๆ ลึกๆ เพราะ ผู้ทรงคุณวุฒิเก่งๆ จำนวนมากอยู่ที่นี่
3. รพ.สมทบ ได้เปรียบเรื่องหัตถการ, การดูแลผู้ป่วย เพราะ คนน้อยกว่า
4. ความต่างอื่นๆ คงเป็น เรื่องการใช้ทุน
5. ไม่เกี่ยวว่าเรียนที่ไหนจะเก่งกว่าที่ไหน เพราะ เรียนที่เดียวกันก็ยังเก่งไม่เท่ากัน (ความเก่ง เป็นผลที่เกิดจากพหุปัจจัย)

ไม่มีที่ไหนดีพร้อม แต่ทุกที่สอนให้น้องจบไปเป็นหมอที่ดีได้เหมือนกัน
« Last Edit: March 15, 2012, 07:52:14 pm by ไปป์ #5 »

Offline Nutmed

  • *
  • 184
  • 9
ทุกอันที่น้องถามพี่ก็เคยสงสัย การเรียนแพทย์ไม่เหมือนสมัยมัธยมครับ จริงอยู่อย่างที่commentบนว่า

แต่ความรู้ทางการแพทย์ตายแล้วเกิดใหม่3ชาติก็เรียนรู้ได้ไม่หมดหรอกครับ พวกที่พูดกันไปส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นหมอคิดกันไปเองหรือไม่ก็น้องๆที่พึ่งสอบเข้ามาได้ไม่นาน ซึ่งก็ยังไม่เคยเจอของจริง

พี่ว่าน้องลองไปสืบๆแนวทางการใช้ชีวิตของนิสิตแพทย์ที่อยู่ โรงเรียนแพทย์กับศูนย์แพทย์จะดีกว่าว่าชอบแบบไหน

ถ้าเป็นโรงเรียนแพทย์จะค่อนข้างเน้นวิชาการ การเรียน กฎระเบียบ เทคโนโลยี อย่างเป็นระบบกว่า

ถ้าเป็นศูนย์แพทย์น้องจะได้ใช้ชีวิตแบบเรียนไปทำงานไป เพราะมันคือโรงพยาบาลที่เน้นงานบริการ ความเชี่ยวชวญในทางปฏิบัติจะค่อนข้างมาก งานจะเหนื่อยหนัก แต่กฎระเบียบต่างๆจะน้อยกว่า การเรียนค่อนข้างต้องขวนขวายเพิ่มเติมเอง

อย่างไรก็ตามไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็อ่านหนังสือไม่ทันอยู่ดี...

chalee

เห็นคุณไปป์กับคุณข้างบนตอบคอมเม้นท์น้องแล้วแบบว่า...ที่ตัวเองเคยกังวลถ้าว่าสอบติดหมอแล้วต้องปรับตัวเยอะเพราะอายุห่างกว่าน้องๆ หลายปี คงไม่จริงเท่าไหร่ น้องๆ ที่มาตอบในบอร์ดทุกคนดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกกก สมแล้วเนอะที่เรียนแพทย์ ;)คนที่แก่ว่าเป็นสิบปีอย่างพี่เสียอีกที่ติงต๊องกว่ามาก :-[